ภาวะถดถอย..ลงทุนเอกชน

ภาวะถดถอย..ลงทุนเอกชน

สัปดาห์ที่แล้ว “สศช.” หรือ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประกาศตัวเลขเศรษฐกิจไทยไตรมาสแรก

ปี 2560 ออกมาขยายตัว 3.3% เป็นตัวเลขที่ “ดีกว่า” การคาดการณ์ของสำนักวิจัยหลายๆ แห่ง รวมทั้งของธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ“แบงก์ชาติ” ด้วย

ตัวที่ทำให้เศรษฐกิจไทยดีเกินคาด หลักๆ มาจาก “การส่งออก” ที่ฟื้นตัวชัดเจนขึ้น และกระจายตัวมากขึ้น โดยไตรมาสแรกขยายตัว 6.6% ..อีกตัว คือ “การบริโภคภาคเอกชน” ที่ขยายตัวมากกว่าคาด โดยเติบโตถึง 3.2%

ส่วนที่ “น่าผิดหวัง” ยังคงเป็นตัวเดิมๆ คือ “การลงทุนภาคเอกชน” ซึ่งไตรมาสแรกปีนี้ หดตัว 1.1% และถือเป็นการหดตัวต่อเนื่องติดกัน 3 ไตรมาส ..ถ้าหยิบ “นิยาม” ทางเศรษฐกิจขึ้นมาทาบ ก็ต้องบอกว่า เข้าสู่ “ภาวะถดถอย” เต็มตัว

คำถาม คือ เกิดอะไรขึ้นกับเอกชนไทย ทำไมไม่ลงทุน(ในบ้านเรา)ซักที!!?

ความจริงแล้วปัญหานี้ไม่ใช่เพิ่งเกิด แต่เป็นมานานหลายปีแล้ว หากจำกันได้เมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว เราหวังว่า การลงทุนของภาครัฐ จะเป็นตัว “จุดสตาร์ท” การลงทุนเอกชน ผ่านมาเกือบ 3 ปี คำตอบออกมาอย่างที่เห็น

มีคำอธิบายในส่วนนี้เพิ่มเติมจากทาง สศช. ว่า การลงทุนเอกชน ที่ผูกโยงกับการลงทุนภาครัฐ จะอยู่ในหมวดการก่อสร้างเป็นหลัก ซึ่งมีสัดส่วนเพียง 20% ของการลงทุนเอกชนโดยรวม ส่วนอีก 80% ที่เหลือ เป็นการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับเครื่องมือเครื่องจักร ซึ่งในส่วนนี้จะผูกโยงกับการส่งออกมากกว่า

คำอธิบายของ สศช. สรุปแบบสั้นๆ ได้ว่า หากการส่งออกดีขึ้น การลงทุนเอกชนก็จะตามมาเอง!

..เพียงแต่มีคำถามเพิ่มเติม คือ ถึงเวลานั้นจะ “สายไป” หรือไม่ เพราะตอนนี้เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ห่วงโซ่การผลิตใหม่เกิดขึ้นมากมาย คนที่ปรับตัวช้าย่อมพลาดรถไฟขบวนนี้

มีคนยกตัวอยากเวียดนามให้ฟังว่า ช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา แม้การส่งออกของไทย รวมถึงอีกหลายประเทศหดตัวต่อเนื่อง แต่สำหรับเวียดนามแล้ว ถือว่าเติบโตได้ดี นั่นเพราะเวียดนามผลิตสินค้าใหม่ๆ ตรงกับความต้องการของโลกที่เปลี่ยนไป ขณะที่สินค้าไทยยังติดอยู่กับห่วงโซ่อุปทานเดิม ซึ่งวงจรการผลิตใกล้หมดลง

..หากจะเทียบให้เห็นภาพ “เวียดนาม” เปรียบเหมือน “วัยรุ่น” ที่กำลังสดใส ขณะที่ “ไทย” เหมือน “หนุ่มใหญ่” วัยใกล้เกษียณ!

เราตั้งความหวังว่า ระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ “อีอีซี” จะเป็นพระเอกที่ดึงดูดให้ภาคเอกชนทั้ง “ไทย” และ “เทศ” ควักกระเป๋าลงทุน โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งโลกกำลังพุ่งมาทางนี้ และโครงการนี้จะนำพาให้เศรษฐกิจไทยกลับมา “โชติช่วงชัชวาล” อีกครั้ง

เพียงแต่ยังไม่อาจคาดหวังสูงขนาดนั้นได้ เพราะขนาด “กูรู” ทางเศรษฐกิจหลายคน ยังออกแนวเป็นห่วงว่า การฝากอนาคตเศรษฐกิจไว้กับ “อีอีซี” อย่างเดียวอาจดูสุ่มเสี่ยง เพราะโปรเจ็กลักษณะนี้ไม่ได้มีแค่ประเทศไทยรายเดียวที่ทำ รอบบ้านคู่แข่ง มีเหมือนกันหมด อยู่ที่ว่าเรามีดีอะไรที่จะดึงเขาเข้ามาลงทุน

ผมว่าตอนนี้น่าจะถึงเวลาแล้วที่เราควรหยิบยก “การลงทุนเอกชน” ขึ้นมาถกเถียง กะเทาะเปลือกหนาๆ หาแก่นที่แท้จริงว่า ทำไมการลงทุนเอกชนไม่เกิดซักที เพราะการลงทุนที่หดตัวติดต่อกันถึง 3 ไตรมาส ไม่ใช่เรื่องธรรมดา!