เรื่องเล่าจากกูรู แนวคิดในการเทรด TFEX

เรื่องเล่าจากกูรู แนวคิดในการเทรด TFEX

เรื่องเล่าจากกูรู แนวคิดในการเทรด TFEX

ในช่วงสิ้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา TFEX ได้จัดสัมมนาพิเศษในวาระโอกาสครบรอบ 11 ปีของการก่อตั้งตลาด ซึ่งได้มีการเชิญวิทยากรหลายท่านที่เป็นผู้เชี่ยวชาญและประสบความสำเร็จในการซื้อขายสินค้าใน TFEX มาแบ่งปันประสบการณ์และให้คำแนะนำเกี่ยวกับสิ่งสำคัญที่ผู้ลงทุนควรจะต้องเตรียมพร้อม เพื่อที่จะสามารถประสบความสำเร็จในการซื้อขาย TFEX ได้ ไม่ว่าจะเป็นคุณชาญชัย กงทองลักษณ์ ประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (FI Club) คุณปณต จิตต์การุญ (ต้าน) คุณประกาศิต ทิตาราม (อ.ปุย เจ้าของนามปากกา Wave Riders) ดร.สุทธิสิทธิ์ แจ่มดี บล. กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) คุณจรณเวท ศักดิ์ศรี บ. ออสสิริส ฟิวเจอร์ส จำกัด และ คุณชลเดช เขมะรัตนา บ. ฟินเทค (ประเทศไทย) จำกัด ในคราวนี้จึงจะขอสรุปข้อคิดที่น่าสนใจที่ท่านวิทยากรแต่ละท่านได้กล่าวถึงมาเล่าให้ฟัง

การเตรียมตัวก่อนการเริ่มลงทุนใน TFEX นั้น วิทยากรหลายท่านต่างมีความเห็นตรงกันว่าสิ่งสำคัญที่สุด คือการเตรียมความพร้อมของผู้ลงทุนเอง โดยควรเริ่มต้นจาก “การรู้จักตัวเอง” นั่นคือการกำหนดเป้าหมายการลงทุนและระดับความเสี่ยงที่ตนเองยอมรับได้ และนำทั้งสองสิ่งนี้มาใช้เป็นกรอบการลงทุน เช่น ในการลงทุนแต่ละครั้งต้องการผลตอบแทนประมาณ 7% ก็ให้นำมากำหนดไว้เป็นจุด Take Profit ในขณะที่เดียวกัน หากยอมรับความเสี่ยงที่เกิดจากการลงทุนแต่ละครั้งได้ที่ประมาณ 5% ก็กำหนดจุดดังกล่าวเพื่อใช้เป็น Stop Loss และเมื่อได้กำหนดไว้แล้ว ก็ควรปฎิบัติตามกรอบดังกล่าวอย่างเคร่งครัดมีวินัยที่ดีในการลงทุน อันเป็นปัจจัยที่จะช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอภายใต้ความเสี่ยงที่ตนเองยอมรับได้

การบริหารเงินลงทุน หรือ Money Management ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่จะช่วยจำกัดความเสี่ยงของผู้ลงทุนและช่วยให้สามารถหลีกเลี่ยงการขาดทุนที่รุนแรงได้ โดยหัวใจของ Money Management อยู่ที่ “เงินทุนตั้งต้นต้องห้ามสูญหายทั้งหมด มิฉะนั้นจะต้องก้าวออกจากสนามลงทุน” ทั้งนี้ การลงทุนใน TFEX นับเป็นการลงทุนที่มีการ Leverage อยู่ในตัวอยู่แล้ว เนื่องจากผู้ลงทุนเพียงใช้เงินวางหลักประกัน 10-15% ของมูลค่าสินค้า ก็เสมือนลงทุนในสินค้ามูลค่า 100% ดังนั้น ในการลงทุนจึงไม่จำเป็นต้องใช้เงินทุนทั้งหมดที่มีอยู่ทุ่มลงไปในคราวเดียว แต่ควรแบ่งเงินลงทุนออกเป็นส่วนๆ เช่น กำหนดเงินลงทุนที่ครั้งละ 5% ของมูลค่าเงินทุนตั้งต้น และในการลงทุนแต่ละครั้งควรจะต้องคำนึงถึง Risk Reward (ความคุ้มค่าที่เกิดขึ้นจากการลงทุนแต่ละครั้ง โดยเปรียบเทียบระหว่างกำไรที่จะได้หากเป็นไปตามที่คาดและผลขาดทุนที่จะเกิดขึ้นในกรณีที่ไม่เป็นไปตามที่คาด) และโอกาสที่เหตุการณ์จะเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ (%win) ประกอบกันไปด้วย เนื่องจากในการลงทุนจริงนั้น จะมีทั้งกรณีที่ได้รับผลกำไรและกรณีที่เกิดการขาดทุนควบคู่กันไปเสมอ ดังนั้น การวางแผน Money Management จะช่วยให้ผู้ลงทุนมีโอกาสพลิกฟื้นกลับมาได้ในอนาคต หากพลาดพลั้งจากการลงทุนครั้งก่อนหน้า

