รถยนต์ถูกน้ำซัดพัดตกลงน้ำ ประกันภัยคุ้มครองหรือไม่?

รถยนต์ถูกน้ำซัดพัดตกลงน้ำ ประกันภัยคุ้มครองหรือไม่?

รถยนต์ถูกน้ำซัดพัดตกลงน้ำ ประกันภัยคุ้มครองหรือไม่?

สวัสดีครับพบกับประกันภัยเรื่องใกล้ตัวกับบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถจำกัดกันอีกเช่นเคยนะครับสำหรับฉบับนี้เป็นกรณีเกี่ยวกับผู้ที่ขับรถเพื่อเดินทางไปธุระแล้วปรากฏว่ามีน้ำท่วมถนนแต่เห็นว่าไม่ลึกและรถอื่นก็ผ่านไปได้ จึงขับลุยน้ำไปในระหว่างถึงช่วงกลางได้มีน้ำป่าไหลแรงมากทำให้รถยนต์ถูกแรงน้ำซัดตกลงไปในร่องถนนลึก คนขับออกมาจากรถได้แต่ผู้โดยสารไม่สามารถออกมาได้ทำให้เสียชีวิตกรณีอย่างนี้ทางบริษัทประกันภัยต้องรับผิดชอบหรือไม่อย่างไร

สำหรับประเด็นนี้นั้นคิดว่าหลายท่านคงจะเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วโดยเฉพาะในช่วงปี 2554ที่น้ำท่วมใหญ่ในประเทศไทยเรา คงไม่เป็นไรนะครับสำหรับท่านที่เคยติดตามประเด็นนี้ไปแล้ว..กรณีนี้ก็ต้องถือว่าเป็นการใช้รถและความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นก็เกิดขึ้นในระหว่างการใช้รถ แน่นอนครับอย่างนี้บริษัทประกันภัยต้องรับผิดชอบ แต่ทั้งนี้ต้องตรวจสอบก่อนนะครับว่ารถยนต์คันที่เกิดเหตุดังกล่าวนั้นทำประกันภัยประเภทไหนไว้เพราะว่าการประกันภัยรถยนต์นั้นมีหลายประเภทตามที่เคยได้บอกกล่าวกันมาโดยตลอดนะครับว่าการประกันภัยรถยนต์นั้นแบ่งออกเป็นสองส่วนคือ การประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (...) กับ การประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ (การประกันภัยประเภท 1,2,3,2+,3+,4) ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้เอาประกันภัยได้ตกลงเอาประกันภัยไว้อย่างไร? กรณีนี้เกิดขึ้นจากน้ำซึ่งเป็นภัยธรรมชาติ สำหรับการประกันภัยรถยนต์ที่จะได้รับความคุ้มครองความเสียหายของตัวรถนั้นต้องเป็นการทำประกันภัยประเภทหนึ่งไว้เท่านั้นจึงจะได้รับความคุ้มครอง หากทำประเภท 2,3, 2+,3+,4 เอาไว้ก็จะไม่ได้รับความคุ้มครอง

สรุปประเด็นนี้เนื่องจากรถยนต์คันดังกล่าวนั้นมีการทำประกันภัยรถยนต์ทั้งภาคบังคับและการประกันภัยประเภท หนึ่งไว้ จึงจะได้รับการคุ้มครองอยู่สองส่วนคือ

ส่วนที่ 1 การประกันภัยภาคบังคับ(พ.ร.บ.) บริษัทจะให้ความคุ้มครองเป็นค่าเสียหายเบื้องต้นต่อผู้โดยสารที่เสียชีวิตในรถจำนวน 35,000 บาท เนื่องจากเหตุที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้เป็นเหตุที่ผู้ขับขี่ต้องรับผิดเพราะเกิดจากกระแสน้ำหรือภัยธรรมชาติ จึงได้รับการคุ้มครองเฉพาะค่าเสียหายเบื้องต้น แต่หากมีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงแล้วว่าเหตุที่เกิดขึ้นนั้นเป็นความประมาทของผู้ขับขี่ อย่างนี้ก็จะถือว่าเป็นผู้ที่ต้องรับผิดบริษัทประกันภัยก็จะต้องชดใช้ค่าเสียหายกรณีเสียชีวิต (อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นตั้งแต่ 1 เมษายน 2559) สำหรับผู้โดยสารเต็มจำนวนคือ 300,000 บาท ทั้งนี้ต้องมีการสอบสวนผู้ขับขี่เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงว่าพฤติการณ์ของผู้ขับขี่นั้นเข้าข่ายว่าเป็นการกระทำการโดยประมาทหรือไม่เป็นสำคัญ ซึ่งในเบื้องต้นนี้เมื่อพิจารณาจากคำถามแล้วพบว่ามีรถอื่นๆก็สามารถผ่านไปได้ จึงถือว่าโดยบุคคลทั่วไปในสภาวะนั้นก็กระทำการในแบบเดียวกันนี้ หากแต่ในช่วงที่รถยนต์คันดังกล่าวจะขับผ่านไปนั้น เกิดได้มีกระแสน้ำที่แรงขึ้นจึงเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดความเสียหายขึ้นนั่นเอง

ส่วนที่ 2 การประกัยนภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ประเภทหนึ่งสำหรับการประกันภัยประเภทนี้จะให้ความคุ้มครองต่อตัวรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายอันเนื่องจากอุบัติเหตุและเรื่องนี้ชัดเจนว่าเกิดอุบัติเหตุดังนั้นเมื่อรถยนต์คันที่ทำประกันภัยไว้ถูกน้ำซัดพลัดตกลงไปกระแทกกับวัตถุอื่นใดทำให้ตัวรถได้รับความเสียหายหรือจมลงไปในน้ำ บริษัทประกันภัยก็ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายของรถยนต์ที่เสียหายนั้นและหากความเสียหายนั้นอยู่ในวิสัยที่ซ่อมได้ บริษัทประกันภัยก็จะดำเนินการนำรถไปดำเนินการจัดซ่อมในอู่ซ่อมรถต่อไป แต่หากความเสียหายนั้นมีมากโดยมีความเสียหายเกินกว่า 70% ของราคารถ ณ ขณะที่เกิดเหตุนั้น บริษัทประกันภัยก็จะจ่ายคืนทุนเต็มจำนวนที่เอาประกันภัยให้กับผู้เอาประกันภัย และผู้เอาประกันภัยก็จะต้องส่งมอบสมุดคู่มือจดทะเบียนและชุดโอนซากรถยนต์ให้บริษัทประกันภัย โดยบริษัทจะจ่ายเงินตามทุนที่เอาประกันภัยไว้ภายใน 15 วัน

สำหรับผู้โดยสารในรถนั้น หากการประกันภัยรถมีการซื้อความคุ้มครองการประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลไว้(รย.01)สำหรับผู้โดยสารไว้ด้วยทางทายาทของผู้เสียชีวิตก็จะได้รับการคุ้มครองจากอุบัติเหตุส่วนบุคคลนี้อีกจำนวนหนึ่งตามที่กำหนดไว้ในสัญญา

หวังว่าประเด็นนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกท่านนะครับ แล้วพบกันใหม่ฉบับหน้ากับ“ประกันภัยเรื่องใกล้ตัวกับบริษัทกลางฯ” กันต่อไป.....สวัสดีครับ....