สื่อ-โฆษณา ทยอยปรับเนื้อหา

สื่อ-โฆษณา ทยอยปรับเนื้อหา

ปัจจุบันคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ได้กำหนดแนวทางปฏิบัติ

สื่อวิทยุและโทรทัศน์ ให้ออกอากาศรายการปกติของสถานี  โดยคำนึงถึงความเหมาะสมของรายการ เพื่อเป็นการปรับบรรยากาศ และความรู้สึกของประชาชนให้เป็นไปตามลำดับ หลังจากขอความร่วมมือให้งดเผยแพร่รายการรื่นเริงเป็นเวลา 30 วัน

     โดยระหว่างวันที่ 13-18 พ.ย.2559 สามารถนำรายการที่มีระดับความเหมาะสมสำหรับปฐมวัย (ป) สำหรับเด็ก (ด) รายการทั่วไป (ท) และสำหรับผู้ชมที่มีอายุ 13 ปีขึ้นไป (น13) มาออกอากาศได้โดยรายการทั่วไป และรายการที่เหมาะสมสำหรับผู้ชมที่มีอายุ 13 ปีขึ้นไป “ไม่ควร”มีเนื้อหาที่มีลักษณะตลก เฮฮา ความรุนแรง เรื่องทางเพศ การใช้ถ้อยคำหยาบคาย

หลังจากนั้นระหว่างวันที่ 19 พ.ย. 2559 ถึงวันที่ 21 ม.ค. 2560 หรือครบ 100 วัน ให้สามารถนำเอารายการที่มีระดับความเหมาะสม ป, ด, ท, และ น13 มาออกอากาศปกติ คือสามารถนำเสนอเนื้อหาบันเทิงได้ แต่รายการสำหรับผู้ชมที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป (น18) ที่นำมาออกอากาศ ไม่ควรมีเนื้อหาที่มีความรุนแรง เรื่องทางเพศ การใช้ถ้อยคำหยาบคาย ส่วนรายการเฉพาะไม่เหมาะสำหรับเด็กและเยาวชน (ฉ) ขอให้ออกอากาศหลังจากวันที่ 21 ม.ค.2560

ปัจจุบันรายการหลักของสถานีทีวี ส่วนใหญ่คือกลุ่มระดับความเหมาะสม  และ 13” การกำหนดให้รายการทั้ง 2 ประเภทสามารถกลับสู่ผังปกติได้ รวมทั้งเนื้อหาบันเทิงรื่นเริง ที่ให้งดออกอาอากาศก่อนหน้านี้ เรียกได้ว่า “ทีวี” กลับสู่สถานการณ์ปกติเกือบ 100% 

เช่นเดียวกับโฆษณา ที่ยึดแนวปฏิบัติเดียวกับฝั่งทีวี คือ งดการโฆษณาขายสินค้าและเนื้อหาบันเทิงในช่วง 30 วัน  โดยปรับเปลี่ยนเป็นโฆษณาเทิดพระเกียรติและถวายความอาลัยเป็นหลัก

แม้ กสท.จะอนุญาตให้สื่อวิทยุทีวี รวมทั้งโฆษณา นำเสนอเนื้อหาปกติ แต่บรรยากาศการถวายความอาลัยของประชาชนในช่วงนี้ การนำเสนอเนื้อหารายการของสถานีทีวีช่องต่างๆ จึงใช้หลักความเหมาะสมและอารมณ์ผู้ชม 

จะเห็นได้ว่าผังรายการหลัง 30 วันของสถานีทีวี หลังกลับสู่ภาวะปกติ ส่วนใหญ่ยังเป็นเนื้อหารายการพิเศษ  การเสนอข่าวพระราชพิธี  พระราชกรณียกิจ ตลอดจนสารคดีและภาพยนตร์เทิดพระเกียรติ รวมทั้งยังคงลดโทนรายการบันเทิงที่มีสีสันฉูดฉาดไว้เช่นเดิม  แม้สามารถนำเสนอละครที่เป็นรายการไฮไลท์ช่วงไพรม์ไทม์ของสถานีทีวีได้ แต่ละครที่ออกอากาศในช่วงนี้ ยังเป็นละครสาระ สร้างสรรค์สังคม ที่เคยออกอากาศไปแล้ว นำมาออนแอร์ซ้ำเพื่อความเหมาะสมกับบรรยากาศ

      ตัวอย่างช่องพีพีทีวี นำละครสี่แผ่นดิน มาออกอากาศใหม่ทั้งทางช่องทีวีดิจิทัลและไลน์ทีวี พบว่ามียอดผู้ชมทั้งดูสดและดูย้อนหลังเพิ่มขึ้นทุกตอน โดยยอดวิวไลน์ทีวีกว่า 1 ล้านวิวต่อตอน ส่วนรายการวาไรตี้และเกมโชว์แนวสนุกสนาน ได้ลดโทนลงเน้นแนวสาระบันเทิง

รวมทั้งละครซีรีส์พิเศษที่ผลิตขึ้นใหม่ เช่น ช่องวัน เตรียมออนแอร์ ซีรีส์แห่งความคิดถึง จากลูกของแผ่นดิน “เราเกิดในรัชกาลที่9 เดอะซีรีส์" วันที่ 14 -17 พ.ย.นี้ เวลา 20:30 น. ซึ่งเป็นละครเทิดพระเกียรติ มีนักแสดงกว่าร้อยชีวิตมาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

    ผังและเนื้อหารายการช่วง 2 เดือนสุดท้ายต่อเนื่องไตรมาสแรกปีหน้าของสถานีทีวี ยังอยู่ในช่วงการทยอยปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมและโจทย์เฉพาะกิจของลูกค้าที่ลงโฆษณา ที่ปรับเป็นรูปแบบโฆษณาเทิดพระเกียรติ ไว้อาลัย และแนวซีเอสอาร์ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์  

ในบรรยากาศที่ประชาชนยังคงถวายความอาลัย ความเหมาะสมของรายการและโฆษณา จึงเป็นสิ่งที่ทั้งสื่อและโฆษณาต้องให้ความสำคัญ