SIDEWAY UP

SIDEWAY UP

SIDEWAY UP

สวัสดีครับท่านนักลงทุน กลับมาพบกันอีกครั้ง เพื่อมาคุยกันเรื่องกลยุทธ์การลงทุนในเดือนส.ค.เพื่อให้ทราบว่าท่านนักลงทุน ต้องเตรียมกำหนดกลยุทธ์อะไรกันบ้างในเดือนนี้

ในเดือนก.ค. ที่ผ่านมา หุ้นไทยแกว่งตัวอยู่แถว 1,564 -1,584 จุด โดยประมาณ มีนักลงทุนหลายท่าน ถึงกับบ่นว่า ตลาดหุ้นช่วงนี้ลงทุนยาก ไม่รู้ว่าจะถือสั้นหรือถือยาวดี

การที่นักลงทุนบ่นว่า ไม่รู้ว่าจะถือสั้นหรือถือยาว ผมยังรู้สึกดี ที่นักลงทุนท่านนี้มีกลยุทธ์การลงทุน มีการกำหนดว่าจะถือสั้นหรือถือยาว

มีนักลงทุนท่านหนึ่งที่ผมรู้จัก เล่าให้ผมฟังว่า ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในการลงทุนเลย เพราะไม่เคยกำหนดระยะเวลาการลงทุน ไม่เคยคิดก่อนซื้อหุ้นเลยว่า จะถือสั้น ถือยาว หรือแบบเทรดดิ้ง

โดยปกติ ระยะเวลาการลงทุน ระยะสั้นคือ 1 ปี ระยะกลางคือ 3 ปี ระยะยาวคือ 3 ปี ขึ้นไป และเทรดดิ้งคือซื้อมาขายไป ผิดพลาดตัดขาดทุนทันที

แต่นักลงทุนรายนี้ไม่ใช่ ระยะสั้นของเขาคือ 10.00 น. - 12.30 น. ระยะกลางคือ 14.30 -16.40 น. และระยะยาวคือหุ้นที่ซื้อแล้วขาดทุน เอาเข้าการลงทุนระยะยาว

การลงทุนระยะยาว ไม่ควรนำหุ้นที่ตั้งใจจะเทรดดิ้ง เช่นตลาดหุ้นเปิดมา ซื้อหุ้นไป 1 ตัว ซื้อมาถือมาตลอดวัน จนกระทั่งตลาดจะปิด ก็ยังขายไม่ได้เพราะขาดทุน เลยไม่อยากขายขาดทุน ก็เลยเปลี่ยนใจไม่ขาย ถือยาวแทนหวังว่าวันหน้าหุ้นตัวนี้น่าจะขึ้นมาให้ขายได้

ปัญหาเกิดตรงนี้ครับ เมื่อหวังจะเล่นสั้นแบบเทรดดิ้ง แต่พอขาดทุนกลับไม่ขายออก เปลี่ยนใจมาถือยาว พอร์ตนี้มีปัญหาแน่ ขอเตือนว่าอย่างลงทุนแบบนี้เด็ดขาด ถ้าตั้งใจจะลงทุนแบบเทรดดิ้ง ก็ขอให้ยึดมั่นในอุดมการณ์นั้นครับ เพราะการที่ท่านนำหุ้นเทรดดิ้งมาผลักไปเป็นการลงทุนระยะยาว หุ้นตัวนี้จะอยู่กับท่านยาวจริง ๆ แถมสร้างปัญหาให้ด้วย

เนื่องจากการลงทุนแต่ละระยะเวลา ใช้เครื่องมือและข้อมูลที่ไม่เหมือนกัน เล่นเทรดดิ้งใช้การดูกราฟต่างๆ แต่ถ้าลงทุนระยะยาว ต้องดูที่ปัจจัยพื้นฐานด้วย เช่น อัตราการเจริญเติบโต อัตราเงินปันผล เป็นต้น

ผลกระทบต่อมาของการผลักหุ้นเทรดดิ้งเข้าพอร์ตระยะยาว จะสร้างปัญหาให้อีกเรื่องคือ มีหุ้นเต็มพอร์ตมากมาย 40 -50 ตัว แบบไร้คุณภาพ หุ้นมากแบบนี้ ไม่ว่าหุ้นขึ้นหรือลง ก็ดูไม่ทัน

กลับมาวิเคราะห์ตลาดหุ้นในเดือนนี้ คาดว่า SET INDEX จะปรับตัวขึ้นเป็นแบบ SIDEWAY UP มีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านจิตวิทยาสำคัญคือที่ 1,600 จุด

ในเดือนส.. เป็นที่ทราบกันดีว่า งบการเงินของบริษัทจดทะเบียนจะออกกันครบ ประมาณวันที่ 15 .. กลางเดือน ซึ่งงบที่ออกมาแล้วหรือที่ยังไม่ออก ก็น่าจะเป็นไปตามคาด คือไม่ค่อยดีนัก เนื่องจากไตรมาสสองเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของหลายอุตสาหกรรม

อย่างไรก็ตาม งบการเงินแม้จะแย่แต่ก็เป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาดไม่น่ากังวล บวกกับในเดือนนี้ ธนาคารกลางทุกประเทศไม่มีการประชุม ดังนั้นความกังวลเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยไม่มี ทำให้นักลงทุนสามารถจัดการการลงทุนได้ง่าย ไม่ต้องกังวลเรื่องข่าวอัตราดอกเบี้ย ส่งผลทำให้มี FUND FLOW ไหลเข้าตลาดหุ้นไทย

สำหรับการซื้อขายแยกตามกลุ่มนักลงทุน เดือนก.ค.2560 นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 6,587 ล้านบาท สถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 4,884 ล้านบาท พอร์ตโบรกเกอร์ ขายสุทธิ 3,407 ล้านบาท และรายย่อย ซื้อสุทธิ 14,877 ล้านบาท 

ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนในเดือนส.. ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส เชื่อว่า SET น่าจะแกว่งผันผวนในกรอบ 1,560-1,600 จุด ยังคงมีความเสี่ยงที่จะไหลย้อนลงมาทดสอบแนวรับต่าง ๆ อยู่

ดังนั้นให้นักลงทุน ซื้อหุ้นตอนตลาดหุ้นลง โดยในเดือนนี้ตลาดหุ้น มีแนวรับอยู่ที่ 1,560 จุดและมีแนวต้านอยู่ที่ 1,600 จุด

ก่อนจบย้ำกันอีกครั้งนะครับว่า อย่าผลักหุ้นที่คิดจะเล่นเทรดดิ้ง ไปไว้พอร์ตระยะยาว เนื่องจากเพราะไม่อยากขาดทุน เป็นกลยุทธ์ที่ไม่ควรทำ การลงทุนแบบเทรดดิ้งสั้น ตัดขายขาดทุนสั้น ๆ ไป อย่านำเก็บไปเป็นการลงทุนระยะยาวอย่างเด็ดขาด พบกันใหม่เดือนหน้า ขอให้ท่านผู้อ่านประสบผลสำเร็จในการลงทุนครับ