สปอนเซอร์จีน ฮีโร่หนุนรายได้ขาลง ‘ฟีฟ่า’

สปอนเซอร์จีน ฮีโร่หนุนรายได้ขาลง ‘ฟีฟ่า’

ศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย เปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่และดวลกันดุเดือดแม้เพิ่งเริ่มแข่งเพียง 2 วัน

ที่สำคัญคือสามารถดึงดูดเงินลงทุนจากสปอนเซอร์ทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาสปอนเซอร์จากแดนมังกรที่กลายเป็นกลุ่มทุนส่วนสำคัญของทัวร์นาเมนต์นี้ไปแล้ว แม้ “ฟีฟ่า” จะมีรายได้จากผู้สนับสนุนลดลงก็ตาม

รายงานล่าสุดชื่อ “นีลเส็น สปอร์ตส์ เวิลด์ ฟุตบอล รีพอร์ท 2018” พบว่า รายได้สปอนเซอร์ของสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ หรือ ฟีฟ่า ในช่วงปี 2015-2018 อยู่ที่ 1,450 ล้านดอลลาร์ ลดลงจาก 1,620 ล้านดอลลาร์ระหว่างปี 2011-2014 ซึ่งนับรวมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิลด้วย

รายได้สปอนเซอร์ส่วนใหญ่ของฟีฟ่ามาจากการแข่งขันฟุตบอลโลก ซึ่งจะมีการทำข้อตกลงผู้สนับสนุนทัวร์นาเมนต์กันเป็นรอบ ๆ ละ 4 ปี

ทว่านับตั้งแต่เกิดกรณีอื้อฉาวการทุจริตทั่วองค์กร ฟีฟ่าก็สูญเสียสปอนเซอร์เวิลด์คัพรายสำคัญรวมไปถึง “โซนี่” “จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน” และ “คาสตรอล” ซึ่งผลสำรวจช่วงปี 2015-2018 ของนีลเส็นแสดงให้เห็นว่าฟีฟ่าขายสปอนเซอร์ได้ยากลำบากกว่า 2 รอบก่อนหน้า

นีลเส็นระบุว่า สปอนเซอร์กลุ่มใหม่ ซึ่งรวมถึงหลายรายจากจีน ช่วยให้ฟีฟ่าฟันฝ่ามรสุมนี้ไปได้ ขณะเดียวกันฟีฟ่ากำลังหมายมั่นที่จะกลับมาเติบโตอีกครั้งในการหารายได้สปอนเซอร์ก่อนถึงเวิลด์คัพ 2022 ที่กาตาร์ และคาดหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากแบรนด์ต่าง ๆ ในตะวันออกกลางที่หาทางกอบโกยรายได้จากการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งแรกในตะวันออกกลางเช่นกัน

แม้ฟุตบอลโลกครั้งนี้ไม่มีสปอนเซอร์จากอเมริกาใต้แม้แต่รายเดียวและมีเพียง 1 รายจากแอฟริกาคือรัฐบาลอียิปต์ที่ทีมชาติอยู่กลุ่มเดียวกับเจ้าภาพรัสเซีย แต่บรรดาสปอนเซอร์เอเชียคิดเป็นสัดส่วน 39% ของข้อตกลงสปอนเซอร์ทั้งหมด

ธุรกิจจีนซึ่งนำโดย “แวนด้า กรุ๊ป” ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุดของจีนและเป็น 1 ใน 7 พันธมิตรเวิลด์คัพ 2018 รวมถึง 3 ใน 5 สปอนเซอร์อย่างเป็นทางการของฟุตบอลโลกครั้งนี้ อย่าง “ไฮเซนส์” ผู้ผลิตโทรทัศน์และตู้เย็น “วีโว่” ผู้ผลิตสมาร์ทโฟน และ “เหมิงนิ่ว” บริษัทผลิตภัณฑ์นม จะสร้างชื่อเสียงได้อย่างที่ไม่เคยทำได้มาก่อนจากทัวร์นาเมนต์นี้ และหลายคนคงเห็นป้ายโฆษณาข้างสนามของแบรนด์เหล่านี้กันบ้างแล้ว

ปัจจุบัน กีฬาฟุตบอลกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในจีน ด้วยการสนับสนุนอย่างเข้มแข็งจากรัฐบาล ซึ่งพยายามอย่างมากเพื่อเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกให้ได้โดยเร็วที่สุด หลายฝ่ายคาดว่า จีนจะเสนอเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกในอนาคต และมีแผนจะสร้างสนามฟุตบอล 70,000 แห่งทั่วประเทศภายในปี 2020

ข้อตกลงเป็นสปอนเซอร์ที่ธุรกิจจีนทำกับฟีฟ่า แสดงให้เห็นว่าบริษัทของจีนกำลังเดินตามความพยายามของรัฐบาลเพื่อสร้างชื่อเสียงในทัวร์นาเมนต์นี้

ไซมอน แชดวิก ศาสตราจารย์ภาคอุตสาหกรรมกีฬาของมหาวิทยาลัยซัลฟอร์ดในอังกฤษ เผยกับเดอะ การ์เดียนว่า ในขณะที่ฟีฟ่าถูกมองว่าเป็น “แบรนด์ยาพิษ” ที่บริษัทตะวันตกหลายรายไม่ต้องการข้องเกี่ยวด้วย แต่จีนกำลังคว้าโอกาสนี้ไว้ 

“มุมมองของจีนเกี่ยวกับจริยธรรมและธรรมาภิบาลแตกต่างจากมาตรฐานของตะวันตก และเป็นเรื่องง่ายมากสำหรับบริษัทจีนที่จะบอกให้ฟีฟ่าเดินหน้าต่อไป”

ผลสำรวจในตลาดสำคัญ 18 แห่งพบว่า กว่า 43% ของผู้ตอบแบบสำรวจบอกว่า “สนใจ” หรือ “สนใจมาก” ในกีฬาฟุตบอลทำให้กลายเป็นกีฬายอดนิยมที่สุดในโลกเหนือบาสเกตบอล อยู่ที่ 36% ซึ่งเป็นเหตุผลที่ฟุตบอลดึงดูดสปอนเซอร์จำนวนมาก

สำหรับในจีน ความสนใจฟุตบอลเพิ่มขึ้นจาก 27% ในปี 2013 มาอยู่ที่ 32% ในปี 2017 ขณะที่อินเดียสนใจฟุตบอลเพิ่มขึ้นจาก 30% มาอยู่ที่ 45%