ใต้ร่มพระบารมีที่ควรสำนึก!!

ใต้ร่มพระบารมีที่ควรสำนึก!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา เรื่องราวถ้ำหลวงเขาขุนน้ำนางนอนกับกรณีเด็กๆ 13 คน ในนามหมูป่าอาคาเดมี่ แม่สาย เชียงราย คงจะจบลงด้วยดี

แม้จะมีบ้างที่จะมีการพยายามฉกฉวยใช้ประโยชน์เรื่องราวดังกล่าวเพื่อตนและหมู่คณะ และมีการพยายามจุดประกายไปในทางที่ไม่เป็นบวก ซึ่งเป็นเรื่องที่ควรเข้าใจในสมัยโลกกว้างทางแคบไร้กำแพงขวางกั้นในการสื่อสาร ที่ควรเข้าใจอย่างเป็นธรรมดา

แต่ที่น่าเสียดาย คือ การปล่อยให้เรื่องดีๆ หลายเรื่องผ่านพ้นไป โดยไม่ใส่ใจพิจารณาให้เข้าใจในความเป็นธรรม เพื่อการนำมาจุดประกายขยายผลในทางสร้างสรรค์ปลุกจิตสำนึกจิตวิญญาณของคนเราให้เข้าถึงคุณค่าแห่งธรรมด้วยการไม่มี หลักธรรมวิจัย การไม่รู้จักใช้หลัก โยนิโสมนสิการ ในการวิเคราะห์วิจัยเนื้อหา เรื่องราว เพื่อสรุปผลให้ตรงประโยชน์และความจริง จึงเป็นปมปัญหาที่นำไปสู่ภาวะขาดทุนที่เกิดจากการลงทุนอันยิ่งใหญ่อย่างไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ที่นานๆ จะเกิดปรากฏการณ์อย่างนี้ให้เห็นชัดในทุกมิติสักครั้ง ด้วยเรื่องราวความจริงที่เป็นสาระธรรม อันควรแก่การศึกษาให้เกิดปัญญารู้เห็นเชิงประจักษ์ ซึ่งควรนำมาศึกษาในมิติแห่งธรรม เพื่อน้อมนำไปสู่การพัฒนาจิตใจให้ดำรงอยู่ในสัมมาทิฏฐิ

สาระธรรมสาคัญที่แท้จริงแห่งเรื่องราวที่เด็กๆ ต้องเผชิญกับ มรณกาล ในห้วงเวลาดังกล่าว ได้ถูกทอดทิ้งไป ไม่ได้นำออกมาเปิดเผย เพื่อชักชวนสังคมศึกษาร่วมกันจนดูเหมือนจะมองข้ามไปถึงสถานการณ์ 9 วันอันตราย ที่เด็กๆ และทุกคนต้องเผชิญ ไม่ว่าด้านความรู้วิชาการทางเทคโนโลยีความรู้ทางด้านจิตวิญญาณ เช่น การรวมจิต

อย่างไรจึงทำให้เกิดพลังธรรมขึ้นคุ้มครองรักษา จนสามารถผ่านพ้นวิกฤติการณ์ที่เลวร้ายสุดๆ ไปได้ การอยู่ร่วมกันด้วยวิธีการอย่างไร เพื่อประทังชีวิตให้ผ่านพ้นไป นาทีต่อนาที ชั่วโมงต่อชั่วโมง วันต่อวัน ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ควรลงไปในรายละเอียด มากกว่าการกล่าวเล่าเรื่องผ่านไปผ่านมาจนเริ่มสับสนในเนื้อหาสาระ

