"ตื่นเต้น ตื่นตา ตื่นตัวกับ FinTech"

ช่วงนี้ผมก็ได้มีโอกาสเห็นถึงความ "ตื่นเต้น" "ตื่นตา" และ "ตื่นตัว" ของอุตสาหกรรม Thai FinTech ให้ได้เห็นอย่างตระการตา ผมได้รับเกียรติไปร่วมงาน FinTech ที่จัดใหญ่จัดเต็มหลายงาน อย่างที่เพิ่งจบไปอย่างสวยงามกับ Thailand Digital Big Bang 2017 ที่มีการแสดงเทคโนโลยี และนวัตกรรมล้ำๆมากมาย หรือ งานสัปดาห์ประกันภัย ของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (OIC) ที่ก็ได้มีการแสดงนวัตกรรม InsurTech ที่มีเรื่องใหม่ให้ได้ตื่นตากันกับประกันภัยยุค 4.0 ที่ใกล้ตัวกว่าเดิม ทั้งเทคโนโลยี AI , Block Chain ที่เข้ามา Disrupt วงการให้เข้าสู่ยุค InsurTech อย่างสง่างาม จากประกันภัยที่เป็นเรื่อง Old fashion และไม่ค่อยหวือหวานัก แต่ตอนนี้ผู้ประกอบการต่างตื่นตัวกับการพัฒนาระบบ Cyber Securities การพัฒนา Application และโฟกัสในเรื่อง Customer experience มากขึ้น ให้ประกันภัยเป็นเรื่องที่ชิค ชิล ไปจนถึงงานนวัตกรรมแห่งชาติ ที่จัดโดย สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) ที่ก็มี Start up ที่โดดเด่น ได้รับรางวัลเกียรติยศกันไป

นอกจากนี้ยังมีความตื่นตาจากประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย ซึ่งถ้าใครอินกับ FinTech มากๆคงต้องไม่พลาดงานในเดือนตุลาคม ที่ฮ่องกง และพฤศจิกายน ที่สิงค์โปร์ ที่จะมีการจัด Hackathon และ  Lab Crawl ที่ผู้สนใจคงต้องรีบลงทะเบียนกัน เพราะเต็มเร็วมาก และที่ผมได้ยินมาจากสาย FinTech ที่โน่น แว่วว่า งานนี้ เจาะลึกกันแบบทุกแง่ทุกมุม Start up ไหนที่อยากจะลับคม อยากจะพบปะกับ Investors หรือทีมเทคมากฝีมือ ก็คงไม่พลาด ที่อาจจะนำกลับมาต่อยอดไอเดียกันได้ ในอนาคตอันใกล้เราคงเห็น FinTech ของไทย น่าตื่นเต้นขึ้นไปอีก

ผมอาจเป็นคนหนึ่งที่โชคดีที่ได้เห็นพัฒนาการของ FinTech ทั้งในและต่างประเทศ ผมดีใจที่ตอนนี้ ทั้งภาครัฐและเอกชน ต่างตื่นเต้น ตื่นตัว และตื่นตากับยุค FinTech รวมไปถึงผู้บริโภค ที่เข้าใจและเข้าถึง FinTech มากขึ้น และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างฟินๆ กับสังคมปลายนิ้วสัมผัส เพราะปัจจุบันนี้ประชาชนไทยถึง 70% ใช้สมาร์ทโฟน และคนไทยถึง 44 ล้านคนใช้ Internet ผ่านโทรศัพท์มือถือ และประมาณการใช้ต่อวัน 234 นาทีต่อคน และพฤติกรรมของผู้ใช้ มีผลวิจัยว่า แต่ละคนจะเผลอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวถึง 150 ครั้งต่อวัน จากพฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เห็นถึงหนทาง ที่ผู้ประกอบการน่าจะคิดนวัตกรรมมารองรับกับผู้บริโภค ที่อยู่ในโลกแห่ง Internet of things ได้มากมาย

แต่ความตื่นเต้น ตื่นตัว ตื่นตานี้จะไม่เป็นผล หากไม่เกิดการต่อยอด และพัฒนาต่อไปอย่างรวดเร็ว เพราะทุกวันนี้ เวทีของ FinTech Eco-system แม้จะมีที่ว่างให้อีกมาก แต่ก็สำหรับผู้ที่เห็นทาง และเข้าจับจองได้ฉับไวเท่านั้น

จากวงการ FinTech ไทย ผมขอถือโอกาสเล่าถึงเพื่อนบ้านเราบ้างครับ ผมมีกรณีศึกษาของประเทศที่ดูจะมีสีสันมากๆในเรื่องFinTech ณ ปัจจุบัน อย่างเช่น เวียดนาม และอินโดนีเชีย ได้มีการปลูกฝังความเป็น engineer หรือ entrepreneurship ตั้งแต่เด็กเล็กๆที่เพิ่งเริ่มพูด เหมือนเป็นการฝัง " Sense" ในนวัตกรรมเข้าสู่ดีเอ็นเอ ตั้งแต่ยังเรียกชื่อตัวเองไม่ได้

อย่างที่อินโดนีเซีย ไม่ได้เป็นเมืองท่องเที่ยวธรรมดาทั่วไปอีกแล้ว หากแต่มีแคมป์ Software developer Camp หรือ Coding Camp ให้ทั้งเด็ก เยาวชน และผู้ใหญ่ได้ศึกษากัน แต่ก่อนทุกคนคงมุ่งไปดื่มด่ำกับลมแดด ไอทะเล สมัยนี้ ได้ทั้งทะเล ได้ทั้งความรู้ ที่ไม่ใช่การเรียน หรืออบรมที่เคร่งเครียดน่าเบื่อ แต่สามารถนั่งจิบ Mocktail ไปพร้อมกับ Coding ไป เพราะการเรียนรู้และพัฒนานั้น ยังมีนวัตกรรมใหม่ๆในการปลูกฝังเรื่องยากๆให้เป็นเรื่องง่ายแถมสนุกสนานให้กับทุกเพศ ทุกวัย ได้อย่างชาญฉลาด นอกจากสร้างเสริมเทคโนยีแล้ว ยังเสริมสร้างอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอีกด้วย

หากเราตื่นเต้นกับสิ่งใหม่ๆ ตื่นตัวกับนวัตกรรม และโลกที่หมุนเปลี่ยนแปลงไป และตื่นตากับการได้ใช้ความคิดในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ "คุณ" ก็จะเป็นบุคคลหนึ่ง ที่จะเติบโตยังโลดแล่นไปในอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะ FinTech หรือ InsurTech หรือ Internet of things แบบฟินๆ อย่างแน่นอนครับ

ผมก็หวังที่จะเห็นพวกเรา “ตื่นเต้น ตื่นตัว ตื่นตา” มากขึ้นไปอีก แล้วคงได้มาแชร์ในพื้นที่นี้ต่อไปครับ