น้ำลดตอผุด น้ำท่วมขยะโผล่

น้ำลดตอผุด น้ำท่วมขยะโผล่

ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คนกรุง และบางจังหวัดได้รับผลกระทบ จากฝนฟ้าที่กระหน่ำลงมาอย่างหนัก

 ทำให้เกิดน้ำขังในหลายพื้นที่ ที่ดูจะเดือดร้อนมากก็คือ คนกรุงเทพที่ได้ยินเสียงบ่น ตัดพ้อ ประชดประชัน รวมถึงตั้งคำถามบางอย่างที่ไม่เข้าใจกันมากมาย เช่น ตั้งคำถามด้วยความสงสัยว่า ทำไมโรงเรียนถึงได้เปิดเทอมในช่วงฤดูฝน ทำให้การเดินทางสัญจรไปมาที่ไม่สะดวกอยู่แล้วหนนักขึ้นไปอีก 

คำถามนี้ในต่างจังหวัด โดยเฉพาะแถบชนบทอาจจะไม่เกิดขึ้น ด้วยความที่บ้านเรานั้น ต้องเข้าใจก่อนว่าเป็นประเทศเกษตรกรรม ประชาชนส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาเกษตรกรต้องพึ่งพาน้ำฝนเป็นหลัก แม้ปัจจุบันจะมีระบบชลประทานมากขึ้น แต่น้ำจากธรรมชาติก็ยังมีบทบาทสำคัญ 

ดังนั้นเมื่อฝนมาฟ้าครึ้ม ก็ถึงเวลาที่ชาวไร่ชาวนาจะลงจอบลงเสียม ดังนั้นลูกเด็กเล็กแดงที่เป็นภาระต้องดูแลก็ถูกส่งไปโรงเรียน ช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครองไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง ดังนั้นคนในกรุงเทพหรือคนในเขตเมือง ก็ต้องเข้าใจในส่วนนี้ด้วยเช่นกัน 

และสำหรับฝนที่ทะลักลงมาในพื้นที่กรุงเทพ นอกจากทำให้เกิดปัญหารถติด รถเสียแล้ว มีสิ่งหนึ่งที่รู้สึกว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี ก็คือ ผู้คนจำนวนมาก เริ่มที่จะมองภาพในมุมกว้างมากขึ้น จากเดิมที่มักจะพุ่งเป้าไปที่ผู้ที่มีหน้าที่ดูแลแก้ไขเป็นหลัก แต่เห็นได้ว่าขณะนี้เริ่มมองไปยังตัวปัญหาอื่นๆ ที่มีส่วนร่วมทำให้สถานการณ์รุนแรงหรือยืดเยื้อเพิ่มขึ้น นั่นก็คือ ขยะ ที่มีปริมาณน่ากลัว 

น้ำที่เอ่อขึ้นมาทั้งในคูคลองหนองบึง ได้ยกเอาขยะจำนวนมากที่ลอยอยู่ให้สูงขึ้นจนมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า จากเดิมที่อาจจะถูกกำแพงหรือสิ่งอื่นๆ บดบังเอาไว้ รวมกับข่าวสารที่นำเสอหลายช่องทางทำให้หลายคนถึงกับมึนงงที่ได้เห็นขยะประเภท ที่นอน เฟอร์นิเจอร์ ลอยมากับกระแสน้ำ และแน่นอนขวางทางน้ำ โดยเฉพาะบริเวณประตูระบายน้ำขนาดใหญ่ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเสี่ยงชีวิตลงไปลอยคอในน้ำหน้าตระแกรงเหล็กเพื่อเอาขยะออกมา เพื่อเปิดทางให้น้ำไหลได้สะดวกมากขึ้น

ส่วนตามถนนหนทางนั้น ขยะเล็กขยะน้อยที่ลอยมาตามน้ำ ก็เข้าขวางท่อระยายน้ำริมถนนซึ่งมีขนาดไม่ใหญ่อยู่แล้ว มองด้วยสายตาท่อตรงริมทางเดินเท้ามีความยาวไม่เกิน 1 ฟุต ดังนั้นหากมีถุงพลาสติกไม่ต้องมาก สักใบสองใบมาขวาง จะทำให้ขัดขวางการไหลของน้ำอย่างมาก 

และเมื่อพยายามกระเสือกกระสนไหลลงไปในท่อแล้ว ก็ใช่ว่าเดินทางต่อไปได้อย่างสะดวก เพราะบ่อยครั้งที่เราเห็นเจ้าหน้าที่ หรือกลุ่มผู้ต้องขังมาลอกท่อ จะพบว่าขยะใน่อนั้นมากมายเหลือเกิน

ดังนั้นการจะให้ปัญหาต่างๆเหล่านี้ทุเลาลง ทุกคนก็ต้องช่วยกัน ขยะต้องทิ้งให้เป็นที่เป็นทาง แต่น่าแปลกที่เรายังต้องมาพูดถึงเรื่องนี้กันในศตวรษ 21

คนเราบางคนมีเงินหลายแสนหลายล้านซื้อรถมาขับได้ แต่ไม่มีปัญญาหาถุงพลาสติกสักใบมาใส่ขยะในรถ แต่เลือกวิธีเปิดกระจกแล้วโยนทิ้งลงถนนลงข้างทางให้เห็นบ่อยๆ บางคนมีเงินจ่ายค่าทางด่วน แต่ไม่มีสามารถเก็บใบเสร็จไปทิ้งที่บ้าน บางคนกล้าเสี่ยงเอาควันเข้าปอดตัวเอง แต่ไม่สามารถเอาก้นบุหรี่ไปทิ้งให้ถูกที่ถูกทางได้ 

บางคนมีเงิน มีเวลา มีความอดทน ไปต่อคิวซื้อเครื่องดื่มราคาแพงๆ แต่ทำไมเราจึงเห็นแก้วเปล่าๆ วางอยู่ตามพื้นลานจอดรถ หรือทางเดินเท้า ฯลฯ 

แต่ในช่วงนี้เมื่อเห็นหลายคนออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้อย่างเข้าใจปัญหา อย่างน้อยก็ทำให้รู้ว่า ความหวังที่จะเป็นพัฒนาการทางสังคมของไทย ยังไม่หมดไปเสียทีเดียว