จึงเสียดายโอกาสดีๆ ที่ควรจะได้สื่อสารบทเรียนธรรมเพื่อชีวิต ภายใต้กฎเกณฑ์ธรรมชาติที่สัตว์โลกต้องเคารพและปฏิบัติตามอย่างซื่อตรง ดำรงอยู่ในสัจจะที่เป็นธรรมที่ปรากฏเกิดขึ้นในครั้งนี้ ด้วยวันนี้ของเด็กๆ จะไม่ปรากฏอย่างที่เป็นอยู่เลย หากขาดการใช้ความรู้ความเข้าใจในธรรมที่มีอยู่ในธรรมชาติ ไม่ว่าในรูปแบบใด ดังปรากฏการณ์การสานสัมพันธ์ทางจิตวิญญาณจากดวงจิตเป็นล้านๆ ดวง จากหมู่ชนจำนวนมากที่มีหน้าที่ มีศักยภาพ จากหน่วยงานต่างๆ ที่เข้าไปช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรม ด้วยพลังจิตสร้างสรรค์ที่สามารถรวมกันเป็นหนึ่งเดียว จนขับเคลื่อนไปสู่การทำงานอย่างมีเอกภาพ ประสิทธิภาพ ซึ่งมิใช่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นปรากฏให้เห็นได้บ่อยๆ ครั้งในโลกใบนี้ ดังการเกิดธัมมานุภาพให้เข้าไปบรรเทามรณกาลให้ทุเลาลงไปได้อย่างอัศจรรย์

เมื่อพิจารณาลงไปให้ลึกละเอียด ยิ่งพบสัจจะ ความจริงของการเกิดเอกภาพแห่งธรรม ขึ้น ซึ่งจะเป็นไปไม่ได้เลย ถ้าไม่มีอำนาจหนึ่งเกิดขึ้นมาช่วยบริหารจัดการหล่อหลอม เพื่อความเป็นหนึ่งที่เรียกว่า พระบารมีธรรม คุณธรรมของผู้ปกครองแผ่นดินที่ทรงพระมหากรุณาธิคุณ จนเกิดศักยภาพแห่งการขับเคลื่อนที่นำไปสู่การหลอมรวมจนเกิดประสิทธิภาพให้ฝ่าคลื่นแห่งมรณกาลออกมาได้ ซึ่งหากสาธุชนมีปัญญา รู้เห็นเหตุปัจจัยของเรื่องดังกล่าวจริงๆ แล้ว ต้องอุทานออกมาดังๆ อย่างแน่นอนว่า ไม่ธรรมดาเลย !!

อาตมายังจดจำคำกล่าวของพระเถราจารย์รูปหนึ่ง พร้อมข้อเขียนแนะนำที่ถวายแด่บุคคลสาคัญท่านหนึ่ง ว่า “เด็กๆ อยู่ในห้วงมรณกาล หนีกันไปติดอยู่ในซอกเล็ก ตรงประมาณเนินฐานนม (สาว) แต่เด็กๆ เหล่านี้สามารถใช้สมาธิจิตสื่อออกมา เพื่อขอความช่วยเหลือจากภายนอกได้ (หมายถึง การอธิษฐานจิตด้วยสมาธิในระดับใดระดับหนึ่ง) แม้จิตโดยรวมของเด็กๆ โดยเฉพาะเด็กที่มีอายุมากกว่าคนอื่น (โค้ชเอก) จะสว่างขาวแสดงถึงคุณภาพจิตที่ดี สามารถรับพลังธรรม (บุญกุศล) ได้ แต่มรณกาลเกิดปรากฏขึ้นมาตลอดเวลา จึงควรช่วยเหลือโดยด่วนให้ถูกต้อง ธรรมวิธี ทั้งทางโลกและทางธรรม”

จึงขอหยิบยกเรื่องดังกล่าวมาเขียนอีกครั้ง เพื่อฝากถึงทุกคนที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะเด็กๆ ทั้ง 13 คน พ่อแม่ญาติพี่น้อง ให้ได้นำไปคิดพิจารณา เพื่อการจัดการอย่างมีคุณธรรม “กตัญญูกตเวทิตา” โดยเฉพาะใกล้สมัยวันที่ 28 กรกฎาคม 2561 ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ทรงพระมหากรุณาอันยิ่ง จนเหตุการณ์ดังกล่าวจบลงอย่างเป็นธรรม

เจริญพร