เปิด 'งบหาเสียง' พรรคการเมืองกัมพูชา

เปิด 'งบหาเสียง' พรรคการเมืองกัมพูชา

ในขณะที่การเลือกตั้งทั่วไปของกัมพูชา วันที่ 29 ก.ค.นี้ ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ พรรคการเมืองต่าง ๆ ก็เริ่มเปิดเผยงบหาเสียงของตนกันแล้ว

แม้พรรคส่วนใหญ่อ้างว่าเงินทุนจำนวนมากมาจากเงินบริจาค แต่กลุ่มสังเกตการณ์การเลือกตั้งมองว่า จำเป็นต้องมีความโปร่งใสมากกว่านี้

พรรคประชาธิปไตยรากหญ้า (จีดีพี) เผยว่า ใช้จ่ายไป 300,000 ดอลลาร์ระหว่างการหาเสียง ขณะที่พรรคสันนิบาตเพื่อประชาธิปไตย (แอลดีพี) อ้างว่า ใช้งบไป 3 ล้านดอลลาร์

ส่วนพรรครัฐบาลอย่างพรรคประชาชนกัมพูชา (ซีพีพี) ของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ปฏิเสธที่จะเปิดเผยตัวเลขที่ชัดเจน แต่บอกว่าเงินทุนของพรรคมาจากการบริจาคของสมาชิกพรรค เช่นเดียวกับบรรดาแกนนำพรรคฟุนซินเปกที่ปฏิเสธเปิดเผยค่าใช้จ่ายหาเสียงของตน

ซก เอยแสน โฆษกพรรคซีพีพี เผยเมื่อวันอังคาร (24 ก.ค.) ว่า เงินทุนของพรรคไม่ได้มาจากงบรัฐบาลแม้แต่แดงเดียว แต่มาจากค่าธรรมเนียม 200 เรียล (0.05 ดอลลาร์) ที่สมาชิกพรรค 5.5 ล้านคนจ่ายให้พรรคในแต่ละเดือน

“เจ้าหน้าที่ในทุกระดับชั้น ตราบใดที่ยังเป็นสมาชิกพรรคอยู่ จะต้องจ่าย 200 เรียลต่อเดือน หากไม่จ่ายก็จะทำกิจกรรมทางการเมืองกับพรรคไม่ได้ ค่าธรรมเนียม 200 เรียลจากสมาชิกแต่ละคนถือเป็นเรื่องปกติ เรามีสมาชิก 5.5 ล้านคน คุณลองคำนวณดู และจะรู้ว่าเรามีงบประมาณเท่าไร”

อย่างไรก็ตาม ซก เอยแสนปฏิเสธที่จะเปิดเผยงบประมาณปีนี้ของพรรคซีพีพี เนื่องจากยังไม่หมดช่วงหาเสียง

สม อินน์ เลขาธิการพรรคจีดีพี คาดการณ์ว่า พรรคของเขาใช้จ่ายราว 300,000 ดอลลาร์ในช่วงหาเสียง และเงินทุนทั้งหมดมาจากการอุดหนุนและการบริจาคจากสมาชิกพรรค

“ค่าใช้จ่ายในการหาเสียงเลือกตั้งทั้งในกรุงพนมเปญและบางจังหวัดอยู่ที่ระหว่าง 5,000-30,000 ดอลลาร์ เงินเหล่านี้มาจากเงินอุดหนุนของพรรค และใช้ไปกับแผ่นพับหาเสียง เสื้อ หมวก ค่าเช่ารถ ค่าน้ำมัน น้ำและอาหาร”

ส่วนเขม เวียสนา ประธานพรรคแอลดีพี เผยในสัปดาห์นี้ว่างบประมาณราว 3 ล้านดอลลาร์ของพรรคมาจากเงินบริจาค และการหาเสียงในเมืองหลวงมีต้นทุน 1.5 ล้านดอลลาร์ ขณะที่การหาเสียงในจ.เสียมราฐ ใช้งบทั้งหมด 40,000 ดอลลาร์

“เงินก้อนนี้ไม่ได้มาจากสำนักงานใหญ่ของเรา แต่มาจากเงินอุดหนุนของผู้สนับสนุนพรรค”

ด้านเหน็บ บุน ชิน โฆษกและฝ่ายกฎหมายของพรรคฟุนซินเปก เผยว่า เขายังไม่สามารถเปิดเผยค่าใช้จ่ายทั้งหมดในช่วงหาเสียงเลือกตั้งได้ในขณะนี้ โดยบอกเพียงว่า การหาเสียงในแต่ละจังหวัดใช้จ่ายไปราว 70,000-150,000 ดอลลาร์ ขึ้นอยู่กับการเรี่ยไร

“เรามีแผนการใช้จ่ายงบประมาณ แต่ไม่มีตัวเลขที่ชัดเจนว่าจ่ายไปเท่าไร ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องเรี่ยไรเงินรวมกัน บางจังหวัดจำเป็นต้องใช้งบ 150,000 ดอลลาร์ ขณะที่จังหวัดอื่น ๆ ใช้จ่ายเพียง 100,000 ดอลลาร์ หากเทียบกับพรรคอื่น ๆ เราใช้เงินน้อยกว่าที่พวกเขาใช้กับเพียงชุมชนเดียวด้วยซ้ำ”

ขณะที่สม กุนเธียมี ผู้อำนวยการกลุ่มคณะกรรมการการเลือกตั้งที่เสรีและยุติธรรมในกัมพูชา หรือ “นิกเฟก” (NICFEC) ซึ่งร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้ง บอกว่า บางพรรคการเมืองใช้งบถึง 3-4 ล้านดอลลาร์ ขณะที่พรรคอื่น ๆ อ้างว่าใช้จ่ายไปเพียง 200,000-300,000 ดอลลาร์

“เราแค่ต้องการรู้ว่าค่าใช้จ่ายของพรรคเหล่านี้สมดุลหรือไม่เท่านั้นเอง”

การเลือกตั้งในวันที่ 29 ก.ค.ซึ่งเป็นที่คาดกันว่า นายกรัฐมนตรีฮุน เซนจะได้รับชัยชนะไปอย่างง่ายดายจะมีขึ้นท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยทางการได้เตรียมกองกำลังตำรวจกว่า 4,600 นายเพื่อเตรียมสกัดการชุมนุมประท้วงระหว่างการเลือกตั้ง

ขณะเดียวกัน สหประชาชาติ (ยูเอ็น) และบรรดาชาติตะวันตกต่างวิพากษ์วิจารณ์การเลือกตั้งครั้งนี้ว่ามีข้อบกพร่อง เนื่องจากศาลฎีกากัมพูชาสั่งยุบพรรคกู้ชาติกัมพูชา (ซีเอ็นอาร์พี) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านสำคัญเมื่อปลายปีก่อน และยังคุมตัวเขม สกคา แกนนำพรรคด้วยข้อหากบฏ