รักในดวงใจนิรันดร์

รักในดวงใจนิรันดร์

งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระผู้เป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทยเพิ่งผ่านพ้นไป

เพื่อเป็นการแสดงถึงพลังแห่งความรักและความอาลัยต่อพระองค์ พิพิธภัณฑ์ธนาคารไทยที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ รัชโยธิน ได้จัดงานแสดงภาพครั้งประวัติศาสตร์ที่มีชื่องานว่า รักในดวงใจนิรันดร์ ขึ้นโดยพร้อมใจกันให้พนักงานทั้งที่สำนักงานใหญ่และสาขาทั่วประเทศ ผู้บริหาร และกรรมการได้ร่วมอัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์ หรือ พระบรมสาทิสลักษณ์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่อยู่ในครอบครองมาร่วมแสดงในงานพร้อมเขียนบรรยายบอกเล่าความประทับใจของตนที่มีต่อภาพเพื่อเป็นการแสดงความรักและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ของพระองค์ ในครั้งนี้ผู้บริหารและพนักงานได้ส่งภาพเข้ามาร่วมแสดงเป็นจำนวนมาก

รักในดวงใจนิรันดร์

คำกล่าวที่ว่า ภาพหนึ่งภาพแทนคำนับหมื่น นั้นเป็นความจริง เมื่อดิฉันได้เข้าไปเดินชมภาพในนิทรรศการก็รู้สึกประทับใจกับภาพหลาย ๆ ภาพ บางภาพเป็นภาพวาดระบายสีน้ำที่พนักงานได้ตั้งใจวาดลงในสมุดภาพเพื่อบันทึกเป็นความทรงจำ ตั้งแต่วันที่พระองค์เสด็จสู่สวรรคาลัย จนถึงปัจจุบันเป็นการแสดงออกถึงความรักจากหัวใจของพสกนิกรคนหนึ่งที่น่าประทับใจมาก 

ภาพที่นำมาจัดแสดงนี้ทำให้ดิฉันรำลึกถึงเรื่องราวต่าง ๆ และพระอัจฉริยะภาพของพระองค์ เช่น ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่พระองค์ได้พระราชทานไว้เป็นหลักในการดำรงชีวิตให้พวกเราชาวไทยและได้ทรงให้นิยามของความพอเพียงไว้ว่าพอเพียงคือมีความพอประมาณ มีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกันที่ดี พระองค์ทรงสอนให้เกษตรกรเปลี่ยนจากการทำเกษตรแบบเชิงเดี่ยวมาเป็นเกษตรแบบผสมผสาน ทำไร่นาสวนผสมให้มีพืชผลที่หลากหลายสามารถรับประทานและนำส่วนที่เหลือไปจำหน่ายเพื่อสร้างรายได้ตลอดทั้งปี ทำให้เกษตรกรมีภูมิคุ้มกันในชีวิตและสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างยั่งยืน 

ดิฉันคิดว่าหลักการนี้ใช้ได้กับคนในทุกสาขาอาชีพเพราะหลักการนี้เป็นพื้นฐานของการปรับตัวให้รับกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น ในยุคดิจิตัลนี้เทคโนโลยีและเครื่องจักรกลที่ทันสมัยสามารถเข้ามาแทนที่พนักงานที่เป็นมนุษย์เงินเดือนอย่างเราได้ตลอดเวลา เราจึงต้องใช้ชีวิตอย่างมีสติ ไม่ประมาท และต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเองด้วยการรู้จัก learn, unlearn และ relearn ความรู้และเทคโนโลยีใหม่ ๆ อยู่เสมอก็เหมือนเราได้ retool และ reskill ตัวเองให้มีความสามารถมีทักษะที่หลากหลายที่สอดคล้องกับความต้องการของโลกอนาคตอยู่เสมอก็จะทำให้เราสามารถอยู่ได้อย่างยั่งยืนเฉกเช่นเดียวกับเกษตรกรที่หันมาทำการเกษตรแบบผสมผสานนั่นเอง 

อีกภาพหนึ่งที่ดิฉันประทับใจคือภาพที่พระองค์ประทับทรงงานอยู่บนพื้นอย่างไม่ถือพระองค์และในพระหัตถ์มีแผนที่ขนาดใหญ่ที่ทรงถืออยู่ตลอดเวลา เรื่องแผนที่นี้ครั้งหนึ่งพระองค์ทรงเคยมีพระราชดำรัสไว้ว่า คนเขาว่าฉันบ้าแผนที่ เพราะเวลาพระองค์เสด็จ ฯ ไปทรงงานที่ไหนจะทรงนำแผนที่ซึ่งทรงสร้างขึ้นด้วยการนำแผนที่ความละเอียดสูงหลาย ๆ แผ่นมาต่อกันเป็นขนาดใหญ่ทำให้บางครั้งแผนที่ที่ทรงพกไว้มีความกว้างถึง 9 เท่าของแผนที่ขนาดปกติเพื่อให้มีข้อมูลรายละเอียดต่าง ๆ ครบถ้วนตามพระราชประสงค์ซึ่งนอกเหนือจากข้อมูลทางภูมิศาสตร์แล้วด้านในยังมีข้อมูลความเป็นอยู่ วัฒนธรรม สุขทุกข์ของประชาชนตามบริบทที่แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ 

จะเห็นได้ว่าพระองค์ทรงให้ความสำคัญกับข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ และทรงเป็นแบบอย่างในการใช้ข้อมูลทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพในการทำงาน โดยทรงนำข้อมูลมาวิเคราะห์และวางแผนการพัฒนาพื้นที่ทำกินให้กับราษฎรในท้องที่ทุรกันดาร นอกจากนี้ยังทรงนำข้อมูลและองค์ความรู้ต่าง ๆ ที่เกิดจากการทดลองด้วยพระองค์เองมาต่อยอดเป็นโครงการในพระราชดำริถึงสี่พันกว่าโครงการซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์และมีคุณูปการต่อชีวิตความเป็นอยู่ของเหล่าพสกนิกรทั้งสิ้น

การน้อมนำหลักปรัชญาในการดำรงชีวิตโดยเฉพาะปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่พระองค์ได้พระราชทานไว้มาปฏิบัติเป็นแนวทางและยึดถือเป็นรากฐานของชีวิตประหนึ่งเสาเข็มที่ตอกรองรับตัวอาคารไว้ สิ่งก่อสร้างทั้งหลายจะมั่นคงอยู่ได้ก็ด้วยเสาเข็มซึ่งคนทั่วไปมองไม่เห็นและมักจะมองข้ามไป หากพวกเราไม่มองข้ามและพร้อมใจน้อมนำมาปฏิบัติจนเกิดผลเป็นความยั่งยืนและร่มเย็นในชีวิต ดิฉันคิดว่านี่คือการแสดงออกถึงความรักที่พวกเรามีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9 อย่างแท้จริง เป็นความรักที่ยิ่งใหญ่และยั่งยืนอยู่ในใจของพวกเราตราบนิจนิรันดร์