สั่งสมอง “เปลี่ยนชีวิต”

สั่งสมอง “เปลี่ยนชีวิต”

คุณผู้อ่านหลายท่านคงรู้ว่า... “สมอง” ของเรานั้นมีความสำคัญมากที่สุดในการที่จะกำหนด

ชะตาชีวิตของเราเองให้ประสบความสำเร็จในชีวิต หรืออาจจะปล่อยให้ชีวิตของเรามีชีวิตผ่านไปวันๆอย่างไม่ค่อยมีสาระก็เป็นได้ ดังนั้น ผมจึงอยากพาคุณผู้อ่านมาเรียนรู้เรื่องของสมองของเรา และมาวางแผน เปลี่ยนชีวิต” ด้วยกัน ดังนี้ครับ

หนึ่ง สั่งสมอง...ทุกวัน !!!

นักวิทยาศาสตร์เคยทำการศึกษาเกี่ยวกับประสาทตาที่รับรู้การเคลื่อนไหวต่างๆ หรือที่เรียกกันว่า Reticular Activating System (RAS) ซึ่งพบว่า ในภาพต่างๆ ที่ผู้คนเห็นกันอยู่ทุกวันนั้น แม้ว่าสมองจะสามารถรับรู้ได้เกือบ 100% ของสิ่งที่มองเห็นได้ในทุกวินาทีที่ผ่านไป แต่ในความเป็นจริงแล้ว สมองจะไม่สามารถทำการบันทึกได้ทันสูงถึง 99.9% นั่นหมายถึง จะมีข้อมูลเพียง 0.1% เท่านั้นที่จะถูกบันทึกลงไปในสมอง

ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว การตั้งเป้าหมายความฝันของคุณผู้อ่านก็มีแนวโน้มสูงที่จะถูกสมองของคุณผู้อ่านเองลบทิ้งไปด้วย เช่นถ้าคุณผู้อ่านยังไม่มีวิธีการที่จะสั่งสมองให้รับรู้ว่า “คุณผู้อ่านต้องการที่จะมีอิสรภาพทางการเงิน...ด้วยวิธีการอย่างไร? ...ด้วยจำนวนเงินเท่าไร? ...และเมื่อไร?” ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว สมองของคุณผู้อ่านก็คงจะคิดว่า สิ่งที่คุณผู้อ่านต้องการนั้นก็เป็นแค่ภาพๆหนึ่งที่...ผ่านเข้ามา...แล้วก็ผ่านไป

ดังนั้น คุณผู้อ่านจึงต้องพยายามสั่งสมองทุกวัน เพื่อให้ชีวิตของเรามุ่งไปสู่ความฝันที่เราหมายปองให้จงได้

สอง กล้าฝัน...สั่งสมอง !!!

การกำหนดเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจนออกมาเป็นนามธรรม เช่น “ฉันอยากจะเกษียณอายุตัวเองให้เร็วที่สุด... ฉันไม่อยากจะทำงานแล้ว” การกำหนดเป้าหมายในลักษณะนี้ก็จะทำให้สมองเกิดอาการงง เพราะว่าสมองจะไม่เข้าใจคำว่า “เร็วที่สุด” แปลว่า “เมื่อไร?” สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับสมองของเราก็คือ...

สมองของเรา ก็จะ...งง

สมองของเรา ก็จะ...ไม่สั่งงานให้ตัวเราเอง...มุ่งมั่นทำงาน

ตัวของเรา ก็จะ...ไม่มุ่งมั่นทำงาน...ไปสู่เป้าหมาย

ชีวิตของเรา ก็คงจะ...อยู่ไปวัน..วัน เหมือนที่...เป็นอยู่ในทุกวันนี้

แต่ถ้าหากคุณผู้อ่านตัดสินใจว่า “ฉัน...จะมีอิสรภาพทางการเงินให้ได้” แล้ว คุณผู้อ่านก็จะต้องมีความกล้าเพียงพอที่จะกำหนดเป้าหมายในชีวิตให้เป็นรูปธรรม อย่างกระทัดรัด และจดจำได้ง่าย ซึ่งเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจนจะต้องมีกรอบเวลาที่ชัดเจน ต้องมีจำนวนตัวเลขที่ชัดเจน และมีเป้าหมายใหญ่ที่สุด เพียงเป้าหมายเดียวในระยะเวลาหนึ่งๆเท่านั้น เช่น “ฉันจะต้องมีเงิน 5 ล้านบาท ก่อนอายุ 30 ปีให้ได้” หรือ “ฉันจะต้องมีเงิน 40 ล้านบาท ก่อนอายุ 50 ปีให้ได้” เป็นต้น

