ไฮไลต์เทรนด์ขับเคลื่อนโลกจากเทศกาล SXSW 2017

ไฮไลต์เทรนด์ขับเคลื่อนโลกจากเทศกาล SXSW 2017

เพิ่งจบลงไปสำหรับ South by Southwest (SXSW) ครั้งที่ 31 หนึ่งในเวทีสำคัญที่ผู้คนเฝ้าจับตาว่าจะมีวิสัยทัศน์และเทรนด์อะไรใหม่ๆ มามาสร้างสีสัน

ทั้งทางด้าน ดนตรี ภาพยนตร์ สื่อ และเทคโนโลยีอินเตอร์แอ็คทีฟ ซึ่งเป็นเทศกาลที่จัดขึ้นประจำในเดือนมีนาคมของทุกปีที่เมืองออสติน รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา 

บรรยากาศในงานมีทั้งการขึ้นเวทีของผู้นำความคิดและดาราที่กำลังอยู่ในกระแส การพูดคุยถกประเด็นที่กำลังมาแรงในรูปแบบฟอรัม การโชว์เคสนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของแบรนด์เทคโนโลยีชั้นนำ การออกงานของสตาร์ทอัพ จากทั่วทุกมุมโลก รวมไปถึงปาร์ตี้สำหรับสร้างเน็ตเวิร์คใหม่ๆของผู้ร่วมงานกว่า 70,000 คนอีกด้วย

มาโฟกัสกันในส่วนของสื่อและเทคโนโลยีอินเตอร์แอ็คทีฟที่มีอิทธิพลสำคัญต่อธุรกิจและการตลาดในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นแรงบันดาลใจทางสังคมและแนวคิดนวัตกรรม ที่จะก่อให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆในเวลานี้นั้นมีอะไรที่ต้องก้าวให้ทันกันบ้าง

ปฏิวัติความเป็นคนใน Artificial Intelligence (AI Takes Center Stage)

ต่อยอดจาก Virtual Reality (VR) และ Augmented Reality (AR) ในปีที่แล้ว Artificial Intelligence (AI) ถือเป็นเทคโนโลยี ที่เป็นดาวเด่นในปีนี้ ด้วยการพัฒนาด้านการเรียนรู้ด้วยตัวเองแบบมนุษย์ รวมไปถึงการใช้ภาษาอย่างเป็นธรรมชาติมีนิสัยเป็นมนุษย์มากขึ้น ประกอบกับการแก้ไขจุดอ่อนด้านความเข้าใจเรื่องที่ซับซ้อนอย่างความคิดสร้างสรรค์ ศิลปะและวัฒนธรรม 

ส่งผลให้ AI เป็นวิสัยทัศน์สำหรับอนาคต ที่จะมีการเสริมศักยภาพให้ยิ่งกว่ามนุษย์ขึ้นไปอีกในลำดับถัดไป โดยหัวใจหลักของการพัฒนาคือการทำให้มนุษย์ใช้ชีวิตได้ง่ายและดีขึ้นเหมือนมีผู้จัดการส่วนตัว ในมุมมองการตลาด AI จะเปิดโลกการติดต่อสื่อสารรูปแบบใหม่ระหว่างผู้บริโภคกับแบรนด์

ฮัลโหล Chatbot (Hello Chatbot!)

ถ้าใครยังคิดว่า Chatbot เป็นเรื่องน่าขำอยู่ละก็ อาจจะต้องคิดใหม่อีกครั้ง ไม่ว่าจะกระแสผู้ช่วยดิจิทัลอย่าง Siri จาก Apple , Alexa จาก Amazon, Cortana จาก Microsoft และ Google Assistant มาจนถึง Watson จาก IBM ธีมในงาน SXSW ก็ตอกย้ำความมาแรงของ Chatbot เช่นกันด้วยบทบาทที่จะมาแทนที่การติดต่อสื่อสารระหว่างผู้บริโภคกับแบรนด์แบบดั้งเดิมอย่าง Call Center 

ความท้าทายต่อไป คือการสื่อสารกับผู้บริโภคในอนาคตผ่านการใช้งานผ่านเสียง โดยไม่ต้องเปิดแม้แต่หน้าจอ ตั้งแต่เสิร์ชจนกระทั่งซื้อ โดยคำถามที่น่าสนใจ คือโฆษณาจะมีพื้นที่และสถานะอยู่บนโลกใบใหม่นั้นได้อย่างไร

สุดล้ำกับเทคโนโลยีสุขภาพเฉพาะกลุ่ม(Niche Healthcare)

ในหลายปีที่ผ่านมา สุขภาพ ถือเป็นแรงผลักดันเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นในทุกมุมมอง อย่างเช่นเรื่องของ Wearables และ 3D Printing ที่เป็นตัวเปลี่ยนที่สำคัญสำหรับวงการแพทย์ในหลายปีที่ผ่านมา 

มาปีนี้เทคโนโลยีสุขภาพมีการพัฒนาเพื่อตอบรับกลุ่มที่เฉพาะมากขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ด้อยโอกาส ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฮมที่ทำให้ชีวิตผู้สูงอายุใช้บั้นปลายชีวิตได้สะดวกและปลอดภัย และสมาร์ทโฟนที่เปิดให้ผู้ด้อยโอกาสสามารถเข้าถึงวิวัฒนาการทางการแพทย์อย่างเท่าเทียมและทั่วถึง 

ภาพรวมเทคโนโลยีใหม่ๆ ต่างเน้นช่วยให้ผู้บริโภคใช้ชีวิตได้ยาวนานขึ้นและมีความสุขยิ่งขึ้น ไปจนถึงก้าวถัดไปของเทคโนโลยีที่ดัดแปลงพันธุกรรมและยุติโรคมะเร็งในที่สุด

ไร้ข้อแม้เรื่องเพศและสีผิว (Year of Inclusivity)

ธีมที่มาแรงต่อเนื่องจากปีที่แล้วที่เน้นเรื่องของบทบาทของผู้หญิงในโลกของเทคโนโลยี คือ เรื่องของความเท่าเทียมของเชื้อชาติเพศและสีผิว ซึ่งนับเป็นกระแสที่เป็นประเด็นร้อนหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ หลายๆ หัวข้อต่างพูดคุยถึงผลกระทบอย่าง ‘Tech Under Trump’ จากการแบนมุสลิมบางประเทศที่มีผลต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ที่เติบโตด้วยคนทำงานจากทั่วทุกมุมโลก รวมไปถึงนโยบายการค้าระหว่างประเทศ และผลกระทบต่อการพัฒนาซอฟท์แวร์หรือโซเชียลเน็ตเวิร์คที่มีพื้นฐานอยู่ที่ความไร้พรมแดน ในด้านการตลาดนั้นผู้บริโภคจะมองหาจุดยืนของแบรนด์ ที่เป็นแรงผลักดันที่ดีของสังคมเรื่องความเท่าเทียมกัน

ขณะที่โลกเทคโนโลยียังคงก้าวไปอย่างไม่หยุดยั้งและก่อให้เกิดนวัตกรรมที่เราไม่เคยคิดเคยฝัน ในโลกธุรกิจแบรนด์เองต้องตั้งคำถามเรื่องของจุดยืนของตนและความเหมาะสมในการนำเทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้ในด้านกลยุทธ์ โดยให้สำคัญกับความหมายมากกว่าความนิยม คุณภาพของประสบการณ์ก่อนปริมาณคนที่เห็น และให้สิ่งดีงามกับสังคมเท่ากับที่ได้รับไปจากผู้บริโภค