หุ้นใหญ่หรือหุ้นเล็ก กับการปรับขึ้นของตลาดในรอบนี้

หุ้นใหญ่หรือหุ้นเล็ก กับการปรับขึ้นของตลาดในรอบนี้

หุ้นใหญ่หรือหุ้นเล็ก กับการปรับขึ้นของตลาดในรอบนี้

ผ่านมา 1 เดือนกว่าตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน ดัชนี SET ปรับตัวขึ้นมาประมาณ 6% ดัชนีทำสถิติสูงสุดใหม่ และเพิ่มความคึกคักในบรรยากาศการลงทุนจากที่เงียบเหงามาตั้งแต่ต้นปี การปรับตัวขึ้นมาอย่างรุนแรงของดัชนีหุ้นไทย ส่วนหนึ่งมาจากแรงซื้อจากฝั่งนักลงทุนต่างประเทศที่กลับเข้ามาลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่และขนาดกลาง และยังทำให้หุ้นขนาดเล็กก็ปรับตัวขึ้นตาม

ลองมาเปรียบเทียบผลตอบแทนหุ้นในกลุ่มต่างๆแบ่งตาม Market Cap. ในช่วง 1 เดือนกว่าๆที่ผ่านมา จะเห็นว่าถึงแม้ตลาดโดยรวมจะปรับขึ้นจากกระแสเงินลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ (ดัชนีSET50), หุ้นขนาดกลาง (ดัชนี SET100) แต่ที่จริงแล้วผลตอบแทนหุ้นขนาดเล็กนอก SET100 ซึ่งสามารถดูได้จากดัชนี sSET ปรากฎว่าปรับตัวขึ้นสูงที่สุดมากกว่า 7% ชนะดัชนี SET50 และ SET100 ที่ทำได้อยู่ประมาณ 5.8%

ดัชนี sSET เป็นดัชนีที่รวมเอาหุ้นนอก SET100 และมีมูลค่าตลาดรวมลำดับตั้งแต่ 90% ถึง 98% จากทั้งตลาดมาเป็นองค์ประกอบดัชนี และต้องเป็นหุ้นที่มี Free Float ไม่น้อยกว่า 20% ทำให้ดัชนี sSET ถึงแม้จะเป็นการนำหุ้นขนาดเล็กมาใช้ แต่ก็ถือว่าเป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องเพียงพอไม่น้อยเกินไป ทำให้ดัชนีสามารถสะท้อนภาพใหญ่ของหุ้นขนาดเล็กนอก SET100 ได้ดีที่สุด โดยนักลงทุนสามารถเข้าไปดูรายชื่อหุ้นใน sSET ที่ประกาศผ่านเวปไซด์ของตลาดหลักทรัพย์ได้

หุ้นใหญ่หรือหุ้นเล็ก กับการปรับขึ้นของตลาดในรอบนี้

อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจคือลักษณะการปรับตัวขึ้นของดัชนี sSET ช่วงเดือนหนึ่งที่ผ่านมา โดยปกติแล้วหุ้นขนาดเล็กปรับตัวขึ้นแรงๆ ก็จะแกว่งและผันผวนแรงมากกว่าหุ้นขนาดใหญ่ ผมลองนำค่าผันผวนคิดย้อนหลังไป 25 วันทำการของดัชนีทั้ง 3 ดัชนี กลายเป็นว่ารอบนี้ดัชนี sSET ค่าความผันผวนน้อยที่สุดประมาณ 6% ต่อปี เทียบกับดัชนี SET50 และ SET100 ที่มีค่าความผันผวนเกือบ 10% ต่อปี

ลักษณะการปรับขึ้นของดัชนี sSET ที่ถือว่าขึ้นนำหุ้นตัวขนาดใหญ่และผันผวนแกว่งตัวน้อยกว่านั้น แสดงถึงว่าในช่วงเดือนที่ผ่านมา การปรับตัวขึ้นของ sSET เป็นแบบขึ้นไปเรื่อยๆอย่างรุนแรง และมีการย่อพักฐานเพียงเล็กน้อยเทียบกับตัวใหญ่ๆที่ขึ้นแรงและระหว่างทางมีการย่อพักฐานที่แรงกว่า สัญญาณตรงนี้ถ้าตีความเป็นกราฟทางเทคนิคแล้วจะเป็นการปรับตัวขึ้นที่มีคุณภาพและสัญญาณที่ดีในการเก็งกำไร

สรุปนอกจากการวิเคราะห์ตลาดในภาพใหญ่ของดัชนี SET แล้ว การเข้าใจและรู้จักเลือกใช้ดัชนีที่ย่อยๆลงมาวิเคราะห์แจกแจงในรายละเอียด ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกหุ้นรายตัวก็มีความสำคัญมาก เพราะจะเพิ่มความแม่นยำในรายละเอียดของกลุ่มหุ้นที่เลือกได้ดีกว่าการวิเคราะห์แค่ดัชนีหลักๆเพียงอย่างเดียว