สาม สั่งสมอง... ด้วย การเขียน

ถ้าคุณผู้อ่านยังไม่ตัดสินใจอะไรออกมา คุณผู้อ่านก็คงรู้อยู่แล้วว่า สมองของคุณผู้อ่านก็จะไม่สั่งงานใดๆออกมาเลย เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว คุณผู้อ่านก็คงจะรู้ต่อไปว่า อวัยวะทุกส่วนของร่างกายของเราก็จะไม่มุ่งมั่นทำงานมุ่งไปสู่ความสำเร็จ และก็มีแนวโน้มจะใช้ชีวิตผ่านไปวันๆ

แต่ถ้าคุณผู้อ่านได้ตัดสินใจแล้วที่อยากจะประสบความสำเร็จในชีวิตให้จงได้ คุณผู้อ่านเองก็ต้องกล้าที่จะฝัน และต้องกล้าที่จะเผชิญกับมัน การที่สมองของคุณผู้อ่านจะสามารถรู้ถึงความฝันที่ชัดเจนได้นั้น เราจำเป็นที่จะต้องถ่ายทอดออกมาโดยการสัมผัส และสิ่งที่ดีที่สุดที่คุณจะทำได้ก็คือ

การเขียนมัน...ออกมา !!

ความฝันที่คุณผู้อ่านจะต้องกล้าแสดงออกมานั้น จะต้องเป็นความฝันที่เป็น...รูปธรรมมากๆ จะต้องเป็นความฝันที่...มีกรอบระยะเวลาที่ชัดเจน เช่น “สิ้นปีนี้...ฉันจะต้องมีเงิน 1 ล้านบาท สิ้นปีหน้า...ฉันจะต้องมีเงิน 2 ล้านบาท” เป็นต้น

สี่ สั่งสมองให้ลองซ้อม... ฝันใหม่

จากงานวิจัยที่เผยแพร่ในนิตยสารเมนสเฮลท์พบว่า อาสาสมัครที่เคยมีชีวิตที่ประสบแต่เรื่องไม่ดีจำนวน 39 คน ให้มาทดลองใช้วิธีการ ฝันใหม่” โดยให้พวกเขาตั้งความฝันใหม่ที่จะเปลี่ยนเหตุการณ์ร้ายๆในอดีตให้กลายเป็นฝันดีในอนาคต โดยวิธีการเขียนฝันใหม่ที่เป็นฝันดีออกมาและลองฝันใหม่ดู แล้วผลลัพธ์ที่ออกมาพบว่า ผลกระทบจากเหตุการณ์ร้ายๆในอดีตก็จะลดระดับความรุนแรงที่มีต่อจิตใจลงเป็นอย่างมาก เนื่องมาจากเขาเหล่านั้นได้ตั้งเป้าหมายที่จะฝันดีไว้อยู่แล้ว ดังนั้นจึงต้องคิดเช่นนี้ว่า

ถ้าคุณผู้อ่านไม่ชอบเหตุการณ์ที่คุณเพิ่งจะประสบมา...คุณผู้อ่านก็ลอง “ฝันใหม่” โดยการเขียน ความฝันใหม่” ที่คุณต้องการให้เป็นลงบนกระดาษ ตั้งเป้าหมาย และแบ่งมันให้ออกมาเป็น...เป้าหมายรายวัน ฝึกที่จะ “ซ้อมฝัน” ให้เป็นไปอย่าง..ที่คุณต้องการ

แล้วก็...เริ่มฝันใหม่ เขียนมัน...ออกมาให้ได้...

ฝันนั้นๆ...ก็จะมีโอกาสที่จะเป็นจริงได้มากขึ้น

ดังนั้นสิ่งที่เราควรจะทำก็คือ การสั่งสมองให้ทำงานหนักๆเพื่อตัวของเราเอง” ทำให้นึกถึงคำพูดของ Dominic Cooper นักแสดงชื่อดังชาวอังกฤษที่เคยพูดไว้ว่า “It's a good feeling to come away from a day's work feeling like you've achieved something. Tired brain is good.” แปลตามความได้ว่า มันจะรู้สึกดีมากเลย เมื่อเราใช้สมองคิดว่า ในแต่ละวัน...เราประสบความสำเร็จอะไรบ้าง สิ่งที่ดีก็คือ...จงใช้สมองคิดให้หนักๆ