เพื่อนกับคู่แข่ง

เพื่อนกับคู่แข่ง

ผมเพิ่งไปเวียงจันทน์มาเพื่อไปคุยกับเจ้าของธุรกิจในลาว 2 เจ้าเป็นการต่อยอดจากการที่ผมทำเวิร์คช็อป “อายุน้อยร้อยล้านอคาเดมี” ครับ

เพื่อนชาวลาว 2 ธุรกิจนี้บินมาไทยเพื่ออบรมกับผมและหลังจากนั้นก็ติดต่อเข้ามาเพื่อขอให้ผมไปช่วยเขาทำธุรกิจที่โน่น 

เรียกว่าไปช่วยเขาทำ Creative Business Development ครับ 

การทำงานแนวนี้เป็นเรื่องใหม่มากเพราะไม่ใช่งานที่ปรึกษาแต่ต้องไปช่วยเขาขยายธุรกิจออกไปจากเดิมที่มีอยู่ให้เติบโตเพิ่มมากขึ้น ซึ่งการไปลาวครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่ผมบินตรงจากสนามบินสุวรรณภูมิสู่เวียงจันทน์ ปกติเคยไปผ่านหนองคาย หรือไปเมืองหลวงพระบางเมืองท่องเที่ยวของเขา 

ถึงแม้เวลาจะน้อยไปหน่อยเพราะเสียเวลาจากเครื่องบินดีเลย์ แต่ก็ได้เห็นการพัฒนาหลายๆอย่างของเมืองเวียงจันทน์ ประเทศลาวมีประชากร 7 ล้านคน GDP เติบโตเฉลี่ย 7% ต่อปี รายได้มาจากการส่งออกไฟฟ้า

จนรัฐบาลลาวบอกว่าจะเป็น “แบตเตอรี่” แห่งอาเซียนเลย นอกจากนั้นก็เป็นเรื่องของพืชผลทางการเกษตรและการท่องเที่ยว โอกาสการเติบโตยังมีอีกเยอะ

ทุกวันนี้มีจีน เวียดนามเข้ามาบุกลาวเยอะมากคนไทยพื้นที่ติดกันเอาความได้เปรียบคือดึงเขามาช็อปที่ชายแดนแทน แต่ผมบอกเลยว่า ต่างกันครับระหว่างบุกเข้าไปทำธุรกิจข้างในประเทศเขากับเรานั่งให้เขาออกมาที่บ้านเรา

เศรษฐกิจที่ดีวันดีคืนทำให้นักธุรกิจลาวเริ่มมองโอกาสทางธุรกิจว่าจะต้องปรับตัวให้เข้ายุคเข้าสมัย เพราะเขายังขาดประสบการณ์ในการทำธุรกิจ เขาอาจจะทำได้เองในระดับหนึ่งแต่ถ้าอยากให้พัฒนาต่อไปต้องหาคนที่มี Know-how และประสบการณ์มาช่วยเพื่อให้ยอดขายของเขาเติบโตขึ้นต่อไปครับ 

นี่คือโอกาสของคนไทยครับยิ่งเพื่อนบ้านยิ่งโตเราก็ยิ่งมีโอกาสเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น เพียงเราต้อง “เปลี่ยนมุมมอง” เสียใหม่เราชอบมองว่าประเทศรอบข้างเราคือคู่แข่งเราไม่มองว่าประเทศรอบข้างเราคือ “เพื่อน เขาโตเราโต และนั่นคือวิธีคิดของชาวตะวันตกที่พยายามพัฒนาประเทศต่างๆเพื่อให้เขาอยู่ดีกินดีเมื่ออยู่ดีกินดีชาวตะวันตกซึ่งมีสินค้าบริการก็ขายได้ เขามองว่านั่นคือโอกาสทางธุรกิจ 

เมื่อก่อนเข้ามาเพื่อยึดครองประเทศคนอื่นและขนทรัพยากรออกไปแต่พอวันเวลาเปลี่ยนไปทรัพยากรทางธรรมชาติต้องให้มันอยู่ที่เดิมหรือใช้ให้น้อยลงไปให้มากที่สุด แต่สิ่งที่เขาจะได้มาจากการที่ทุกประเทศเจริญพัฒนามีความมั่งคั่ง และนั่นหมายถึงการที่เขาขายสินค้าได้เพิ่ม อย่างจีนวันนี้ โรงงานทั้งโลกอยู่ที่จีน เพราะค่าแรงจีนถูก ทำให้คนจีนมีรายได้เพิ่มสูงขึ้นจากการเป็นโรงงานของโลก เมื่อมีเงินคนจีนก็เริ่มใช้จ่ายซื้อสินค้า และออกท่องเที่ยว 

นั่นแหละครับที่ชาวยุโรปอยากเห็นเพราะประชากร 1,400 ล้านคนมหาศาลมากที่เขาจะทำธุรกิจกับคนจีนได้ วันนี้คุณไปปารีส คุณจะพบแต่คนจีน เมื่อก่อนคนจีนใช้ของก๊อปปี้แต่เดี๋ยวนี้คนจีนใช้ของจริง ซื้อจากประเทศฝรั่งเศส ไม่ว่าสินค้านั้นจะแพงอย่างไรเขาก็ซื้อครับ เหมือนกันวันนี้เราต้องมีมุมมองแบบนี้คือเราต้องมองเขาเป็นเพื่อนเราต้องจริงใจไม่ใช่เข้าไปกอบโกยเงินของเขาออกมาแต่ไปทำให้เขาแข็งแรงมากยิ่งขึ้น 

อย่างคนลาวนั้น ง่ายขึ้นอีกภาษาคล้ายกันมากแต่ที่สำคัญเขาพูดไทยกลางกันได้เกือบทุกกคน พวกธุรกิจคนไทยที่มีปัญหาเรื่องภาษาอันนี้เลยครับ ง่ายมากขึ้นเยอะ

ผมเห็นกลุ่มประเทศอย่าง CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) คือโอกาสของคนไทย ยิ่งรัฐบาลไทยเองให้น้ำหนักกับเพื่อนบ้านรอบๆเรา เน้น EEC(Eastern Economic Corridor) หรือ การพัฒนาเศรษฐกิจตะวันออกคือการกลับมาเน้นการลงทุนให้ระยอง มาบตาพุดอีกครั้งเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันทั้งการขนส่ง จากเมียนมาสู่ภาคตะวันออกเฉียงใต้ การเพิ่ม Runway ของสนามบินอู่ตะเภา และจะสร้างให้เป็นอู่ซ่อมเครื่องบินของภูมิภาค รวมถึงการขยายท่าเรือน้ำลึก ระบบขนส่ง ทางด่วนและสิทธิพิเศษมากมาย ก็จะทำให้เราเห็นการเติบโตของประเทศไทยในอนาคตอย่างแน่นอนครับ 

โดยเฉพาะกับประเทศเพื่อนบ้านรอบตัวเรา