ธรรมชาติพื้นฐานของคนไทยมีความชอบสังคมมากกว่าโดดเดี่ยว เราเป็น Connected Society มากกว่าฝรั่ง สมัยก่อน
เรามีสภากาแฟที่เอาไว้อัพเดทข่าวสาร เราพร้อมจะกระโจนเข้าสู่บทสนทนาของคนไม่คุ้นเคยโดยที่ไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโต ยิ่งเมื่อเรามีคำเรียกคนแปลกหน้าแบบเรียกญาติ เช่น พี่ ป้า น้า อา ยิ่งทำให้เราเป็นสังคมที่ใกล้กันง่ายมากขึ้น
การเกิดของเว็บไซต์ Pantip.com เมื่อหลายปีก่อนและมีชีวิตยืนยาวอย่างแข็งแรงได้เป็นสิบปี เพราะเป็นคอมมูนิตี้ที่ให้คนไม่รู้จักทั้งหลายได้แลกเปลี่ยนกันในวงที่กว้างขึ้น เรียกว่าจะเป็นใครมาจากไหนไม่สำคัญ ขอให้มีความสนใจในเรื่องราวหรือประเด็นเดียวกัน ก็สร้างความหฤหรรษ์ของบทสนทนาได้ มีคนเห็นด้วย มีคนเห็นต่าง ด้วยความคิด ประสบการณ์ และพื้นฐานที่ไม่มีใครเหมือนใคร ก็เป็นอรรถรสที่แปลกใหม่ไปอีกแบบ
ในยุคโซเชียลมีเดียเฟื่องฟู ปริมาณการใช้เฟซบุ๊ก ไลน์ ยูทูบ อินสตาแกรมมากขึ้นเป็นลำดับ ทั้งในแง่ปริมาณคนใช้ และเวลาที่ทุ่มเทให้สื่อเหล่านี้ ถนนสายโฆษณาถาโถมเข้าหาฝูงปลาในแต่ละบ่ออย่างสนุกสนาน ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์ม ก็มีกลวิธีในการสร้างมูลค่าให้กับธุรกิจพร้อมๆ กันรักษาฐานผู้ใช้ได้อย่างเยี่ยมยุทธ์ อย่างไรก็ตาม มีโซเชียลมีเดียอีกแพลตฟอร์มหนึ่งที่ดูคล้ายเป็นม้านอกสายตา เพราะปริมาณคนเล่นไม่มากเท่าเพื่อนๆ แต่ถึงกระนั้น “ทวิตเตอร์” ก็มีจุดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง เป็นความแตกต่างที่สร้างความเติบโตได้อย่างน่าสนใจ
ณ วันนี้ หากดูข้อมูลตัวเลขของกลางปี 2561 นี้ ในแต่ละวัน มีคนไทยใช้งานทวิตเตอร์ราว 7.5 ล้านคน โดยยอดการเติบโตของโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มนี้ทั่วโลกเป็น 12% ในเอเชียและแปซิฟิกเฉลี่ย 30% ประเทศที่โดดเด่นมากอันดับ 1 คืออินเดีย 67% และรองลงมาคือไทยแลนด์บ้านเรา 53%
หากเจาะถึงกลุ่มผู้ใช้งานในบ้านเรา ที่เป็นหญิงและชายอย่างละครึ่งเท่าๆ กันนั้น ตัวเลขอายุของผู้ใช้งานกลุ่มใหญ่ราว 65% นั้น เฉลี่ยอยู่ที่ 18-35 ปี ซึ่งถือว่าค่อนข้างจะเด็กทีเดียว นัยว่าเด็กๆ บางคน เริ่มหนีพ่อแม่จากแพลตฟอร์มคุ้นเคยไปหาแพลตฟอร์มที่พ่อแม่ไม่ค่อยคุ้นอย่างทวิตเตอร์ ประมาณว่า แม้จะเป็นสังคมออนไลน์ ก็ไม่อยากให้พ่อแม่รู้
แม้จะไม่ใช่แพลตฟอร์มที่คนไทยใช้เยอะที่สุด แต่คนที่เป็นผู้ทรงอิทธิพลทางความคิด เช่น Influencer, นักข่าว, นักคิด มีตัวตนอยู่ ณ ที่นี้ไม่น้อย และหลายต่อหลายครั้งที่เมื่อมีข่าวสารสำคัญ เรื่องด่วนๆ ร้อนๆ หรือกระแสต่างๆ การย่องเข้ามาส่องทวิตเตอร์ จะทำให้เราได้ข้อมูลนั้นๆ เป็นอย่างดี หรือง่ายๆ ถ้ารายการทีวีไหนฮิต ละครไหนดัง ศิลปินดาราคนไหนกำลังมาแรง มาค้นหา “บทสนทนา” จากที่นี่ก็จะได้อะไรดีๆ ติดไปไม่น้อยและทวิตเตอร์เองก็สร้างวงกระเพื่อมบนออนไลน์จากแฮชแทกเด่นๆ อยู่เนืองๆ เช่น ปี 2560 ก็มีแฮชแทกท็อปๆ เป็นต้นว่า #MissUniverse (139 ล้านครั้ง), #GOT7, #themasksinger, #TheFaceThailandseason3, #เป๊กผลิตโชค แต่ถ้าอันดับ 1 ของแฮชแทกประจำปี 2561 ถนนทุกสายต้องยอมรับใน #บุพเพสันนิวาส ปรากฏการณ์ที่ทำให้คนไทยเลือดรักษ์ความเป็นไทยฉีดพล่านกันถ้วนหน้า
หากจะหา Information แน่นอนว่ากูเกิ้ลคือชื่อแรกที่เรานึกถึง แต่ถ้าต้องการหา Conversation บางครั้ง ช่องทางตัวเลือกอาจมีมากขึ้น ทั้งเว็บคอมมูนิตี้ต่างๆ อย่าง Pantip หรือแพลตฟอร์มต่างๆ อย่างทวิตเตอร์ ก็เป็นแหล่งข้อมูลที่น่าสนใจ โดยเฉพาะหากต้องการเล่นกับความไว
โลกนี้ มีอะไรดีๆ ให้เราเลือกช้อปเลือกใช้ได้เยอะอย่างไม่รู้เบื่อ แต่ละสิ่งอย่างล้วนมีข้อดี จุดเด่นแตกต่างกันไป “บทสนทนาจากคนแปลกหน้าที่ไม่คุ้นเคย นำไปสู่ประสบการณ์และมุมมองใหม่” ไม่ว่าในโลกออฟไลน์หรือออนไลน์ เพียงเราเปิดกว้าง และรักการเรียนรู้อยู่เสมอ ก็จะมีวัตถุดิบดีๆ มาปรุงชีวิตให้มีสีสันได้ไม่สร่างซา!