อินเดีย: ดิจิตัลเพย์เมนท์ สู่ปลายนิ้วสัมผัส

อินเดีย: ดิจิตัลเพย์เมนท์ สู่ปลายนิ้วสัมผัส

อินเดีย: ดิจิตัลเพย์เมนท์ สู่ปลายนิ้วสัมผัส

เมื่อ 20 ปีก่อน เวลานึกถึงประเทศที่ล้าหลังทางเศรษฐกิจ เรามักจะคิดถึงจีนและอินเดียห้อยท้ายติดมาด้วยเสมอ

แต่หากใครได้ติดตามนวัตกรรมทางเศรษฐกิจใหม่ๆ จะพบว่าทั้งจีนและอินเดียนั้นล้วนไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันนัก จีนมีการใช้จ่ายผ่านสมาร์ทโฟนสูงถึง 38 ล้านล้านหยวนเมื่อปีที่แล้ว (มากจนรัฐบาลกลางของจีนต้องเข้ามาจัดตั้งสำนักหักบัญชีกลางเพื่อเป็นศูนย์กลางการชำระเงินระหว่างกัน แทนที่จะเป็นของใครของมันแบบที่ผ่านมา)

ส่วนอินเดียนั้นมีสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นจาก 75 ล้านเครื่อง เป็นกว่า 275 ล้านเครื่อง ภายในระยะเวลาเพียง 4 ปีเท่านั้น แม้ตัวเลขสมาร์ทโฟนจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ยังคงมีสัดส่วนเพียงประมาณ 27% ของจำนวนประชากรของอินเดียทั้งหมด ถ้าเช่นนั้นแล้วอินเดียจะทำอย่างไรที่จะแข่งขันกับจีนในอันที่จะทำให้ตนเองเป็นส่วนหนึ่งของสังคมเงินดิจิตัลได้

สมมติว่าท่านเป็นคนอินเดีย กำลังเดินทางออกจากบ้านเพื่อจะไปทำงาน ระหว่างทางเกิดอยากดื่มกาแฟสักแก้ว ก็ควักหากระเป๋าสตางค์ (อ้าว…. ลืมเอามา!) ทำอย่างไรดี? แต่ไม่เป็นไร จ่ายเงินผ่านสมาร์ทโฟนโดยใช้ QR Code ก็ยังได้อยู่ แต่ๆ…เมื่อท่านควานหาสมาร์ทโฟนคู่ใจอยู่นานสองนาน (ท่านก็พบว่า ท่านลืมมันไว้ในห้องน้ำที่บ้าน…แย่แล้ว!!!!)

แต่ที่อินเดียชีวิตท่านอาจยังมีทางเลือกเหลืออยู่ (โดยไม่ต้องกลับบ้าน หรือยืมเงินเพื่อน) หากท่านได้ลงทะเบียนการพิสูจน์ตัวตนด้วยข้อมูลทางกายภาพ (Aadhaar) และผูกเลขดังกล่าวเข้ากับบัญชีธนาคาร ท่านก็สามารถใช้เพียงนิ้วมือ แนบลงไปบนเครื่องสแกนขนาดเล็กที่ต่อเข้ากับสมาร์ทโฟนของผู้ขาย (ที่ผูกกับบัญชีธนาคารซึ่งผูกอยู่กับเลข Aadhaar เช่นเดียวกัน) เพียงเท่านี้ท่านก็สามารถซื้อกาแฟมาดื่มได้โดยไม่ต้องควักเงินสด หรือสมาร์ทโฟนมาจ่ายให้ยุ่งยากแต่อย่างใด

Aadhaar หรือ อั๊ดฮาร์ เป็นภาษาอินเดีย แปลว่า รากฐาน ประกอบไปด้วยเลข 12 หลักที่แตกต่างกันสำหรับแต่ละบุคคล ตามข้อมูลด้านกลุ่มอายุ และข้อมูลทางกายภาพ เช่น ลายนิ้วมือ ม่านตา เป็นต้น โดยข้อมูลนั้นถูกจัดเก็บโดยองค์การพิสูจน์ตัวตนแห่งอินเดีย (Unique Identification Authority of India (UIDAI)) ภายใต้พระราชบัญญัติที่ตราขึ้นเมื่อปี 2559

ปัจจุบันมีคนอินเดียลงทะเบียนในระบบอั๊ดฮาร์ จำนวนทั้งสิ้น 1.19 พันล้านคน จากประชากรโดยประมาณทั้งสิ้น 1.35 พันล้านคน หรือมีสัดส่วนประมาณ 88% ของประชากรทั้งหมด อาจกล่าวได้ว่าอินเดียเป็นประเทศเดียวในโลกที่มีระบบการจัดเก็บข้อมูลบุคคลด้วยข้อมูลทางกายภาพที่สามารถสอบยันได้ โดยเครื่องสแกนนิ้วขนาดเล็กนี้สามารถต่อกับสมาร์ทโฟน 2G ซึ่งยังคงใช้อยู่มากในอินเดีย ซึ่งนี่น่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดียถึงกับกล้าประกาศว่าอีกไม่นานคนอินเดียทั้งหลายจะสามารถจ่ายเงินซื้อของได้โดยใช้เพียงนิ้วมือเท่านั้น

ระบบอั๊ดฮาร์ สามารถใช้งานร่วมกับ One time password (OTP) ในกรณีที่การสแกนทำไม่ได้ เช่น ระหว่างที่ลูกค้าทำรายการผ่านอินเตอร์เน็ตแบงกิ้ง หรือซื้อของผ่านเว็บไซต์ เป็นต้น โดยผู้ประกอบการ ไม่ว่าจะเป็นธนาคาร บริษัทประกัน ผู้ขายสินค้า จะสามารถพิสูจน์ได้ทันทีว่าบุคคลที่ผู้ประกอบการกำลังทำธุรกรรมอยู่ด้วยนั้น “เป็นคนเดียวกัน กับที่เจ้าตัวได้แจ้งไว้หรือไม่” แทนการให้ลูกค้านั่งกรอกเอกสารแสดงตัวตนเป็นปึกๆอย่างที่เคยเป็นมาในอดีต

โครงการบริการทางการเงินอย่างทั่วถึงของนายกรัฐมนตรีโมดี แห่งอินเดีย (Pradhan Mantri Jan Dhan Yojana -PMJDY) ซึ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2557 โดยมีวัตถุประสงค์ให้ทุกหลังคาเรือนมีบัญชีเงินฝากอย่างน้อย 1 บัญชี กำหนดให้เลขอั๊ดฮาร์เป็นข้อมูลจำเป็นในการเปิดบัญชีธนาคารภายใต้โครงการนี้ ซึ่งเจ้าของบัญชีจะได้รับสิทธิประโยชน์มากกว่า เช่น ประกันชีวิต ประกันอุบัติเหตุ โอนเงินทั่วประเทศ บริการเบิกเงินเกินบัญชี ไม่ต้องคงเงินขั้นต่ำในบัญชี เป็นต้น

ปัจจุบันมีจำนวนบัญชีเงินฝากกว่า 270 ล้านบัญชีภายใต้โครงการนี้ โดยมีจำนวนเงินฝากรวมสูงถึง 650,000 ล้านรูปี (หรือประมาณ 329,000 ล้านบาท)

นี่เป็นตัวอย่างทีแสดงให้เห็นถึงความกล้าของผู้กำหนดนโยบาย ที่จะแก้ไขที่รากฐานก่อนเดินไปข้างหน้านั่นเอง