กลยุทธ์การลงทุนเดือนกรกฎาคม

กลยุทธ์การลงทุนเดือนกรกฎาคม

สวัสดีครับท่านนักลงทุนกลับมาพบกันอีกครั้ง เพื่อมาคุยกัน เรื่องกลยุทธ์การลงทุนในเดือนกรกฏาคม

เพื่อให้ทราบว่าท่านนักลงทุนต้องเตรียมกำหนดกลยุทธ์อะไรกันบ้างในเดือนนี้

สำหรับภาวะตลาดหุ้นในเดือนหน้า คาดว่า SET INDEX จะแกว่งตัว SIDEWAYS DOWN จากบรรยากาศการลงทุนที่ไม่ดี ทั้งประเด็นกดดันยังคงเป็นเรื่องสงครามการค้า การขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ และแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติ ทำให้ตลาดหุ้นมีโอกาสอ่อนตัวลงไปทดสอบระดับ1,560จุด โดยประมาณ

ในเรื่องความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าสหรัฐ ฯ กับจีน เป็นความกังวลที่เกี่ยวกับการหดตัวของเศรษฐกิจโลกในอนาคตนั้น ผมมองว่าถ้าดัชนีหุ้นยังคงลงไปมากกว่านี้ ทำให้เห็นว่าดัชนีตลาดหุ้นได้ตอบรับในเรื่องสงครามการค้าไปแล้ว ทั้งนี้ถ้าตลาดหุ้น ยังคงปรับตัวลงอีกก็เป็นโอกาสของนักลงทุน

ประเด็นต่อมาที่ส่งผลต่อตลาดหุ้นในช่วงนี้ คือการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ฯ แนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยช่วงนี้ ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติ ขายหุ้นออกมาตลอดและหนักมากในช่วงนี้ แรงขายจากต่างชาติ เนื่องมาจากแรงกดดันจากการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ทำให้ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ต่างชาติขายหุ้นไทยไปแล้ว 1.8 แสนล้านบาท ซึ่งดูจากหลาย ๆ ปัจจัยแล้ว ต่างชาติน่าจะยังขายต่อเนื่อง

ในเดือนที่ผ่านมา ผมพบนักลงทุนที่ใด ผมมักเจอคำถามหลัก ๆ ว่า นักลงทุนต่างชาติจะขายถึงเมื่อไหร่ อีกคำถามก็คือ นักลงทุนต่างชาติยังมีหุ้นมาขายอีกมากเท่าไหร่ ซึ่งเป็นคำถามที่ผมก็ตอบไม่ได้ ยากต่อการคาดการณ์อย่างยิ่ง

จะเห็นว่าจากการขายหุ้นออกของต่างชาติทำให้ค่าเงินบาทอ่อนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ฯ จะเห็นแรงขายต่างชาติมาแรง เรียกว่า ใครชกก่อนได้เปรียบ ตรงค่าเงินบาทที่อ่อนลงทุกวัน

มาดูข่าวดี ที่นักลงทุน ยังไม่มองกันบ้าง นั่นคือ สศค. คาด GDPไตรมาส 2โตเกิน 4% แต่ไม่เท่าGDP ไตรมาส 1 ที่โตสูงถึง 4.8% จากการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนที่ขยายตัว และรายได้เกษตรกรที่เริ่มกระจายไปทุกภูมิภาคและโตมากถึง 9% Y-Y สูงสุดในรอบ 13 เดือน ส่วนคาดการณ์ทั้งปีของ สศค. ยังคงไว้ที่ 4.5% โดยจะพิจารณาปรับประมาณการอีกครั้งในเดือนนี้

ในประเด็น GDP บ้านเรา ถือว่าดีมาก หลายค่ายปรับประมาณการขึ้น แต่ที่แย่คือตอนนี้ไม่มีนักลงทุนกลุ่มไหนให้ความสนใจ ในเรื่องนี้ นักลงทุนยังคงให้ความสำคัญกับประเด็นสงครามการค้าและการขึ้นดอกเบี้ยของ ธนาคารกลางสหรัฐ ฯ เป็นสำคัญ

มาดูกันที่ การซื้อขายแยกตามกลุ่มนักลงทุน (ข้อมูลวันที่ 1 – 28 มิ.ย. 2561)นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 51,473.84  ล้านบาท สถาบันในประเทศ ซื้อสุทธิ 20,871.17ล้านบาท พอร์ตโบรกเกอร์ ขายสุทธิ 11,293.24  ล้านบาท และรายย่อย ซื้อสุทธิ 41,895.91  ล้านบาท

ในเดือนที่ผ่านมาจะเห็นว่าตลาดหุ้นไหลหลุด แนวจิตวิทยาทุกจุด 1,700 จุดหลุด แถมหลุด 1,600 จุดอีกด้วย ดังนั้นก่อนจบการลงรอบนี้ ต้องระวังการลงแรง ๆหลังจากนั้นตลาดหุ้น มีโอกาสจะปรับตัวเป็นขาขึ้นได้

ดังนั้นในช่วงนี้ นักลงทุนต้องใกล้ชิดกับตลาดหุ้นให้มาก เพื่อจะได้หาจังหวะเข้าลงทุนระยะยาว ส่วนท่านใดที่ยังไม่ได้ซื้อ LTF ช่วงนี้ตลาดหุ้นลงมา ควรหากองทุน เพื่อซื้อลงทุนได้แล้ว

ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนในเดือนกรกฎาคมนี้ คือ ทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานที่ลงมาแรง และเน้นพักเงินลงทุนในหุ้น DOMESTIC และDEFENSIVE PLAY รวมทั้งกลุ่มที่ราคาหุ้นค่อนข้าง Laggard กว่ากลุ่ม อีกทั้งกลุ่มที่มี Forward PE ต่ำ สุดท้าย ห้ามลืมหุ้นที่จ่ายปันผลสูงด้วย

ในเดือนนี้ตลาดหุ้นมีแนวรับอยู่ที่ 1,550 จุด และมีแนวต้านอยู่ที่ 1,640 จุด

ก่อนจากกันเช่นทุกครั้ง ต้องบอกกันว่า การลงทุนมีความเสี่ยง นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุนทุกครั้ง พบกันใหม่เดือนหน้า สวัสดีครับ