10 เทรนด์ดิจิทัล 2561 ที่ต้องจับตามอง(2)

10 เทรนด์ดิจิทัล 2561 ที่ต้องจับตามอง(2)

มาดูที่เทรนด์ใหม่ๆ ในโลก“อีคอมเมิร์ซ”และ“โซเชียล” อีก 5 เทรนด์กันต่อ

ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่เราจะได้เห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเข้าถึงผู้บริโภคด้วยวิธีการและแนวทางใหม่ๆ ให้ตอบโจทย์พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปแบบทันท่วงที

6.โซเชียลที่รู้สึก“จริง” 

กลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ ที่ใช้ชีวิตติดโซเชียล ต่างเบื่อหน่ายกับภาพลักษณ์ที่ไม่จริง สร้างภาพ และดูไม่จริง  โซเชียลหลายๆ สำนักต่างออกรูปแบบการใช้งานใหม่ๆ ที่ให้ผู้บริโภคได้ใช้ลูกเล่นแบบ Live เรียลไทม์ ในขณะเดียวกันหลายๆ แบรนด์ต่างหากลยุทธ์ในการสร้างคอนเทนท์ใหม่ๆ ที่ดูไม่ปั้นมาก ให้ความรู้สึกจริง ดูเป็นเบื้องหลังมากว่าเบื้องหน้า และมีความเป็นธรรมชาติในการใช้ภาษาที่ใกล้ชีวิตจริงมากที่สุด

7.ป๊อปอัพชอปปิง 

เสิร์ชออนไลน์ ซื้อหน้าร้าน กลายเป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นในหลายกลุ่มสินค้า จนกระทั่งก่อให้เกิดการกลับมาของหน้าร้านรีเทล ในรูปแบบแปลกตา ให้ผู้บริโภคได้มีประสบการณ์แบบไร้รอยต่อ จริงอยู่ที่หน้าร้านแบบสามัญธรรมดาไม่สามารถได้ใจผู้บริโภคที่ต้องการความแปลกใหม่ตลอดเวลา แต่รูปแบบใหม่ๆ ของป๊อปอัพที่ผสมผสานเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ช่วยให้โชว์รูมเป็นเว็บรูม ในการโชว์สินค้า และสร้างประสบการณ์หน้าร้านแบบเหนือคาด

8.เสิร์ชภาษา“ภาพ” 

การรับรู้ด้วยรูปภาพกลายเป็นสื่อกลางการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพของยุค ในสมาร์ทโฟนต่างๆ ล้วนเพิ่มฟังก์ชั่นการเสิร์ชผ่านรูปภาพ เพื่อเฟ้นหาสิ่งต่างๆ ได้ตรงอย่างใจ หลายๆ แบรนด์ต่างต้องหันมาใส่ใจ ไม่เพียงผลการเสิร์ชภาษาคำพูด แต่ภาษาภาพ พร้อมทั้งปรับกระบวนการจัดการข้อมูล ข้ามผ่านภาษาที่เคยเป็นอุปสรรค

9.ยุคใหม่ของ Influencer Marketing 

ในการเพิ่มยอดการรับรู้และสร้างอิทธิพลด้านภาพลักษณ์ในกลุ่มคอมมูนิตี้ผู้บริโภค หากแต่การใช้ Influencer ในแง่กลยุทธ์นั้น ไม่ใช่เพียงเป็นการหลอกลวงผู้บริโภคในเรื่องที่ไม่จริง เช่น เป็นผู้ใช้สินค้า และทำรีวิวแบบปลอมๆ ในปี 2561 แบรนด์ต่างๆ ต้องหันมาปรับกระบวนการในการใช้ Influencer ในการสร้างสรรค์ประสบการณ์จริง ที่มีมาตรฐานสูงขึ้นกว่าเดิม

10.แบรนด์ต่อยอดโซเชียลเน็ตเวิร์คสู่โลกเมสเสจ

ผู้บริโภคกว่า 2,500 ล้านคนทั่วโลกต่างใช้เมสเสจเป็นแพลตฟอร์มการสื่อสารแบบตัวต่อตัว ในขณะที่ที่ผ่านมา แบรนด์มักให้ความสำคัญกับสื่อโซเชียลเน็ตเวิร์คเป็นหลักในแง่กลยุทธ์ ในปีนี้ เราจะเห็นการเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้นของแบรนด์ผ่านเมสเสจจิ้งแบบตัวต่อตัว ไม่ว่าจะด้วย Chatbots ผู้ช่วยทางเสียง Voice Assistant ผ่านช่องทางสำคัญๆอย่าง Facebook Messenger, LINE, WhatsApp เป็นต้น โดยเน้นเรื่องการซื้อขายออนไลน์เป็นหัวใจหลักในการถามตอบ

โดยสรุปภาพรวมของเทรนด์ทั้งหมดนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ว่าเทคโนโลยีจะพัฒนาเป็นอย่างไร การทำการตลาดต้องกลับมาตอบโจทย์ของอินไซต์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป โดยปีนี้ เราจะเห็นประสบการณ์ตัวต่อตัวที่ไร้รอยต่อมากขึ้น ผ่านหลากหลายช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ ด้วยบริบททั้งภาพและเสียง ชาญฉลาดไปด้วยเทคโนโลยีที่เรียนรู้ผู้บริโภคได้ด้วยตัวเอง ประกอบกับการชอปปิงที่มีความแปลกใหม่ด้วยเทคโนโลยี ให้การเข้าถึงเแบรนด์มีความน่าตื่นตาตื่นใจมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านๆมา