การตลาดออนไลน์สำหรับคุณแม่

การตลาดออนไลน์สำหรับคุณแม่

เมื่อสัปดาห์ก่อนได้รับเชิญจากทาง มหาลัยมหิดล ไปเป็น วิทยากรพิเศษ ในหัวข้อ ที่ไม่คาดฝันมาก่อนครับ 

 นั่นคือ Digital Marketing for Mum หรือ การตลาดออนไลน์สำหรับคุณแม่!

สำหรับชายหนุ่ม วัยกลางคน หัวเถิกเล็กๆ ที่ไม่เคยผ่านการเป็นแม่คนมาก่อน ถือเป็นหัวข้อที่เร้าใจ สำหรับผมมิใช่น้อย

แถมงานนี้ ขึ้นเวทีประกบกับมืออาชีพ ทางด้านคุณแม่ตัวจริง เช่น คุณหมออานนท์ สูตินรีแพทย์ ที่สร้าง วีดีโอ คอนเทนท์ เกี่ยวกับคุณแม่ ได้หลายล้านวิว ในช่วงเวลาไม่กี่วันฃ

คุณกัญญ์วรา กิรติเสวี ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ของผลิตภัณฑ์เด็ก พีเจ้น ที่ครองตลาดอันดับหนึ่งมาอย่างยาวนาน , คุณ จุฑาทิพย์ บรรณาธิการ The Asianparent Thailand เจ้าของสื่อ ทางด้านแม่และเด็ก อันดับหนึ่งของประเทศไทย งานนี้สนุกมากครับ วิทยากรทุกคนปล่อยของกันอย่างเต็มที่

จริงๆ ตลาดออนไลน์ สำหรับคุณแม่นั้น ใหญ่มากครับ เท่าที่สำรวจได้ มูลค่าทางตลาดของตลาดแม่และเด็กนั้น สูงถึง 34,800 ล้านบาท

ที่สำคัญคุณแม่ในยุคนี้ เสพติดสื่อดิจิทัลกันหนักมาก จากที่ทาง“มหิดล” สำรวจพบว่า คุณแม่ยุคนี้ ถึง 87% ค้นหาข้อมูลการเลี้ยงลูกทางอินเทอร์เน็ต และใน 87% นี้นั้น มีถึง 57% ที่ใช้เวลาค้นหาข้อมูลถึง 1-3 ชั่วโมง

การค้นหาข้อมูลของคุณแม่นั้น ไม่ได้เริ่มต้นตอนที่มีลูกนะครับ จริงๆ เริ่มกันตั้งแต่ปฏิสนธิเสียด้วยซ้ำ คือ คือ เริ่มตั้งแต่การค้นหาข้อมูลยอดฮิต คือ “ฉันท้องหรือไม่ท้อง?”

หลังจากรู้ตัวว่าท้อง ก็จะเริ่มหาข้อมูลต่อโดยละเอียด วิธีการบำรุงครรภ์ 1 เดือน, 2 เดือน, 3 เดือน ยัน 9 เดือน , คุณหมอคนไหนเก่ง, การคลอดลูก, ตั้งชื่อให้ลูก , พัฒนาการเด็ก , ฯลฯ

คุณแม่เสพข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตกันอย่างหนักหน่วง จนกระทั่งบุคลากรทางการแพทย์ เริ่มออกมาพูดเชิงหยอก บวกเป็นห่วงกัน นิดๆว่า คุณแม่สมัยนี้ เก่งกว่าหมอกันเสียอีก เพราะอ่านข้อมูลกันเยอะมาก แต่ไม่รู้หรอกนะว่าข้อมูลมันถูกต้องจริงหรือเปล่า 

แน่นอนครับในเชิงของการทำการตลาด ถ้าคุณแม่เสพติดข้อมูลกันขนาดนี้ บรรดาเจ้าของธุรกิจหรือเจ้าของแบรนด์ จึงไม่รอช้า กระโดดเข้ามาเอาใจคุณแม่ โดยการลงทุนทำคอนเทนท์เพื่อคุณแม่กันเป็นส่วนใหญ่

คุณหมออานนท์ สูตินรีแพทย์ ผู้สร้างคอนเทนท์ ให้ความรู้กับคุณแม่อย่างมากมาย แอบเปิดเผยเคล็ดลับการสร้างคอนเทนท์ ที่โดนใจคุณแม่ โดยคุณหมอบอกว่าคุณหมอไม่ได้ให้ความสำคัญกับแค่ทฤษฎี ความรู้ทางการแพทย์ที่ถูกต้องเท่านั้น แต่สิ่งที่สำคัญอีกอย่างที่ไม่อาจมองข้ามได้เลย ก็คือ “ประสบการณ์”

