ลงทุนหุ้นไหนดี “กำไรโต&ปันผล”

ลงทุนหุ้นไหนดี “กำไรโต&ปันผล”

นักลงทุนนำกลยุทธ์ลงทุนที่เหมาะสมไปประยุกธ์ใช้กับการลงทุนส่วนตัว

นักลงทุนมักได้ยินกลยุทธ์ที่คุ้นหูเสมอระหว่างการลงทุนใน 'หุ้นเน้นปันผล' กับ 'หุ้นเน้นกำไรโต' แล้วเราจะเลือกใช้กลยุทธํไหนดี ก่อนอื่น เราควรทำความเข้าใจว่า 1/ลักษณะหุ้นทั้ง 2 ประเภทนั้นเป็นอย่างไร 2/กลยุทธ์ลงทุนใน 2 แบบแตกต่างกันอย่างไร 3/เราควรใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างเมื่อไรดี

หุ้นเติบโตดี เป็นอย่างไร

หลักการอย่างง่ายคือ กำไรบริษัทขยายตัวมากกว่าค่าเฉลี่ยตลาดหุ้นไทย เช่น กำไรรวมตลาดหุ้นขยายตัวเฉลี่ยราว 7% ต่อปี หุ้นเติบโตควรมีกำไรขยายตัวได้ 20% ขึ้นไปในงบปีปัจจุบัน และคาดการณ์กำไรยังคงขยายตัวได้ดีในอีก 2 ปีข้างหน้า โดยเราไม่รวมกำไรพิเศษทางบัญชีจากการซื้อขายกิจการ หรือ กำไรจากการขายสินทรัพย์

นอกจากนี้ เราควรคำนึงว่า ปัจจัยที่จะผลักดันรายได้ กำไรให้ขยายตัวได้ในอนาคตคือ อะไร และโครงสร้างต้นทุนธุรกิจมีปัจจัยอื่นๆจะมากระทบ และเป็นผลลบต่อกำไรในอนาคตอย่างไร เช่น บริษัทเปิดตลาดใหม่ในเชิงรุก ค่าใช้จ่ายด้านการตลาดที่เพิ่ม การขยายโรงงานและค่าเสื่อมในช่วงปีแรกๆ ค่าเงิน รวมถึงปัจจัยด้านต้นทุนน้ำมัน เป็นต้น

หุ้นเน้นเงินปันผล ล่ะเป็นอย่างไร

หุ้นเน้นปันผล ก็ชัดเจนในตัวเอง คือ กำไรอาจทรงตัว หรือ โตในอัตราใกล้เคียงกับตลาดหุ้นโดยรวม ตัวเลขรายได้และกำไรสม่ำเสมอ สัดส่วนหนี้ต่อทุนต่ำกว่า 2 เท่า ประวัติจ่ายเงินปันผลต่อเนื่อง และอัตราผลตอบแทนเงินปันผลควรเท่ากับ หรือ สูงกว่า 3.2% (ค่าเฉลี่ยของตลาดหุ้นไทย)
หุ้นประเภทนี้ ค่าพีอีควรต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตลาดที่ 15 เท่า ทั้งนี้สะท้อนกำไรที่ขยายตัวได้ใกล้เคียงกับตลาดหุ้น หรือ ต่ำกว่า หุ้นประเภทมักเป็นหุ้นใหญ่ในกลุ่ม SET-50

เราควรใช้ทั้งสองกลยุทธ์อย่างไร

เราควรเน้นหุ้นตั้งรับในเชิงหุ้นปันผล หากตลาดหุ้นมีปัจจัยความเสี่ยงด้านการเมือง เศรษฐกิจชะลอตัว นั่นหมายถึงความเสี่ยงของกำไรบริษัทจดทะเบียนอาจเติบโตต่ำกว่าคาด ในสถานะการณ์เช่นนี้ การเน้นหุ้นในเชิงตั้งรับซึ่งเน้นในเรื่องอัตราปันผล และมูลค่าหุ้นที่ไม่แพงนักจะเหมาะสมกว่า เพราะความเสี่ยงของตลาดหุ้นที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลให้นักลงทุนขาดความมั่นใจ ตลาดหุ้นอาจปรับตัวลง หรือ เคลื่อนไหวไม่มีทิศทางชัดเจน แรงซื้อของนักลงทุนจะไม่ต่อเนื่อง บรรยากาศตลาดหุ้นซบเซา กลยุทธ์นี้เสมือน หลังพิงภูเขา

ในทางตรงกันข้าม ควรเน้นหุ้นเติบโตดี เมื่อสถานะการณ์เศรษฐกิจขยายตัว ส่งออกโต การท่องเที่ยวคึกคัก การเมืองนิ่ง เพราะแรงส่งต่อธุรกิจบริษัทจดทะเบียนอาจสร้างกำไรให้เติบโตได้ดี และเมื่อกำไรโตดี ราคาหุ้นก็จะปรับตัวขึ้นได้เร็วกว่าหุ้นที่กำไรเติบโตช้า โดยปกติ กลยุทธ์นี้มักส่งผลให้เราจำเป็นต้องซื้อหุ้นที่มูลค่าพีอีสูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาด แต่พอร์ตก็สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้เร็วกว่า การเติบโตผ่านการลงทุนในหุ้นเน้นอัตราเงินปันผล

สำหรับภาวะตลาดหุ้นไทยและเอเซียในปัจจุบัน เศรษฐกิจโลก เอเซีย และไทยกำลังขยายตัวได้ดีขึ้น แม้ว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มอาเซียนก็ตาม อัตราเงินเฟ้อขึ้นอย่างช้าๆซึ่งผมประเมินว่าน่าจะส่งผลดีต่อกำไรบริษัทจดทะเบียน เพราะบริษัทสามารถผลักดันราคาขายเพิ่มได้ท่ามกลางกำลังซื้อและความมั่นใจของผู้บริโภคดี นอกจากนี้ แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยจะปรับขึ้นแต่อยู่ในการคาดการณ์นักลงทุน ตลาดหุ้นได้ปรับตัวรับกับการคาดการณ์เรื่องอัตราดอกเบี้ยขึ้นในปีนี้อย่างต่อเนื่อง จากการศึกษาพฤติกรรมการลงทุนในอดีต หุ้นที่เติบโตสูงจะสามารถสร้างอัตราผลตอบแทนการลงทุนได้ดีในสภาวะอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นได้ปานกลาง และสามารถสู้กับอัตราดอกเบี้ยที่ทะยอยขึ้นได้ดี

สุดท้ายนี้ ผมเชื่อว่าเมื่อนักลงทุนนำกลยุทธ์ลงทุนที่เหมาะสมไปประยุกธ์ใช้กับการลงทุนส่วนตัวก็น่าจะทำให้พอร์ตท่านสามารถงอกเงยได้อย่างดี