ICOจะเป็นแหล่งระดมทุนหลักของโลก?

ICOจะเป็นแหล่งระดมทุนหลักของโลก?

มูลค่าการระดมทุนผ่าน ICO ทั่วโลกทะลุ 3,000 ล้านเหรียญเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยการเติบโตที่ชัดเจนเกิดขึ้นในปีนี้

กระแสการระดมทุนโดยรูปแบบ ICO (Initial Coin Offering) กำลังเติบโตไปทั่วโลกแม้จะมีความพยายามที่จะเข้ามาควบคุมดูแลจากทางการอย่างประเทศจีนที่ออกมาสั่งห้ามทำ ICO แต่ลึกๆแล้วเชื่อว่าทางการต้องการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ ICO มากกว่าจะปล่อยให้เอกชนจัดการกันเองโดยที่ตัวเอง “ตกขบวน” รถไฟสายสำคัญนี้ไป

ล่าสุดมูลค่าการระดมทุนผ่าน ICO ทั่วโลกทะลุ 3,000 ล้านเหรียญเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยการเติบโตที่ชัดเจนเกิดขึ้นในปีนี้

ไม่นานมานี้ ผมได้พูดคุยกับฟินเทคจากสิงคโปร์ที่นิยามตัวเองว่าเป็นแพลตฟอร์มกลางสำหรับการทำ ICO ง่ายๆคือทำงานเหมือนเป็นที่ปรึกษาทางการเงินซึ่งเป็น Eco System ของการระดมทุนรูปแบบเดิม(ก็คือเป็นผู้ให้คำแนะนำว่าผู้ประกอบการควรต้องทำอย่างไรเพื่อให้ได้เข้าตลาดหุ้นนั่นเอง)

โดยฟินเทคดังกล่าวจะให้คำปรึกษากับสตาร์ทอัพหรือฟินเทคที่ต้องการทำ ICO ว่าจะให้ผลตอบแทนกับผู้ถือ TOKEN ในรูปแบบใดจะอ้างอิงกับเงินสกุลดิจิทัลใดและยังทำตัวเป็น Market Place หาผู้สนใจมาระดมทุนให้อีกด้วย ที่น่าสนใจคือถ้าสามารถช่วยระดมทุนได้แล้วในตลาดแรกขั้นต่อไปก็จะช่วยเป็น Market Maker หรือผู้แลราคา TOKEN ในตลาดหากต้องการให้ราคามีเสถียรภาพอีกด้วย เรียกได้ว่า Eco System ของการทำ ICO เริ่มจะคล้ายกับการระดมทุนผ่านตลาดทุนแบบดั้งเดิมเข้าไปทุกที

ล่าสุดสำนักงาน กลต.ของไทยก็ออกมาบอกว่ากำลังเข้ามากำกับดูแลการระดมทุนด้วยรูปแบบ ICO โดยเฉพาะรูปแบบการให้ Reward ให้ผู้ระดมทุนสามารถเข้ามา “ถือหุ้น” ในกิจการได้เนื่องจากวิธีดังกล่าวถือเป็นการ Disrupt กระบวนการระดมทุนแบบดั้งเดิมอย่างแท้จริงและมีเรื่องกระบวนการทางกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้อง(โดยเฉพาะการเข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นในกิจการ) โดยคาดว่าจะเริ่มรับฟังความเห็นในเดือนธันวาคมและนำไปสู่การออกกฎเกณฑ์ในกลางปีหน้า

ส่วนตัวผมเห็นด้วยที่ทางการจะเข้ามาควบคุมดูแล ICO เพื่อสร้างจุดสมดุลระหว่างการควบคุมคุณภาพของการระดมทุนไม่ใช่ใครก็สามารถทำได้จนอาจเกิดเป็นการหลอกลวงกับความเป็นอิสระในการระดมทุนในยุคดิจิทัล ถ้าสร้างจุดสมดุลได้การระดมทุนโดย ICO จะมีเสถียรภาพและความยั่งยืนไม่ใช่เป็นเพียงกระแสและจบไปหากเกิด Fake ICO มากๆจนตลาดเฟ้อสุดท้ายมันจะสูญสลายไปเอง

อนาคต ICO ก็จะกลายเป็นวิธีระดมทุนหลักของไทยและของโลกได้ไม่ยากเอาแค่ในประเทศไทยที่มีสภาพคล่องการเงินในระบบค่อนข้างสูงแค่ดึงเงินจากระบบเงินฝาก 15ล้านล้านบาทออกมาสัก 1% ก็จะได้เงินทุน 150,000 ล้านบาทเพียงพอที่จะสร้างสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นได้เป็นฝูงแน่นอน ประเด็นสำคัญคือการสร้างกฎเกณฑ์ร่วมกันระหว่างทางการกับฟินเทคไม่ให้การทำ ICO มีอุปสรรคเกินไปและต้องมีการคัดกรอง ICO ที่มีคุณภาพระดับหนึ่งด้วย

ลองนึกภาพ เอสเอ็มอีขนาดเล็กสามารถระดมทุนได้ด้วย P2P Market Place และ Reward Crowd Funding,ส่วนสตาร์ทอัพสามารถระดมทุนได้ด้วย ICO เศรษฐกิจของประเทศจะเติบโตไปได้เร็วขนาดไหน