จีนกำลังกลายเป็น Cashless society จริง ๆ

จีนกำลังกลายเป็น Cashless society จริง ๆ

แจ็ค หม่าบอกผมว่าเขาจะทำให้ประเทศจีนเป็น “สังคมไร้เงินสด” (cashless society) ในห้าปีข้างหน้า

ผมบอกเขาว่าจากที่สัมผัสเมืองจีนจากการเดินทางไปคราวนี้ ผมคิดว่าอาจไม่ถึงห้าปีด้วยซ้ำ บางทีอีกสองถึงสามปี คนจีนอาจไม่มีใครถือเงินสดแล้ว

 

แจ็ค หม่าบอกว่าถ้าเมืองจีนเป็น “สังคมไร้เงินสด” ได้ ประเทศอื่น ๆ ก็ย่อมทำได้ เพราะเขามีประชากรถึง 1.3 พันล้านคน การจะทำให้สำเร็จย่อมยากกว่าชาติอื่นที่มีพลเมืองน้อยกว่า

 

“อีกหน่อย นักท่องเที่ยวจีนจำนวนมหาศาลที่ไปเมืองไทยก็ไม่ต้องถือเงินสด มีแค่โทรศัพท์มือถือกับหนังสือเดินทางก็เดินตัวปลิวไปเที่ยวเมืองไทยได้แล้ว จ่ายเงินทุกอย่างผ่านมือถือ...เผลอ ๆ อีกหน่อย ไม่มีมีพาสปอร์ตด้วยซ้ำไป ...อยู่ในมือถือนี่แหละ” เจ้าของ Alibaba Group บอกผมระหว่างการสัมภาษณ์พิเศษที่หางโจวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

เมืองหางโจวซึ่งเป็นบ้านเกิดของแจ็ค หม่าและเป็นที่ตั้งของศูนย์บัญชาการของอาลีบาบากรุ๊ปเป็นแหล่งทดลองการเลิกใช้เงินสดในชีวิตประจำวันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายเงินซื้อข้าวปลาอาหารหรือขึ้นแท็กซี่และรถประจำทาง...อีกทั้งยังฝากเงิน, ถอนเงิน, และกู้เงินผ่านมือถือกันแล้วโดยผ่าน QR Code

คู่แข่งหลักของบริการนี้คือ Alipay กับ WeChat สู้กันอย่างถึงพริกถึงขิง

 

ต้องถือว่าเป็นปรากฏการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจที่ไม่เห็นในสังคมอื่นใด แม้ในประเทศก้าวหน้าพัฒนาทางตะวันตกก็ยังไม่ได้ประกาศเป้าหมายเป็นสังคมที่ไม่ต้องใช้เงินสดกันอีกต่อไปเช่นนี้

 

สถิติการจ่ายเงินผ่านโทรศัพท์มือถือเปรียบเทียบระหว่างจีนกับสหรัฐก็จะเห็นถึงความแตกต่างโดยสิ้นเชิง

 

ปีที่แล้ว ยอดเงินการใช้จ่ายผ่านมือถือของจีนสูงถึง $5.5 ล้านล้าน หรือ 50 เท่าของสหรัฐซึ่งอยู่ที่ $112 พันล้าน

 

คุณจะเปิดล็อกจักรยานที่วางเรียงรายข้างถนนเมืองจีนวันนี้เพื่อให้ผู้คนแบ่งกันใช้ฟรี ๆ ก็ต้องใช้มือถือกดผ่าน QR Code

 

นักดนตรีวนิพกข้างถนน ไม่วางหมวกไว้ให้ประชาชนผู้พบเห็นหย่อนเศษเงินบริจาคให้แล้ว หากแต่มีป้ายตัว QR Code เบ้อเร่อเพื่อให้ผู้คนที่ผ่านไปมาใช้มือถือกดจำนวนเงินที่จะมอบให้เป็นกำลังใจ

 

ธุรกิจและแบรนด์สินค้าทั้งหลายต่างก็กระโจนเข้าสู่ระบบการจ่ายเงินด้วยวิธีการเดียวกันนี้ เพราะหากคุณไม่เข้าสู่สิ่งที่เรียกว่า mobile payments คุณก็จะตกรถไฟขบวนเร่งด่วนนี้ทันที

 

บัตรเครดิตและเอทีเอ็มกำลังกลายเป็นสิ่งล้าสมัยในยุคดิจิทัลของจีน

 

แจ็ค หม่าบอกว่าเขาเพิ่งจะเปิด “ร้านกาแฟไร้คนเก็บเงิน” หรือ cashierless coffeeshop ในเมืองหางโจวเป็นการสาธิตว่าลูกค้าสามารถเข้ามาดื่มกาแฟและอาหารว่างได้โดยจ่ายเงินผ่านมือถือได้เลย ไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่คิดเงิน

 

ขณะนี้ซูเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่งในจีนก็ใช้วิธีการทำนองเดียวกัน นั่นคือลูกค้าหยิบสินค้าแล้วก็ยิง QR Code จ่ายเงินได้ทันที ไม่ต้องผ่านจุดจ่ายเงินเหมือนเดิมอีกต่อไป

 

คู่แข่งใหญ่สองเจ้าคือ Tencent (เจ้าของ WeChat) กับ Ant Finance ของ Alibaba จึงอยู่ในฐานะที่จะทำธุรกิจยักษ์ที่สามารถสร้างรายได้มหาศาล

 

เจ้าของ Tencent ชื่อ “หม่าฮว้าเถิง” (马化腾) และเจ้าของอาลีบาบาคือ Jack Ma “หม่าหยุน” (馬雲) แซ่เบ๊เหมือนกัน แต่ฟาดฟันกันทุกเวทีธุรกิจกันทีเดียว

 

นอกจากจะได้เปอร์เซ็นต์จากบริการจ่ายเงินผ่าน apps บนมือถือแล้ว ทั้งสองเครือข่ายก็ยังคิดเงินกับบริษัทต่าง ๆ ที่ใช้บริการนี้

 

ไม่แต่เท่านั้นทั้งสองเจ้าก็ยังเก็บข้อมูล big data ที่เกี่ยวกับการใช้จ่ายของผู้บริโภคทั้งหลายทั้งปวงเพื่อประเมินเป็นเครดิตและทำโฆษณาให้เจาะลงตรงเป้าอีกทางหนึ่ง

 

นี่ย่อมไม่ใช่เพียงแฟชั่นที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป แต่นี่คือปรากฏการณ์สำคัญยิ่งที่กำลังจะเปลี่ยนโฉมของเศรษฐกิจโลกและวิถีชีวิตของคนหลายพันล้านคนในเวลาอีกไม่นาน!