NAGA หุ้นฟินเทค 4เด้งภายในสามเดือน

NAGA หุ้นฟินเทค 4เด้งภายในสามเดือน

วันนี้ขอแนะนำเรื่องราวของบริษัทฟินเทคสัญชาติเยอรมันนีรายหนึ่งที่มีชื่อว่า NAGA ซึ่งเป็นฟินเทคสาย Investment

 NAGA ให้บริการหลากหลายตั้งแต่ Copy Trade,Robo Advisor,แลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างๆ ให้เป็น Crypto Currency ไปจนถึงแพลตฟอร์มกลางสำหรับซื้อขายไอเทมเกมส์สร้างแพลตฟอร์มการซื้อขายหลักทรัพย์โดยใช้ blockchain

ที่น่าสนใจก็คือ NAGA เพิ่งนำบริษัทเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหุ้นแฟรงก์เฟิร์ตซึ่งเป็นตลาดหุ้นขนาดใหญ่ที่สุดของยุโรปราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นไปแล้วถึง 400% ระยะเวลาเพียงแค่สามเดือนเท่านั้นมาร์เกตแคปทะลุ 300 ล้านยูโรไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ไม่เพียงเท่านั้น NAGA ยังได้ทำการระดมทุนด้วยวิธี ICO ด้วยการออก Token ที่เป็น Crypto Currency ของตัวเองในชื่อ Switex,SwipeStox โดยหวังที่จะระดมทุนให้ได้1ล้านเหรียญถือได้ว่า NAGA เป็นหนึ่งในฟินเทคที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดรายหนึ่งของโลกทั้งในแง่โปรดักท์ที่ครบเครื่องในการที่จะ Disrupt วงการการเงินแบบดั้งเดิมรวมไปจนถึงการใช้เครื่องมือระดมทุนขยายธุรกิจได้ทั้งแบบTraditional คือการเข้าตลาดหุ้นและบางทางเลือกใหม่นั่นคือ ICO

ที่ยกตัวอย่างของฟินเทครายนี้ขึ้นมาก็เพื่อฉายภาพว่าในประเทศที่พัฒนาในด้านการเงินแล้วอย่างฝั่งประเทศในยุโรปก็สามารถสร้าง Environment ที่ดีต่อการสร้างฟินเทคให้เติบโตได้เช่นกันโดยไม่มีประเด็นเรื่องของการกีดกันทางด้านกฎระเบียบและกฎหมายมาสกัดกั้นการเติบโตของฟินเทค

ประโยคคลาสสิคที่ว่า Too Big Too Fail (ใหญ่เกินกว่าที่จะปล่อยให้ล้ม)อาจนำมาใช้ได้ในภาวะที่ธนาคารขนาดใหญ่ประสบปัญหาในระยะสั้นอย่างเช่นในช่วงที่เกิดวิกฤตสภาพคล่อง Sub Prime ที่ธนาคารกลางเข้าไปอุดรอยรั่วให้แต่้ในภาวะที่อุตสาหกรรมการเงินเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แบบฉับพลัน(แต่จะกินเวลาอีกนาน)โดยมาจากการเกิดขึ้นของฟินเทคต่อให้ธนาคารใหญ่แค่ไหนก็คงหาใครมาช่วยอุ้มให้รอดได้ยากแน่นอน

นอกจากฝั่งตะวันตกแล้วฝั่งตะวันออกก็ต้องจับตามองประเทศจีนที่ตอนนี้ถือเป็นอาณาจักรฟินเทคที่ใหญ่ที่สุดของโลกไปแล้วด้วยการเอื้อประโยชน์ให้อย่างเต็มที่ของหน่วยงานกำกับดูแลอย่างธนาคารกลางจีน(อาจจะมีเรื่อง ICO ที่เข้ามาควบคุมบ้างแต่ก็น่าจะแค่ชั่วคราว) ล่าสุด Baidu ซึ่งเป็นหนึ่งในสามยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีเคียงข้างกับ Alibaba และ Tencent ก็ได้ร่วมมือกับธนาคารรายใหญ่อย่าง Citic เปิดธนาคารบนออนไลน์ที่ไม่มีแม้สาขาเดียวและเน้นปล่อยกู้ให้กับธุรกิจขนาดเล็กเท่ากับว่าสามยักษ์ใหญ่ที่เรียกตัวเองว่ากลุ่ม BAT (Baidu,Alibaba,Tencent)ได้เข้าสู่สนามฟินเทคกันครบแล้ว

ได้แต่หวังว่าหน่วยงานกำกับของไทยจะสร้าง Friendly Enviroment ของอุตสาหกรรมฟินเทคให้เกิดขึ้นให้ได้สักวันหนึ่งซึ่งตอนนี้เริ่มเดินมาถูกทางมากขึ้นแล้วผู้เล่นเดิมเริ่มเปิดใจและพัฒนาตัวเองมากขึ้นซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อฟินเทคหน้าใหม่ที่กำลังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง