ซื้อ‘อาวุธสหรัฐ’ เกิดขึ้นแน่?
การพบกันของนายกฯประยุทธ์ จันทร์โอชา กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ เป็นไปด้วยความราบรื่นตามคำบอกกล่าวของทางการไทย
ขณะที่ก่อนเดินทางไปเยือนทำเนียบขาว มีเสียงแสดงความห่วงใยใน 3 ประเด็นเป็นอย่างน้อย
ทั้งการถูกสหรัฐลากเข้าสู่วงจรความขัดแย้งกับเกาหลีเหนือ การต่อรองทางการค้าที่สหรัฐเสียเปรียบดุลการค้าไทยอยู่ถึงราว 1.9 พันล้านเหรียญต่อปี
เรื่องแรกนายกฯ ถอยฉากได้พองามด้วยการยืนยันทำตามหลักการ และพร้อมทำในสิ่งที่จะนำไปสู่ความสงบสุขในภูมิภาค
ส่วนเรื่องดุลการค้า แม้ว่าโดนัลด์ ทรัมป์ จะหยอดไว้สั้นๆว่าหวังจะส่งสินค้ามาขายให้ไทยเพิ่มมากขึ้น
แต่ก็ยังเป็นเรื่องอีกยาวไกล ที่ต้องมีการเจรจาในระดับปฏิบัติการ
เพราะคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลงสารพัดเรื่อง ทั้งด้านการค้า การลงทุน ความร่วมมือด้านความมั่นคงได้ในเวลาเพียง 30 นาทีเศษๆ ที่ได้พบกัน
เพียงแค่ผู้นำสหรัฐแสดงความเสียใจต่อความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของคนไทย
รวมกับการที่พล.อ.ประยุทธ์ แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อภัยพิบัติในสหรัฐ และล่าสุดในเหตุการณ์กราดยิงจนมีผู้เสียชีวิตกว่า 50 ราย ก็แทบจะหมดเวลาของการพูดคุย
ขณะที่อีกประเด็นที่มีการทักท้วงเอาไว้ก่อนนายกฯ นำคณะไปเยือน“ทำเนียบขาว” ก็คือการเจรจาจัดซื้ออาวุธสงคราม
แม้ว่าสมาชิกพรรคเพื่อไทย จะเปิดประเด็นสื่อต่างประเทศตีข่าวการจัดซื้อฝูงเฮลิคอปเตอร์“แบล็คฮอว์ค” แต่รองนายกฯ ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็ยืนยันหนักแน่นว่าไม่มีการพูดคุยเรื่องดังกล่าว
พร้อมให้เหตุผลว่ามีการเจรจากันมาตั้งแต่รัฐบาลก่อน แต่เมื่อมาเป็นรัฐบาลรัฐประหาร สหรัฐจึงไม่ยอมขายให้
เป็นคำอธิบายที่ย้อนแย้งกับคำให้สัมภาษณ์ของพล.อ.ประยุทธ์ หลังการพบประธานาธิบดีทรัมป์
แม้ท่านนายกฯ จะไม่ได้เอ่ยยอมรับตรงๆ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธการซื้ออาวุธ ซ้ำยังยอมรับว่าได้ขอให้สหรัฐขายของดีในราคาที่จำกัด
นั่นหมายความว่าการเจรจาเพื่อจัดซื้ออาวุธจากสหรัฐ กำลังจะเข้าสู่การเจรจาตกลงกันของฝ่ายปฏิบัติ เพื่อนำไปสู่“การจัดซื้อ”ในเร็ววันนี้ !!?