สำหรับการตัดสินใจลงทุนซื้อขายนั้น ปัจจุบัน มีเครื่องมือช่วยตัดสินใจซื้อขายให้ผู้ลงทุนเลือกใช้อย่างหลากหลาย โดยผู้ลงทุนส่วนใหญ่ใน TFEX มักนิยมใช้เครื่องมือในกลุ่ม Technical Analysis หรือการวิเคราะห์การลงทุนโดยอาศัยกราฟ เช่น การดูแนวรับ-แนวต้าน (กลุ่ม Price Action), การดูสเกล (ส่วนกลับของความถี่), การดูคลื่น (Wave) เป็นต้น แม้ว่าการใช้เครื่องมือเหล่านี้หลายๆ ตัวพร้อมกัน อาจช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในการเทรดได้ แต่ไม่ได้เป็นการการันตีว่าผู้ลงทุนจะประสบความสำเร็จจากการเทรด ทั้งนี้ หลักการสำคัญในการใช้เครื่องมือช่วยตัดสินใจลงทุนนั้น อยู่ที่ความเข้าใจและความเชี่ยวชาญในเครื่องมือแต่ละชิ้นที่ตนเองเลือกใช้ ประกอบกับการสร้างความมีวินัยในการลงทุน ซึ่งผู้ลงทุนที่ประสบความสำเร็จหลายรายใน TFEX ใช้เครื่องมือตัดสินใจลงทุนเพียงหนึ่งหรือสองชิ้นในการเทรดเท่านั้น

นอกจากนี้ แม้ว่าผู้ลงทุนจะฝึกฝนให้ตนเองมีวินัยการลงทุนที่ดีแล้ว แต่ในฐานะปุถุชนทั่วไป ผู้ลงทุนทุกคนยังคงมีอารมณ์ความรู้สึกเข้ามามีอิทธิพลต่อการตัดสินใจในการลงทุนแต่ละครั้งและอาจส่งผลให้เกิด Bias ในการตัดสินใจได้ ดังนั้น ในปัจจุบันจึงมีผู้ลงทุนบางส่วนหันมาให้ความสนใจกับการลงทุนแบบ Algorithm Trading ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ที่สามารถช่วยตัดปัจจัยด้านอารมณ์ออกไปจากการตัดสินใจลงทุนได้อย่างชัดเจน โดยการซื้อขายแบบ Algorithm Trading คือ การที่ให้ระบบคอมพิวเตอร์ส่งคำสั่งซื้อขายเมื่อเงื่อนไขที่ถูกกำหนดตามหลักการหรือ Model ที่ผู้ลงทุนเลือกไว้เกิดขึ้น โดย Model ดังกล่าวอาจเป็นเครื่องมือ Technical Analysis, ปัจจัยด้าน Fundamental หรือ อาจเป็นส่วนผสมกันของทั้งสองแบบก็ได้ ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสถาบันที่มีความเชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์อาจพัฒนา Model ขึ้นมาเอง หรือผู้ลงทุนบุคคลอาจเลือกใช้บริการ Algorithm Trading ที่มีสมาชิก TFEX หลายรายเปิดให้บริการ ซึ่ง ก่อนที่จะตัดสินใจใช้ระบบเทรดดังกล่าว ผู้ลงทุนควรศึกษาลักษณะ Model เพื่อให้ทราบว่า Model ใดเหมาะสมกับเป้าหมายการลงทุนและระดับความเสี่ยงที่ตนเองยอมรับได้ โดยอาจดูรายละเอียดจากผล Back Test ของ Model เช่น Maximum Drawdown, Average Gain Loss, %win เป็นต้น

จากที่กล่าวมาข้างต้น หากสรุปสั้นๆ ก็จะพบว่าการจะซื้อขายใน TFEX ให้ประสบความสำเร็จได้นั้น ผู้ลงทุนควรจะทำการเทรดอย่างเป็นระบบ กล่าวคือ รู้จักตัวเองประเมินความเสี่ยงที่ยอมรับได้และตั้งเป้าผลตอบแทนที่ต้องการ มีวินัยการลงทุนในการ Take Profit และ Cut Loss ใช้เครื่องมือตัดสินใจลงทุนที่ตนเองมีความเข้าใจ รวมทั้งมีการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม นอกไปจากนี้แล้ว อีกหนึ่งปัจจัยที่จะช่วยสนับสนุนความสำเร็จของผู้ลงทุนได้นั้น คือ ประสบการณ์ซื้อขายจริง ซึ่งในช่วงนี้ TFEX และชมรมผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (FIC) รวมถึงบริษัทสมาชิก 16 ราย ได้จัดโครงการ TFEX Trading Challenge 2017 ขึ้น ภายใต้แนวคิด “เรียนรู้เข้ม เติมเต็มประสบการณ์ ผ่านสนามเทรดจริง” โดยโครงการฯ ประกอบด้วยกิจกรรมอบรมเทคนิคการซื้อขายอย่างเข้มข้น ควบคู่ไปกับการแข่งขันซื้อขายด้วยบัญชีจริงเพื่อโอกาสในการได้รับรางวัลรวมกว่า 2 ล้านบาท ซึ่งในโครงการนี้เปิดให้ผู้ลงทุนทุกรายสามารถเข้าร่วมได้ สำหรับรายละเอียดโครงการฯ ผู้ลงทุนสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ www.TFEX.co.th/TradingChallenge