พ่อของแผ่นดิน

พ่อของแผ่นดิน

เป็นบทความที่ผมไม่อยากเขียนมากที่สุด และไม่อยากให้มีวันนี้เลย ซึ่งผมเชื่อว่าคนไทยทุกคน ก็ไม่อยากให้มีวันที่เราต้องหัวใจสลาย

การเสด็จสวรรคตพ่อของแผ่นดิน 

สำหรับคนไทยผมเชื่อว่าเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ ครั้งหนึ่งในชีวิต คนรุ่นนี้เกือบทุกคนที่เกิด และโตมากับพ่อคนนี้ พ่อที่ทรงงานหนักเพื่อลูกทั้งแผ่นดิน ผมเองต้องบอกว่าได้มีโอกาสทำงานในสายอาชีพของผม คือ ได้มีโอกาสทำงานนิทรรศการของพระองค์หลายครั้ง 

แต่ครั้งที่ถือว่าเป็นตำนานก็คงเป็นเมื่อฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ที่เมืองทองธานี งานนั้นมีคนมาชมงานกว่า 6 ล้านคน และอีกครั้งเมื่อฉลอง 80 พรรษาของพระองค์ งานนั้นได้มีการจัดนิทรรศการไปทั่วประเทศ เพื่อให้คนต่างจังหวัดได้มีโอกาสชมนิทรรศการเช่นเดียวกัน จึงเป็นโอกาสที่ผมได้เรียนรู้พระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจของพระองค์เพิ่มขึ้น และลึกซึ้งกว่าเดิมมากมาย 

เมื่อไม่นานมานี้ก็เพิ่งเตรียมงานนิทรรศการของพระองค์ เพื่อฉลองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี ขนาดผมว่าผมศึกษาพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านมามากแล้ว แต่เหมือนไม่มีวันจบ ยิ่งเรียนรู้ ก็ยิ่งมีมากขึ้นเรื่อยๆ และหลายๆ เรื่อง ทำไมเราไม่เคยรับรู้มาก่อนเลย และยิ่งรู้ก็ยิ่งรักพระองค์ท่าน ยิ่งรู้สึกว่าพระองค์คือคนๆ หนึ่ง ที่เสียสละชีวิตทั้งชีวิตให้กับคนไทย ซึ่งถ้าเรามานึกว่าพระองค์คือคนๆ หนึ่ง ที่ไม่เห็นมีความจำเป็นที่ต้องทรงงานหนักขนาดนี้ เพื่อคนที่ท่านก็ไม่ได้รู้จัก จากหมู่บ้านหนึ่งไปอีกหมู่บ้านหนึ่งตลอด 70 ปี ที่ท่านทรงครองราชย์ ท่านครองหัวใจของคนไทยไปด้วย ไม่ใช่เพราะท่านเป็นกษัตริย์ แต่เพราะพระราชกรณียกิจ ที่พระองค์ทำต่อราษฎรของพระองค์ 

หลายคนไม่เคยทราบว่าหลังปี 2515 พระองค์ไม่เคยเสด็จไปต่างประเทศเลย ยกเว้นครั้งเดียวที่ไปประเทศลาว เรื่องนี้ผมไม่เคยสังเกตเลย จนศึกษาเรื่องการเสด็จเยือนต่างประเทศของพระองค์ ว่าท่านเสด็จสมัยที่พระราชโอรส และพระราชธิดายังทรงพระเยาว์ 

หลังจากนั้นพระองค์ไม่เคยเสด็จไปไหนเลย ทรงใช้เวลากับราษฎรของพระองค์ แทนที่พระองค์จะใช้ชีวิตแบบที่คนไทยวันนี้ใช้ คือ ไปเที่ยวต่างประเทศ กินอยู่หรูหรา ขณะที่พระองค์ก็สามารถเลือกที่จะใช้ชีวิตแบบนี้ได้สบายๆ แต่พระองค์กลับไม่เลือกพระองค์พูดเรื่องการใช้ชีวิตที่พอเพียง พระองค์ก็ทรงดำเนินชีวิตแบบพอเพียงเป็นตัวอย่าง เราคงเคยเห็นหลอดยา สีฟันของพระองค์ ดินสอของพระองค์ท่าน สมเด็จย่าคงเป็นตัวอย่างการใช้ชีวิตแบบสามัญชน 

