ทำไม ICO จะเป็น New Normal ในอนาคต

ทำไม ICO จะเป็น New Normal ในอนาคต

สิ่งที่ Crypto Asset แตกต่างจากหุ้นคือรูปแบบนำไปใช้ประโยชน์ที่จะต้องผ่าน Blockchain เท่านั้น

แม้ตอนนี้การระดมทุนด้วยวิธีการICOจะยังไม่เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกแต่ด้วยคุณสมบัติพิเศษที่มีอยู่ในตัวมุมมองส่วนตัวของผมเชื่อว่าICOมีโอกาสที่จะมาแทนที่การลงทุนด้วยVenture Capitalหรือแม้แต่การนำบริษัทเข้าตลาดหุ้นลองไปดูทีละข้อกัน

1.สามารถระดมทุนได้ทั่วโลกด้วยภาษาเดียวกันนั่นคือ Blockchainทุกวันนี้ถ้าเราทำธุรกิจในไทยจะระดมทุนก็ทำได้แค่นักลงทุนในไทยหรือเข้าตลาดหุ้นไทยแต่อนาคตBlockchainจะทำให้ทุกคนในโลกแม้ไกลกันแค่ไหนก็สามารถลงทุนกับเราได้หมดห่างกันแค่ปลายนิ้วสัมผัสเพราะสื่อสารกันได้ทางอินเทอร์เนตที่สำคัญไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของสกุลเงินที่แตกต่างและการย้ายเงินทุนอีกต่อไปเพราะทุกคนจะใช้เงินสกุลเดียวกันคือ Crypto ซึ่งมีต้นทุนและข้อจำกัดในการแปลงค่าระหว่างสกุลน้อยมาก

2.มีอิสระในการระดมทุน ด้วยคอนเซบท์ของการกำจะดศูนย์กลาง(Decentralized)แม้ตอนนี้แต่ละประเทศมีความแตกต่างกันในแง่ของกฎเกณฑ์การทำ IPO หรือลงทุนด้วย VC และถ้าเราทำธุรกิจอยู่ประเทศไหนก็หนีไม่พ้นที่จะต้องอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์การระดมทุนของประเทศนั้น

แต่การทำ ICO จะปลดล๊อกพรมแดนการลงทุนได้เพราะเราสามารถเลือกจะจดทะเบียนการทำ ICO ที่ประเทศไหนก็ได้ที่เป็นมิตรและเปิดกว้างต่อการทำ ICO แม้ว่าเราจะมีธุรกิจหลักอยู่กันคนละประเทศก็ตาม

ปัจจุบันนี้หากเราอยากจะลงทุนในบริษัทระดับโลกอย่าง Facebook,Google,Amazon การเปิดบัญชีซื้อขายหรือการโอนเงินระหว่างประเทศเป็นไปได้ยากมากแต่การทำ ICO จะทำให้เราสามารถลงทุนในบริษัทระดับโลกได้อย่างง่ายดายไม่แน่ว่าสตาร์ทอัพที่เราเข้าไปลงทุนอาจจะเติบโตจนกลายเป็นบริษัทระดับโลกก็เป็นได้

โอกาสเดียวที่ความเป็นไปได้ข้อนี้จะไม่เกิดขึ้นคือสหประชาชาติรวมใจกันตั้ง กลต.แห่งประชาคมโลกมาควบคุมการทำ ICO ให้เป็นมาตราฐานเดียวกันทั้งโลกลองจินตนาการดูครับว่าจะเป็นจริงได้ไหม

3.ได้ทั้ง Assetการลงทุนและ Utility ถ้าลงทุนผ่าน Crowd Funding, VC หรือเข้าตลาดหุ้นนักลงทุนก็ได้แค่ความเป็นเจ้าของหุ้นไปเทรดกันในกระดานหรือรับปันผลแต่ถ้าลงทุนใน ICO อาจจะได้ทั้งความเป็นเจ้าของในรูปแบบหุ้นส่วน(กรณีที่เป็นSecurities Token)และได้TokenเอาไปเทรดในExchangeจะลงทุนยาวหรือสั้นได้เหมือนกับหุ้น

สิ่งที่ Crypto Asset แตกต่างจากหุ้นก็คือรูปแบบนำไปใช้ประโยชน์(Utility)ที่จะต้องผ่าน Blockchain เท่านั้นเช่นสามารถนำTokenไปใช้แลกสินค้าและบริการการกู้ยืมเงินแบบP2Pฯลฯหรือแม้แต่การชำระเงินที่ทำได้โดยง่ายนี่คือความพิเศษที่สินทรัพย์ดิจิทัลมีดีกว่าสินทรัพย์ปกติ

ทุกวันนี้ Crypto Asset ยังมีขนาดต่างกับTradition Asset อย่างตลาดหุ้นอย่างมากแต่ด้วยจุดเด่นที่การระดมทุนแบบเดิมๆไม่สามารถทำได้ตามที่เล่าให้ฟังไปเรามาดูกันว่าอนาคต 2-3 ปีข้างหน้ามันจะเป็นไปตามที่ผมพยากรณ์เอาไว้ไหมว่ามูลค่าการระดมทุนด้วยวิธีการ ICO จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญหลายๆรัฐบาลทั่วโลกจะให้การยอมรับและการหลอกหลวง(Scam)จะลดลงอย่างมากเพราะตลาดจะคัดกรองของที่ไม่มีคุณภาพออกไปเอง