ประเทศไหนจะชิงความเป็นศูนย์กลาง ICO โลก?

ประเทศไหนจะชิงความเป็นศูนย์กลาง ICO โลก?

ประเทศไหนจะชิงความเป็นศูนย์กลาง ICO โลก?

ในยุคที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ เกิดขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ ทั้งภาคธุรกิจและการดำเนินชีวิตประจำวัน “ฟินเทค” หรือเทคโนโลยีทางการเงินเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่เติบโตมากที่สุด เพราะสามารถแพร่ขยายข้ามพรมแดนกันได้ง่ายกว่าเทคโนโลยีอื่นๆ วันนี้ Cryptocurrency (ขอเรียกย่อว่า คริปโตฯ) เป็นฟินเทคที่ถูกนำมาปรับใช้เพื่อระดมทุนในโครงการของบริษัทต่างๆ ที่เรียกว่าการออก ICO (Initial Coin Offering) หลายประเทศมองเห็นโอกาสในการดึงเงินต่างชาติมาลงทุนในประเทศของตน ซึ่งจะตามมาด้วยการสร้างงานให้คนในประเทศ และส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในที่สุด

เทคโนโลยีของคริปโตฯ ที่ใช้ออก ICO มีจุดเด่นตรงที่ (1) สามารถระดมทุนจากนักลงทุนทั่วโลกได้ง่าย (2) มีระบบ Smart Contract ที่โปร่งใส (3) มีประสิทธิภาพจากการตัดตัวกลางระหว่างผู้ระดมทุนและนักลงทุน ทั้ง 3 ข้อนี้จึงทำให้หลายบริษัทยักษ์ใหญ่เริ่มมองถึง ICO แทนที่ IPO แม้กระทั่งบางบริษัทพอประกาศว่าจะทำ ICO ราคาหุ้นในตลาดก็พุ่งขึ้นสูงเลยทีเดียว เช่น กรณีของ Kodak เป็นต้น

หลายประเทศกำลังอยู่ระหว่างการหาจุดยืนและออกกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับคริปโตฯ และ ICO เพื่อให้เหมาะสมกับประเทศตนเองในการดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก ซึ่งการที่บริษัทหนึ่งๆ จะเลือกไปออก ICO ในแต่ละประเทศนั้นย่อมมีข้อได้เปรียบและข้อควรระวังที่แตกต่างกันออกไป  เรามาลองดูประเทศใกล้ตัวเรากันครับ ว่ามีนโยบายล่าสุดอย่างไรกันบ้าง?

  ประเทศไหนจะชิงความเป็นศูนย์กลาง ICO โลก?

กลยุทธ์หลักสำหรับยุคทองของคริปโตฯ และ ICO นี้ ที่ประเทศศูนย์กลางภูมิภาคใช้เพื่อดึงดูดให้ต่างชาติแห่เข้าไปลงทุน จัดตั้งบริษัทเพื่อดำเนินกิจการแล้ว คือ (1) ออกระเบียบและสร้างมาตรฐานกับบริษัทที่ระดมทุนเพื่อให้การออก ICO มีคุณภาพ (2) ภาษีธุรกิจด้านคริปโตฯ เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกับภาษีธุรกิจอื่นๆ (3) ภาษีจากกำไรลงทุนในคริปโตฯ เสียตามมาตรฐานที่ลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ แต่เพิ่มการยกเว้นภาษีเพื่อสนับสนุนการลงทุนระยะยาวและลดการเก็งกำไรระยะสั้น (4) เพื่อป้องกันการฟอกเงินและคุ้มครองประชาชน ทั้งนี้หลายประเทศมองว่ารายได้ในภาพรวมที่เข้าประเทศจากการใช้จ่ายของบริษัทที่ระดมทุนมานั้น อาจสูงถึงบริษัทละหลักหลายร้อยล้าน ซึ่งจะคุ้มค่ากว่าการเก็บภาษีคริปโตฯ ในอัตราสูงกว่าธุรกิจปกติตั้งแต่แรก มาลุ้นกันครับว่าประเทศใดจะกลายเป็นศูนย์กลาง ICO โลกในที่สุด