รอจนลิงหลับ.. ปัญหาอันดับ 1 รถเมล์ไทย

รอจนลิงหลับ.. ปัญหาอันดับ 1 รถเมล์ไทย

ถ้าคนขึ้นรถเมล์ทุกคนชอบเล่นทวิตเตอร์ ก็เชื่อว่าครึ่งหนึ่งจะต้องทวิตข้อความอารมณ์เสียแบบน้องอิมเมจThe Voice

เพราะผลการศึกษาเบื้องต้นของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ยืนยันแล้วว่า การรอรถนานเป็นปัญหาอันดับหนึ่งของรถเมล์ไทย

กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,000 คน ต้องเจอปัญหานี้ถึง 50% และคะแนนความพึงพอใจข้อนี้มีแนวโน้มเฉลี่ยไม่ถึง 2 จากคะแนนเต็ม 5 ซึ่งสะท้อนความสาหัสของปัญหาได้เป็นอย่างดี โดยจากนี้ TDRI ตั้งใจจะเก็บข้อมูลกลุ่มตัวอย่างเพิ่มเป็นระดับหมื่นคน เพื่อให้ทราบเวลาเฉลี่ยในการรอรถเมล์และความพึงพอใจต่อบริการในภาพรวม

แต่ฟังข้อมูลแล้วชาวกรุงฯ ก็ไม่ต้องหมดหวัง เพราะตอนนี้กระทรวงคมนาคมและกรมขนส่งฯ กำลังเร่งยกเครื่องระบบรถเมล์เพื่อพัฒนาในทุกๆ ด้าน ซึ่งอาจทำให้ปัญหารอรถนานทุเลาลงในช่วง 2 ปีข้างหน้า

แนวทางการปฏิรูปคือ จะยุบเขตการเดินรถจาก 8 เขต เหลือ 4 เขต ได้แก่ เขตสีเหลือง (Y) อยู่ทางตะวันตกของกรุงเทพฯ, เขตสีเขียว (G) อยู่ด้านตะวันออกเฉียงเหนือ, เขตสีฟ้า (B) ลากจากทางเหนือมาสู่ใจกลางกรุงเทพฯ โดยอยู่ระหว่างเขตสีเหลืองและสีเขียว, สุดท้ายคือสายสีแดง (R) ซึ่งอยู่ด้านตะวันออกเฉียงใต้ โดยรถเมล์ทุกสายและทุกคันจะมีสีตามเขตการเดินรถการตัวเอง

เช่น รถเมล์สาย 114 ซึ่งเดินรถทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงเทพฯ ก็จะถูกทาด้วยสีเขียวและเปลี่ยนชื่อเป็นสายG21เพื่อให้ประชาชนเห็นแล้วรู้ทันทีว่ารถเมล์คันนี้อยู่ในโครงข่ายไหน ขณะเดียวกันจะเพิ่มเส้นทางเดินรถจาก 202 สาย เป็น 269 สายเพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลมากขึ้นอีก 15%แต่จะหั่นระยะทางเฉลี่ยให้สั้นลงเพื่อลดปัญหาการทับซ้อนของรถเมล์แต่ละสาย

การขึ้นรถเมล์ของคนกรุงฯ ในอนาคต จึงจะเปลี่ยนมาเป็นแบบโครงข่าย โดยประชาชนอาจต้องขึ้นลงรถถี่ขึ้นเพื่อเดินทางไปยังจุดหมายเดิม แต่รถเมล์ทุกสายจะมาบ่อยขึ้นและประชาชนจะมีทางเลือกในการเดินทางไปยังบริเวณต่างๆ มากขึ้น ส่งผลให้การรอรถเมล์ใช้เวลาน้อยลง

เบื้องต้นกรมขนส่งฯ จะนำร่องปฏิรูปรถเมล์ตามแนวทางดังกล่าวจำนวน 8 สายเป็นเวลา 1 เดือน ดีเดย์ตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค. นี้ ถ้าเส้นทางไหนเวิร์คก็เดินหน้าต่อ แต่ถ้าเส้นทางไหนผลตอบรับไม่ดีก็จะนำกลับมาทบทวนใหม่ โดยตั้งเป้าจะปฏิรูปครบ 269 เส้นทางภายใน 2 ปี

ชาวกรุงที่ได้ทดลองใช้บริการรถเมล์ทั้ง 8 สาย หรือชาวโซเชียลสามารถแสดงความคิดต่อเรื่องการปฏิรูปรถเมล์ได้เต็มที่ “ไม่ต้องกั๊ก” ในเฟซบุ๊คชื่อ การปฏิรูปเส้นทางรถเมล์ กทม.’ ซึ่งกรมขนส่งฯ เปิดขึ้นมาโดยเฉพาะ คราวนี้ความคิดเห็นบนโซเชียลจะได้ช่วยกันพัฒนาประเทศกันอย่างจริงจัง ไม่ใช่โต้ตอบให้เปลืองน้ำลายกันไปมา แล้วปล่อยให้ปัญหาลอยนวล