ชะลอช้อป! รอของขวัญปีใหม่
งงเป็นไก่ถูกชก ! จากความไม่แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปี
“ชัอปช่วยชาติ” ที่ลือกันว่าจะเป็น “ของขวัญปีใหม่” ที่รัฐมอบให้กับประชาชนทั้งประเทศ ด้วยการให้ประชาชนนำ “ใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ” จากการซื้อสินค้าจากร้านค้าที่ถูกต้องตามกฎหมายตลอดเดือนธ.ค. วงเงินสูงสุดไม่เกิน 3 หมื่นบาท มาหักลดหย่อนภาษีได้
เพราะจนป่านนี้เลยล่วงถึง “กลางเดือนธ.ค.” คณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังไม่อนุมัติมาตรการนี้ออกมา ไม่แน่ว่ารัฐอาจจะอนุมัติในการประชุมครม.นัดนี้
ของขวัญปีใหม่ จะรอเก้อหรือไม่ ? หรือ มาตรการดังกล่าวเป็นเพียง “ข่าวลือ” ที่เอาเข้าจริงแล้ว รัฐไม่ได้มีแนวคิดในเรื่องนี้ หรือ อาจจะมีแนวคิดจริง แต่ยังไม่“ตกผลึก”ในเรื่องเงื่อนเวลา และวงเงินที่นำมาลดหย่อนภาษี ฯลฯ
ทว่า ข่าวที่หลุดออกมา เริ่มส่ง “ผลกระทบ” กับการชอปปิง ในช่วงเวลานี้ กับ “ภาวะชะลอซื้อ” เพื่อรอรับประโยชน์จากมาตรการภาษี
เป็นที่รู้กันว่า “มาตรการด้านภาษี” เป็นเรื่อง “อ่อนไหว” ที่ไม่ควรจะหลุดออกมาสู่สาธารณะก่อนที่มาตรการจะมีผลบังคับใช้ และยิ่ง “อ่อนไหวหนักขึ้น” ในยามที่เศรษฐกิจฝืดเคือง เงินในกระเป๋าผู้คนเหลือน้อยใช้สอยประหยัด หลายบริษัทประกาศแล้วว่าปีนี้ไม่มี“โบนัส” ขณะที่การขยับขึ้นของเงินเดือนต่ำเตี้ยไปจนถึงไม่ขยับ
สะท้อนรายได้มนุษย์เงินเดือนในปีหน้า
การประกาศมาตรการแบบตูมเดียว มีผลบังคับใช้ทันที เหมือนที่เคยนำมาตรการนี้มาใช้ เมื่อปลายปี 2558 โดยกำหนดให้ประชาชนนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าและบริการ วงเงินไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท มาหักลดหย่อนภาษีได้ ในระยะเวลา 7 วัน (25-31 ธ.ค.2558) ดูจะเป็นสิ่งที่เหมาะสมกว่า
ผลลัพธ์ของมาตรการนี้เมื่อปีที่ผ่านมา ดูด้วยตาเปล่าก็รู้ว่า บรรยากาศการชอปปิงคึกคักขึ้นจากเดิม ตลอดระยะเวลา 7 วันของการมาตรการ
ขณะที่ข้อมูลของสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ระบุว่า มีผู้ได้ประโยชน์ราว 3.2 ล้านคน จากฐานผู้เสียภาษี 9.6 ล้านคน ส่งผลให้การใช้จ่ายช่วงปีใหม่เพิ่มขึ้นถึง 20% เป็นเงินประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาท ทำให้เงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 2-3 เท่า หรือ ราว 1.25 แสนล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เข้าใจว่า ไม่ได้ใครมีเจตนาให้รายละเอียดของมาตรการหลุดออกมาก่อน หรือ ปล่อยข่าวมั่ว
แต่เมื่อเรื่องราวเกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่รัฐต้องเร่งดำเนินการคือ "สร้างความชัดเจน” เพราะเรื่องนี้กำลังถูกถามกันไปทั่วทุกห้างร้าน
เหล่านักช้อปจะได้ช้อปต่อ ไม่เสียเวลารอ...
ขณะที่ความชัดเจน ไม่คลุมเครือ คือ หลักยึดของการตัดสินใจในทุกสิ่ง ตั้งแต่เรื่องเล็กๆในระดับปัจเจก ไปจนถึงเรื่องใหญ่ของบ้านเมือง
เช่นเดียวกับการรักษาความลับทางการ-ความลับธุรกิจ ก็เป็นธรรมาภิบาลในรูปแบบหนึ่ง