กลยุทธ์การลงทุนเดือนพฤษภาคม

กลยุทธ์การลงทุนเดือนพฤษภาคม

กลยุทธ์การลงทุนเดือนพฤษภาคม

สวัสดีครับท่านนักลงทุนกลับมาพบกันอีกครั้งเพื่อมาคุยกันเรื่องกลยุทธ์การลงทุนในเดือนพฤษภาคม เพื่อให้ทราบว่าท่านนักลงทุน ต้องเตรียมกำหนดกลยุทธ์อะไรกันบ้างในเดือนนี้

การซื้อขายในเดือนนี้ หุ้นจะขึ้นหรือลง ขอชวนทุกท่านมาดูกันที่สถิติกันก่อน จากสถิติที่ผ่านมา 8 ปี ฝ่ายวิเคราะห์ของ บล.ฟินันเซีย ไซรัส พบว่า ดัชนีตลาดหุ้นในเดือนพฤษภาคม จะปรับลงเฉลี่ย 1.7% จากเดือนก่อน เป็นเหตุจากการขายของนักลงทุนต่างชาติเป็นหลัก โดยปี 2010 - 2013 ดัชนีปรับลงทุกปี แต่ในระยะหลังตั้งแต่ปี 2014 - 2017 เป็นต้นมา ดัชนีตลาดหุ้นบวกและลบสลับกัน

สำหรับเดือนพฤษภาคม ปีนี้ คาดว่าตลาดหุ้นมีความเสี่ยงในการเกิด Sell In May ที่มีสาเหตุหลักมาจากปัจจัยจากต่างประเทศ นั่นคือการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed

จากการประชุม FOMC คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50 - 1.75% แถลงการณ์ของเฟดที่ตอกย้ำว่าเศรษฐกิจปรับตัวขึ้น ตลาดแรงงานแข็งแกร่ง และเงินเฟ้อเข้าใกล้เป้าที่ 2% เท่ากับเปิดโอกาสที่ Fed อาจขึ้นดอกเบี้ยได้มากกว่า 3 ครั้ง ทั้งนี้ตลาดหุ้นยังคงจับตาการประชุม FOMC ครั้งหน้า วันที่ 12 - 13 มิถุนายน นี้

สำหรับการซื้อขายแยกตามกลุ่มนักลงทุน เดือนเมษายน 2561 นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 21,450  ล้านบาท สถาบันในประเทศ ซื้อสุทธิ 15,552 ล้านบาท พอร์ตโบรกเกอร์ ขายสุทธิ 1,336  ล้านบาท และรายย่อย ซื้อสุทธิ 7,234 ล้านบาท

ส่วนปัจจัยที่กดดันตลาดในเดือนนี้คือ ความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ ฯ ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ ฯ ซึ่งจะทำให้ตลาดกังวลเรื่องธนาคารกลางจะขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า 3 ครั้งในปีนี้ รวมถึงความกังวลที่จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนหน้าอีกด้วย นอกจากนี้ Bond Yield สหรัฐ ฯ ยังมีโอกาสขยับเกิน 3% ซึ่งเป็นระดับจิตวิทยา ส่งผลให้ต่างชาติปรับพอร์ต เพราะเศรษฐกิจที่ดีต่อเนื่อง รวมถึงการประมูลพันธบัตรจำนวนมากในช่วงต้นเดือน

ในเดือนนี้หุ้นอาจลงแต่ลงไม่ลึก เพราะราคาน้ำมันจะช่วยพยุง เดือนนี้หุ้นน้ำมันจะขึ้นได้ น่าจะมาจากแรงหนุนจากสถานการณ์ความตึงเครียด เกี่ยวกับข้อตกลงของอิหร่านที่อาจถูกตัดความสัมพันธ์อีกครั้ง ประกอบกับ ปริมาณการผลิตน้ำมันจากเวเนซุเอลาที่ลดลงไปกว่า 40% ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เป็นอานิสงค์ต่อกลุ่มพลังงานต้นน้ำและปิโตรเคมี

และยังมองว่าตลาดหุ้นจะขยับขึ้นได้อีกในช่วงครึ่งปีหลัง เพราะตลาดหุ้นยังไม่ได้มองการเติบโตของเศรษฐกิจระยะยาว ถึงแม้ว่าตลาดหุ้นทั่วโลก ยังคงต้องใช้เวลาในการรับข่าวเรื่องการเร่งตัวขึ้นดอกเบี้ยอีกสักระยะหนึ่ง แต่เชื่อว่าผลประกอบการของ บจ.จะมีน้ำหนักมากกว่าในช่วงครึ่งปีหลัง

ด้านผลประกอบการคาดว่าน่าจะอออกมาดี แต่ไม่ดีเกินคาด เลยไม่มีปัจจัยด้านผลประกอบการ ไปผลักดัน ดัชนีตลาดหุ้น

สำหรับการเมืองไทย เรื่องที่ตลาดหุ้นรอ คือเมื่อไหร่จะเลือกตั้ง จะมีเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์2562 หรือไม่ เชื่อว่าอย่างไรก็ต้องมีเลือกตั้ง ซึ่งไม่น่าเกินไตรมาส 2 ของปีหน้า เรื่องนี้ดูเป็นบวกกับดัชนีตลาดหุ้น

ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนในเดือนพฤษภาคมนี้ คือ ทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานที่ลงมาแรง และเน้นพักเงินลงทุนในหุ้นที่ยังมีราคาต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน เชื่อว่าตลาดหุ้นจะกลับมามองที่ปัจจัยพื้นฐานของแต่ละหุ้นมากขึ้นในครึ่งปีหลัง ดังนั้นการซื้อหุ้นที่มีราคาต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน น่าจะช่วยสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนได้ ในเดือนนี้ตลาดหุ้นมีแนวรับอยู่ที่ 1,750 จุด และมีแนวต้านอยู่ที่ 1,800 จุด

มีข่าวมาบอกเพื่อนๆ วงการตลาดทุนว่า มหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และจัดมานานที่สุดของวงการตลาดทุนไทย นั่นคือ ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี สิงห์โบรกเกอร์คัพ ประจำปี 2561 จะเริ่มเปิดสนามนัดแรก ในวันที่ 30 มิถุนายน 2561 นี้ โดยในปีนี้มีทีมรุ่นทั่วไปเข้าร่วมแข่งขัน จำนวน 32 ทีมและทีมอาวุโส จำนวน 14 ทีม รวม 46 ทีม เป็นปีที่มีทีมเข้าร่วมการแข่งขันมากที่สุดตั้งแต่จัดการแข่งขันมา

ก่อนจากกันเช่นทุกครั้ง ต้องบอกกันว่า  การลงทุนมีความเสี่ยง นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุนทุกครั้ง พบกันใหม่เดือนหน้า สวัสดีครับ