8 ปี โครงการกล่องวิเศษ สุขของคนรักษ์สิ่งแวดล้อม

8 ปี โครงการกล่องวิเศษ สุขของคนรักษ์สิ่งแวดล้อม

เห็นข้อความผ่านทาง Face book ของดร.บอย หรือ คุณกฤษฎา โสภา ผู้อำนวยการส่วนงานการตลาดและสารสนเทศ บริษัทอำพล ฟูดส์ โพรเซสซิ่งส์ จำกัด

เล่าถึงความภูมิใจ ที่โครงการกล่องวิเศษ หนึ่งในโครงการซีเอสอาร์ และสิ่งแวดล้อม ของบริษัท ร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกส่วนมีความก้าวหน้าต่อเนื่อง โดยได้มีส่วนช่วยกันแบ่งเบาภาระให้กับโลก ด้วยการแกะล้างเก็บ ขยะกล่องยูเอชที จากผลิตภัณฑ์ ต่างๆ 

ไม่ว่าจะเป็นกะทิ น้ำผลไม้ น้ำแกง นม ฯลฯ ไม่จำกัดว่าต้องเป็นผลิตภัณฑ์ของอำพลฟูดส์ฯ เพื่อนำไปส่งให้โรงงานรีไซเคิลกล่องขยะยูเอชที ที่บริษัทอำพลฟูดส์ฯ ลงทุนสร้างขึ้นเมื่อประมาณ8 ปีก่อน โดยใช้พื้นที่ในโรงงาน พร้อมมอบหมายพนักงานของบริษัทฯ ให้ดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ เพื่อดำเนินการเปลี่ยนรูปขยะกล่องยูเอชที ให้เป็นแผ่นไม้ชิปบอร์ดที่มีความแข็งแรง เทียบเท่ากับแผ่นไม้ สามารถนำไปใช้งานแทนไม้ สำหรับทำเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ซึ่งภายใต้โครงการได้เปลี่ยนขยะกล่องยูเอชที เป็นชุดโต๊ะเก้าอี้นักเรียน มากกว่า 8,500 ชุด แล้ว และเป็นอาคารเรียน 2 หลังในจังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดสมุทรสาคร

ผู้เขียนได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการกล่องวิเศษ เมื่อครั้งเริ่มโครงการแรกๆ รับหน้าที่สื่อสารประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้สาธารณชน ถึงคุณค่าของโครงการ และผลกระทบหากปล่อยขยะกล่องยูเอชที ซึ่งประมาณว่า ปีหนึ่งมีมากกว่า 3000 ล้านกล่อง ให้เป็นภาระของโลก ด้วยกล่องยูเอชทีที่เราใช้นั้นมีส่วนผสมของพลาสติกโพลีแอทธิลีน 4 ชั้น ที่หากทิ้งเข้าสู่กองขยะ จะใช้เวลานับร้อยปีกว่าจะย่อยสลาย โดยโครงการฯ ได้รับความร่วมมือจากโรงเรียนต่างๆ ในกทม.เพื่อให้น้องๆ หนูๆ ได้มีส่วนช่วยกัน นำขยะกล่องนม น้ำผลไม้ที่ได้รับแจกทุกวัน เข้าสู่กระบวนการ แกะ ล้าง เก็บ และนำไปรีไซเคิล ที่ใช้เวลาเพียง 30 นาที ก็ได้แผ่นชิปบอร์ดที่มีประโยชน์มหาศาลแล้ว

วันนี้เมื่อทราบความก้าวหน้าของโครงการ ผู้เขียนจึงรู้สึกภูมิใจไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือล่าสุดที่ทางอำพลฟูดส์ ได้ร่วมกับ เทสโก้ โลตัส บริษัท เอ็น เอ็ม แอล จำกัด และบริษัท เอสไอจี คอมบิบล็อก จำกัด จัดตั้งโครงการกล่องวิเศษ เติมฝันปันยิ้มให้น้อง เพื่อรณรงค์ให้ ประชาชน หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ตระหนักในเรื่องของปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม อีกทั้งได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดปัญหา ด้วยการ แกะ ล้าง เก็บ กล่องยู เอช ที ที่ใช้แล้วนำมารีไซเคิลเป็นแผ่นชิป บอร์ดผลิตเป็นโต๊ะ - เก้าอี้นักเรียน เพื่อมอบให้แก่โรงเรียนที่ขาดแคลนทั่วประเทศ

ดร. บอย ยังได้เล่าถึงความประทับใจและความสุขใจจากการทำโครงการฯ ว่า “การดูแลสิ่งแวดล้อมเป็นหน้าที่ของเราทุกคน พอเราเริ่มโครงการ ก็ทำให้เราได้เจอคนที่คิดเหมือนเรา ซึ่งมีจำนวนไม่น้อย แม้อยู่ไกลถึงต่างประเทศ ก็มีน้ำใจ แกะ ล้าง เก็บ ขยะกล่องยูเอชที และพับเรียบร้อย ส่งเป็นพัสดุข้ามประเทศ มาให้เรา หลายคนอยู่ต่างจังหวัด นั่งรถเดินทางมาที่โรงงานของเรา เพียงเพื่อมาส่งขยะกล่องUHT หลายหน่วยงานยินดีเป็นจุดรับขยะกล่อง แล้วนำมาส่งให้เรา รวมถึงห้างสรรพสินค้า เช่นโลตัส ที่ยินดีให้พื้นที่ห้าง ใน7 สาขานำร่อง ซึ่งได้แก่ สาขาพระราม 1 สาขาพระราม 4 สาขาบางแค สาขาบางกะปิ สาขาบางนา สาขาปิ่นเกล้า และสำนักงานใหญ่เทสโก้ โลตัสเป็นจุดรับขยะกล่อง เพื่อให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ขณะที่น้องๆในส่วนประชาสัมพันธ์ที่ทำหน้าที่ประสานงาน รณรงค์ ก็บอกว่า มีความความภูมิใจ ที่งานของเขา สามารถสร้างผลกระทบที่ดีให้กับสังคม เป็นงานที่มีคุณค่าที่อยากทำทุกวัน

สำหรับการดำเนินงานโครงการ นับจากนี้ไป ดร.บอย ยืนยันว่า จากความมุ่งมั่น ของกรรมการผู้จัดการ คือคุณเกรียงศักดิ์ เทพผดุงพร ที่เห็นความสำคัญ และอยากเห็นโครงการขยายต่อไปในวงกว้างอย่างสร้างสรรค์ อาทิมีการต่อยอด เพิ่มคุณค่าให้กับสังคมได้มากขึ้น เช่น หาทางแยกเยื่อขยะกล่องยูเอชทีเป็นถาดรองไข่

เชื่อมั่นว่า โครงการกล่องวิเศษ ที่หากเปรียบเหมือนคน ก็พ้นวัยเด็กก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่เต็มตัวแล้วนี้ จะเป็นแรงกระเพื่อมที่สำคัญในการกระตุ้นสำนึกและการมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม อันเป็นหน้าที่ของทุกคน อย่างสมัครใจ และมีความสุขใจที่จะมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่องโดยมิเห็นว่าเป็นภาระที่ยุ่งยากหรือหนักเกินไป

ประชาชน หน่วยงาน ภาครัฐและ เอกชน ที่ต้องการมีส่วนร่วม หรือ ร่วมรณรงค์ ก็ประสานงานไปได้ที่โครงการกล่องวิเศษ อำพลฟูดส์ 02-622-3737 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ampolfood.com/csr