แจ็คหม่า กำลังเล่นกับ Money Gamesครั้งใหญ่?

นอกจาก Alibaba จะครองความเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการค้าปลีกโลกแล้วบริษัทลูกอย่าง Ant Financial บริษัทฟินเทคที่ใหญ่ที่สุดในโลกผู้เป็นเจ้าของแพลตฟอร์มการชำระเงิน Alipay และได้แตกขยายไปยังธุรกิจให้เงินกู้ออนไลน์และอื่นๆอีกมากมาย ความยิ่งใหญ่ของเจ้ามด Ant Financial ในแดนมังกรแทบจะเทียบได้กับธนาคารยักษ์ใหญ่รายหนึ่งได้เลยทีเดียว

ที่น่าสนใจ(และน่าวิตกกังวลในเวลาเดียวกัน)คือ Ant Financial ได้เสนอขายตราสารที่ผ่านกระบวนการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน(Securitization)โดยนำมูลหนี้ของลูกค้าที่ปล่อยกู้มาจับมัดรวมกันและขายเป็นตราสารที่เรียกว่าABS (Asset Backed Debt Sales)เสนอให้กับนักลงทุนสถาบันนำไปลงทุนโดยให้ผลตอบแทนที่5.5%ต่อปี

ตัวเลขจาก Bloomberg ระบุว่าการเสนอขายตราสาร ABS ของ Ant Financial ในปีที่แล้วมีมูลค่ากว่า 58,000 ล้านหยวน ล่าสุดในปีนี้ทะลุขึ้นไปแตะ 149,000 ล้านหยวน โดยคู่แข่งที่ตามมาอย่าง JD.Com มีตัวเลขการเสนอขายอยู่ที่ 10,000 ล้านหยวนเท่านั้น คิดอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ประมาณ10-15%ต่อปีขึ้นอยู่กับข้อมูลเครดิตของลูกค้า

ตัวเลขการเสนอขายตราสาร ABS ในประเทศจีนมีอัตราเติบโตที่สูงอย่างต่อเนื่องช่วงปี 2012-2012 ยังมีมูลค่าการเสนอขาย ABS ที่ประมาณ 10,000 ล้านหยวนเท่านั้น แต่หลังจากนั้นอัตราเติบโตได้เกิดขึ้นอย่างก้าวกระโดดจนปีล่าสุดได้กระโดดขึ้นมาแตะที่ 800,000 กว่าล้านหยวนไปแล้ว และคาดว่าปีนี้มูลค่าการระดมทุนน่าจะมากกว่าปีที่แล้วแน่นอน

หากยังจำกันได้ต้นเหตุของการเกิดวิกฤตการเงินในปี 2008 ก็คือการนำหนี้เสียในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เรียกว่า Sub Prime มาจับกองรวมกันและนำไปเสนอขายให้กับนักลงทุนสถาบันทั่วโลกเมื่อเศรษฐกิจสหรัฐฯเดินหน้าต่อไปไม่ได้เริ่มมีการผิดนัดชำระหนี้มากขึ้นตราสารที่เสนอขายก็อยู่ในสถานะ Default หรือผิดนัดชำระหนี้จนเกิดปัญหาสถาบันการเงินขนาดสภาพคล่องและล้มละลายในเวลาต่อมา

คำถามคือจะมั่นใจได้อย่างไรว่ามูลหนี้ที่เกิดขึ้นจากการปล่อยกู้ออนไลน์มูลค่า 800,000 กว่าล้านหยวนนี้มีความน่าเชื่อถือเพียงใด? นักวิเคราะห์จำนวนมากทั้งจากในจีนเองและฮ่องกงต่างแสดงความกังวลถึงความโปร่งใสและความถูกต้องของข้อมูลที่มีอยู่ในตราสาร ABS ขณะที่เหตุผลในการปล่อยกู้ส่วนใหญ่เป็นการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยอย่างอุปกรณ์ไอทีตลอดจนการไปเที่ยวต่างประเทศ

นอกจาก Ant Financial ที่เป็นผู้ปล่อยกู้ออนไลน์รายใหญ่ของจีนมูลค่ากว่า 200,000 ล้านหยวนยักษ์ใหญ่ด้านอินเทอร์เนตของจีนแทบจะทุกรายได้กระโดดเข้ามาในสนามปล่อยกู้ออนไลน์แทบทั้งหมด แม้จะมีนักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ในเซินเจิ้นออกมาบอกว่าหากเทียบกับตัวเลขการปล่อยกู้สินเชื่อบุคคลทั้งระบบแล้วมูลค่าของ ABS ยังมีไม่สูงมาก

เพียงแค่การปล่อยกู้แบบ P2P Lending ในประเทศจีนก็ได้สร้างความวุ่นวายในตลาดการเงินมาแล้วเช่น คดีแชร์ลูกโซ่ครั้งใหญ่รวมถึงสถาบันการเงินเงา หรือ Shadow Bankong ที่มีอยู่มากมายไม่รู้ว่าอนาคตวิศวกรรมทางการเงินหรือ Money Games ที่แจ็คหม่าสร้างจะระเบิดขึ้นหรือไม่ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงคงจะเป็นสัญญาณว่าฟองสบู่ดิจิทัลได้แตกเป็นที่เรียบร้อย