Social Trade กำลังจะเริ่มต้น

Social Trade กำลังจะเริ่มต้น

Social Trade เข้ามาปิดจุดอ่อนในวงการเทรดเดอร์ที่เคยมีปัญหา

ประมาณเดือนมีนาคมที่ผ่านมา วงการฟินเทคประเทศสิงคโปร์ได้มีเรื่องตื่นเต้นเกิดขึ้นนั่นคือการที่บริษัท Ayondo ซึ่งเป็นฟินเทคสัญชาติอังกฤษแต่จดทะเบียนอยู่ที่สิงคโปร์ เจ้าของแพลตฟอร์ม Social Trade (อีกชื่อคือ Copy Trade) ที่ชื่อว่า WeTrade สามารถเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ได้สำเร็จ แม้จะไม่ใช่กระดานหลักเป็นกระดานสำหรับบริษัทด้านเทคโนโลยี แต่นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้รัฐบาลสิงคโปร์ประกาศความสำเร็จได้ว่าการผลักดันบริษัทสตาร์ทอัพโดยเฉพาะฟินเทคไดhประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งแล้ว

ที่มาของ Ayondo ได้เข้าซื้อกิจการแอพพลิเคชั่น Trade Hero ซึ่งเป็นผู้สร้างแพลตฟอร์ม Social Trade ที่สามารถลงทุนได้ทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นหุ้น ทองคำ น้ำมันหรือ Forex ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดรวม 100 ล้านเหรียญหรือ 3,000 ล้านบาท สำหรับแพลตฟอร์ม Social Trade ที่มีชื่อเสียงระดับโลกก็คือ Etoro ซึ่งจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ สามารถลงทุนได้ทั่วโลกเช่นกัน

ความน่าตื่นเต้นของ Social Trade คือการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีกับการลงทุนโดยมีความเป็นเกมส์อยู่ในตัว ซึ่งตรงกับจริตของคนรุ่นใหม่ที่ชอบความท้าทาย หลักการก็คือบริษัทฟินเทคจะเป็นผู้สร้างแพลตฟอร์มกลางที่เปิดให้เทรดเดอร์ที่มีความสามารถได้เข้ามาสมัครเป็นผู้นำหรือ The Master ซึ่งทุกการเทรดของผู้เป็นผู้นำจะมีผู้ที่เป็น Follower สามารถเลือกติดตามได้โดยจะทำการซื้อขายให้ทันทีแบบอัตโนมัติ

รูปแบบดังกล่าวเป็นเกมส์ที่ทุกฝ่ายต่างได้ผลประโยชน์ เริ่มตั้งแต่เจ้าของแพลตฟอร์มจะได้รับรายได้ในรูปแบบของค่าธรรมเนียมที่เกิดขึ้นจากการซื้อขายหรือแม้แต่ Profit Sharing ส่วนผู้ที่เป็น The Master ก็จะได้รับส่วนแบ่งกำไรหากทำให้ผู้ที่เป็น Follower มีกำไรได้ ในต่างประเทศหากเทรดเดอร์รายใดที่มีความสามารถก็อาจจะทำเป็นอาชีพใหม่ได้เลย ส่วนผู้ที่เป็น Follower ก็จะได้รับกำไรจากการเทรด แทนที่จะเทรดด้วยตัวเองและประสบผลขาดทุน

Social Trade ยังเข้ามาปิดจุดอ่อนในวงการเทรดเดอร์ที่เคยมีปัญหา อย่างเช่นการพิสูจน์ผลงาน เนื่องจากแพลตฟอร์มจะเปิดเผยการทำรายการซื้อขายที่เกิดขึ้นทั้งหมดรวมถึงผลกำไรที่เกิดขึ้น เพื่อใช้เป็นผลงานให้มีผู้เลือกติดตาม หากไม่ได้ใช้เทคโนโลยีดังกล่าวก็จะไม่สามารถพิสูจน์ความสามารถได้อย่างแท้จริง

ภายใต้แพลตฟอร์ม เทรดเดอร์สามารถเลือกซื้อขายได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นหุ้น สินค้าโภคภัณฑ์และที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ Forex และล่าสุดได้มีการพัฒนาให้สามารถเทรดสินค้า Crypto Asset ได้แล้ว

สำหรับประเทศไทย ได้มีการประชุมหารือเกี่ยวกับการอนุญาตให้เกิด Social Trade ในประเทศไทยมาพักใหญ่แล้วระหว่าง สำนักงานกลต. สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ และตัวแทนฟินเทค ซึ่งภาพรวมที่ออกมาถือได้ว่ามีโอกาสสูงที่เทคโนโลยีดังกล่าวจะได้รับการรับรองในไม่ช้านี้ โดยอยู่ระหว่างการเสนอสนช.ให้อนุมัติภายในไตรมาสสามปีนี้

หากเทคโนโลยีดังกล่าวเกิดขึ้นได้จริง ผู้เขียนเชื่อว่าวงการตลาดหุ้นไทยจะเกิดความคึกคักขึ้นอย่างมาก เพราะผู้ลงทุนที่ไม่มีความสามารถมากนักสามารถเลือกติดตาม The Master ที่มีผลงานดีและพิสูจน์ได้ซึ่งจะทำให้ไม่ต้องขาดทุนซ้ำซากอีกต่อไป และน่าจะทำให้เกิดนักลงทุนหรือเทรดเดอร์หน้าใหม่ขึ้นอีกมากมาย เบื้องต้นน่าจะเริ่มจากตลาดอนุพันธ์ก่อน ถึงจะเริ่มนำมาใช้กับหุ้นในกลุ่ม SET100 ต่อไป

ผู้เขียนเชื่อว่าจะเกิดฟินเทคที่เป็นเจ้าของแพลตฟอร์ม Social Trade ในประเทศไทยอย่างแน่นอน โปรดติดตามครับ