คุณหมอมองว่า การคลอดลูก ไม่ได้เป็นเพียงแค่ การเอาเด็กออกมา แล้วให้เด็กกับคุณแม่ปลอดภัยเท่านั้น แต่คุณหมอมองว่า มันเป็น Moment of Life ดังนั้น คุณแม่จะต้องเสพประสบการณ์ตรงนี้ ด้วย Moment ที่ดีที่สุด

ดังนั้นคอนเทนท์ของคุณหมอ อาจจะมีแนวๆ วิธีปฎิบัติตัวในห้องคลอด, วิธีการเบ่งลูกที่ถูกวิธี, สารพัดวิธี ที่จะทำให้คุณแม่ลดความกังวล ฯลฯ และที่สำคัญ คุณหมอมีคอนเทนท์  แนว วินาทีที่คุณแม่ สบตากับ ลูกครั้งแรกหลังคลอด ภาพของความสุขที่เอ่อล้น ของคุณแม่ จนน้ำตาไหลออกมา อันนี้แหละที่ไวรัล กันเป็นล้านวิว แบบที่คุณหมอไม่ได้ตั้งใจ

ถัดมาเป็นคุณจุฑาทิพย์ บรรณาธิการ The Asianparent Thailand เปิดเคล็ดลับในการสร้างคอนเทนท์ แม่และเด็ก โดยบอกว่า เธอพยายามทำคอนเทนท์ให้ตรงกับอินไซต์ของคุณแม่ให้มากที่สุด โดยมีการแบ่งคุณแม่ออกเป็นกลุ่มย่อยๆ โดยเลือกใช้เฟซบุ๊ค กรุ๊ปเป็นเครื่องมือหลัก

เพราะเฟซบุ๊ค กรุ๊ปมี Reach ที่สูงกว่าเฟซบุ๊ค เพจ แถมเฟซบุ๊ค กรุ๊ปเปิดโอกาสให้คุณแม่ คุย ถามตอบกันเอง ก่อให้เกิดเป็นคอมมูนิตี้อีกด้วย 

ที่เด็ดและล้ำมากๆ คือ ไอเดียการสร้างกรุ๊ปของคุณจุฑาทิพย์ครับ แกเปิดเฟซบุ๊คกรุ๊ป ได้เจาะจงและสร้างสรรค์มากๆ เช่น กลุ่มคุณแม่ที่มีลูกเกิดปีวอก กลุ่มคุณแม่ใจเพชร หรือ คุณแม่ที่เป็น Single Mum ไม่มีคุณพ่ออยู่ด้วย 

ล่าสุดมีไอเดียจะเปิดกรุ๊ปคุณแม่ ที่อาศัยอยู่กับแม่ผัว ! เพราะแกเห็นว่า คุณแม่กลุ่มนี้มีปัญหาค่อนข้างมากและมีปัญหาที่เหมือนๆกัน จับมาชุมนุมกัน เพื่อแก้ปัญหาแม่ผัว กันเสียเลย

ท้ายสุด คุณกัญญ์วรา ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ของผลิตภัณฑ์เด็กพีเจ้น  แชร์แนวคิดการทำคอนเทนท์ สำหรับคุณแม่แบบง่ายๆครับ คือ แนวคิดที่แบรนด์ จะเป็น Mum Partners คือ เป็นเพื่อนคู่ใจคุณแม่ ในทุกๆขั้นตอนของชีวิต โดยไม่ได้คิดเพียงแค่จะขายสินค้า

แบรนด์พีเจ้น ไม่ได้มองแค่ คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือ คุณแม่ที่ลูกคลอดออกมาแล้วเท่านั้น แต่แบรนด์พีเจ้นก้าวล้ำ มองถึงขนาดว่า คุณแม่มีความพร้อมที่จะมีบุตรหรือเปล่า โดยแบรนด์ไม่ได้อยากให้คุณแม่ รีบมีลูก โดยทั้งๆที่ไม่มีความพร้อม

งานนี้เต็มอิ่มมากๆครับ เปิดโลกทัศน์สำหรับนักการตลาดออนไลน์ที่ยังไม่มีลูกอย่างผมมากๆ หลังกลับจากงาน ก็ได้แต่กระซิบบอกแฟนเบาๆ ก่อนนอนว่า โซวบักท้ง เรียนรู้การทำการตลาดสำหรับคุณแม่แล้วนะ พร้อมแล้วหรือยังจ๊ะ