อีกอย่างที่น่าสนใจมากคือ เราอาจจะลืมไปแล้วว่าพระองค์ทรงประสูติ และเติบโตในต่างประเทศมาตลอด แต่พระองค์ใช้ภาษาไทยได้อย่างที่เราไม่รู้สึกเลยว่าพระองค์ไม่เคยศึกษาภาษาไทยที่โรงเรียนสามัญเลย พระองค์ตรัสภาษาไทยได้ด้วย สำเนียงแบบคนไทยจริง อ่านเขียนได้อย่างแตกฉาน ขนาดทรงนิพนธ์ออกมาเป็นพระราชนิพนธ์หลายเล่มด้วยกัน 

นั่นก็เป็นอีกเรื่องที่ผมมาย้อนคิดถึงพระองค์ ซึ่งผมเชื่อว่าหลายๆ คน ก็คงไม่ได้คิดถึงแง่นี้เลย อีกเรื่องที่หลายคนคงนึกไม่ถึงเลย คือ พระองค์ทรงให้พัฒนาพลังงานอื่นๆ ที่ไม่ใช่มาจากน้ำมัน หรือจากฟอสซิล มาอย่างยาวนานกว่า 40 ปีมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแก๊สโซฮอล์ น้ำมันจากต้นปาล์ม ถ่านที่พัฒนามาจากเถ้าแกลบ ซึ่ง ณ วันนั้นราคาน้ำมันโลกยังถูกมาก จนไม่เคยมีใครสนใจว่าจะทำพลังงานทดแทนเพื่ออะไร นั่นคือวิสัยทัศน์ของพระองค์อย่างแท้จริง

ผมเชื่อเหลือเกินว่าคนไทยวันนี้ รับรู้พระราชกรณียกิจของพระองค์มากขึ้น และดีใจที่เห็นเด็กรุ่นใหม่รับรู้ และเข้าใจว่าทำไมคนรุ่นพ่อรุ่นแม่ถึงรักพระองค์มากขนาดนี้ ผมดีใจที่เห็นเด็กรุ่นลูกรุ่นหลานร้องไห้ ผมยิ่งดีใจมากขึ้น เมื่อฝรั่งชาวต่างชาติเริ่มเข้าใจ และรับรู้ว่าพระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ไม่ใช่พระมหากษัตริย์ที่โลกรู้จัก พระองค์ท่าน คือ กษัตริย์ที่ไม่เคยมีมาก่อนในโลกนี้ และด้วยพระอัจฉริยภาพของพระองค์ ยิ่งทำให้พระองค์ท่านพิเศษขึ้นอีก 

คนไทยเราช่างโชคดีจริงๆที่มีพระองค์ และผมก็เชื่อว่าพระองค์ก็ทรงรับรู้ว่าคนไทยรักท่านเพียงใด และผมก็เชื่อว่าสิ่งที่คนไทยจะทำให้พระองค์ทรงพระเกษมสำราญได้ด้วยการนำสิ่งที่ท่านให้ไว้กับคนไทย โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง มาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต 

พระองค์ท่านคงอยากเห็นคนไทยอยู่กันอย่างมีความสุข เราคงต้องทำงานหนักขึ้น ไม่ใช่แค่ทำให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้นเท่านั้นแต่ต้องรู้จักการให้ เช่นเดียวกับที่พระองค์ให้คนไทยมาตลอด

สำหรับผม ในหลวงในใจของผมคงมีพระองค์เดียวตลอดไป ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป