Crypto Currencyจะสร้าง Freedomหรือ Chaos?

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาประเด็นเรื่องของสกุลเงินดิจิทัลหรือ Crypto Currency ยังคงถูกนำมาถกเถียงกันอย่างไม่สิ้นสุด(และดูจะไม่จบลงง่ายๆ)ที่อื้อฉาวสุดคือกรณีของซีอีโอเจพีมอร์แกนที่เป็นสถาบันการเงินรายใหญ่ผู้กุมอำนาจทางการเงินของโลกรายหนึ่งออกมาแอนตี้บิทคอยน์อย่างสุดฤทธิ์ (แต่สุดท้ายก็เหมือนจะแอบไปซื้อไว้เอง) ที่ฟินเทคทั่วโลกต่างแห่กันออก Crypto Currency และ ICO ใหม่ๆออกมาชนิดที่ไม่สนใจนักการเงินรุ่นดั้งเดิม

หลายคนอาจจะเริ่มมีคำถามแล้วว่า Crypto Currencyจะสร้างเสรีภาพ(Freedom)หรือความวุ่นวาย(Chaos)ให้กับระบบการเงินโลกกันแน่

หากย้อนกลับไปในจุดเริ่มต้นของการสร้างสกุลเงินแบบถอดรหัสขึ้นในปี 2008 แนวคิดในการสร้างได้เกิดขึ้นจากโปรแกรมเมอร์หัวก้าวหน้าที่มองว่าธนาคารกลางทั่วโลกเข้ามาแทรกแซงระบบการเงินของโลกมากจนเกินไปจนทำให้สมดุลเสียและทำไมถึงไม่ปล่อยให้อัตราแลกเปลี่ยนเป็นไปตามดีมานด์และซัพพลายอย่างแท้จริง

การเกิดขึ้นของสกุลเงินดิจิทัลจึงเพื่อเป็นการท้าทายระบบการเงินแบบดั้งเดิมที่ขาดความน่าเชื่อถือ(ในมุมมองของผู้สร้าง)เพราะในอดีตเราพิมพ์เงินขึ้นโดยมีทองคำเป็นหลักประกันแต่หลังปี2008ธนาคารกลางใหญ่ของโลกนำโดย FED,ECB BOJ ต่างแข่งกันพิมพ์เงินออกมาจนทำให้เกิดสภาพคล่องล้นโลกและเกิดฟองสบู่ในหลายๆสินทรัพย์

นักการเงินดั้งเดิมชอบตั้งคำถามว่าเงินดิจิทัลมีความน่าเชื่อถือตรงไหนใครก็เขียนโค้ดขึ้นมาได้เองแล้วหลักประกันมันอยู่ตรงไหน?ผู้สร้างเงินดิจิทัลก็จะถามกลับว่าแล้วทุกวันนี้เงินดอลลาร์มีความน่าเชื่อถือตรงไหนหากใช้ Logic เดียวกันเพราะธนาคารกลางก็พิมพ์เงินออกมาได้เองเหมือนกัน

ส่วนคำตอบจากคำถามที่ว่าแล้วเงินดิจิทัลน่าเชื่อถือตรงไหน?คำตอบจากผู้สร้างก็คือการจำกัด Supply นั่นเองเช่นบิทคอยน์ประกาศที่จะสร้างขึ้นมาเพียง21ล้านหน่วยเท่านั้นและขายความน่าเชื่อถือของการซื้อขายผ่าน Blockchain ที่จะทำให้เกิดตลาดเสรีอย่างแท้จริงส่วนมูลค่าก็สามารถเทียบได้กับสกุลเงินดั้งเดิมได้อยู่แล้วเพราะปัจจุบันก็มีการเปรียบเทียบคู่ค่าเงินเหมือน Forex ทั่วไป

หากใช้มุมมองแบบหัวก้าวหน้าสุดๆ Crypto Currency อาจจะเป็นการสร้างระเบียบโลกครั้งใหม่(New World Order)ให้เกิดขึ้นก็เป็นได้เป็นไปตามความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ที่ต้องการเสรีภาพไม่ถูกจำกัดหรือควบคุมทุกคนอยากจะมีอิสระในตัวเอง

แต่หากย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์มนุษย์ชาติคำว่าเสรีภาพก็เป็นจุดกำเนิดของความวุ่นวาย(Chaos)เช่นกัน จุดนี้มนุษย์ชาติก็ต้องกลับไปตั้งคำถามว่าการที่ระบบการเงินโลกจะคงอยู่ได้โดยไม่มีการกำกับดูแลเลยจะเป็นไปได้ไหมและระบบตลาดแบบเสรี 100%  ท้ายสุดแล้วมันจะเป็นตลาดในอุดมคติหรือไร้ขื่อแปร

ผมเชื่อว่า“ทางสายกลาง”คือจุดลงตัวที่สุดของคำถามที่ผมตั้งเป็นชื่อบทความนี้ Crypto Currency จะถึงวันล่มสลายหรือ Crash ครั้งใหญ่แน่นอนหากเปิดเป็นตลาดเสรี100% ไร้ซึ่งการดูแลขณะเดียวกันโลกการเงินดั้งเดิมก็ต้องปรับตัวเองให้เข้ากับสิ่งใหม่ที่เข้ามาใช้เป็นกระจกสะท้อนตัวเองว่านโยบายแทรกแซงตลาดอย่างการพิมพ์เงินที่เคยทำไปมันได้ผลจริงหรือไม่และอะไรคือจุดลงตัวที่สุดของหัวก้าวหน้าและหัวอนุรักษ์นิยม