เทรนด์คุณแม่มิลเลนเนียล

เทรนด์คุณแม่มิลเลนเนียล

ในมุมมองการตลาดนั้น แม่ มักถูกเรียกว่าเป็น Gatekeeper ตัวยง ที่มีบทบาทในการจับจ่ายใช้สอยตัดสินใจซื้อของเข้าบ้านเป็นหลัก

ทำให้การทำสื่อสารการตลาดรูปแบบต่างๆมักจะมีแม่เป็นกลุ่มเป้าหมายเสมอๆ

ในยุคสมัยที่เปลี่ยนไปด้วยเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทในการใช้ชีวิตทั้งของแม่ ลูก และครอบครัว การจะเข้าถึงแม่ยุคมิลเลนเนียล(ซึ่งหมายถึงแม่ที่เกิดระหว่างปี 1980 ถึงปี2000) และกลายเป็นตัวเลือกของพวกเขานั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ด้วยเพราะเทรนด์การเลี้ยงลูกแบบสมัยใหม่ประกอบกับทัศนคติและมุมมองต่อโลกที่เปลี่ยนไป

1.เลือกเลี้ยงลูกในแบบฉบับตัวเอง

แม่ยุคมิลเลนเนียลมักมีมุมมองเป็นของตนเองและไม่อิงการเลี้ยงดูแบบที่ตัวเองเคยถูกพ่อแม่เลี้ยงมา ที่มักจะเน้นกฎระเบียบแบบเคร่งครัดรัดกุมไปทุกเรื่อง ไม่ยึดติดสูตรความสำเร็จของพ่อแม่รุ่นเดิมๆ ที่เน้นให้เรียนสูงๆ ได้โอกาสทำงานดีๆ เริ่มแต่งงานสร้างครอบครัวในฝัน โดยแม่ยุคนี้มักมีแนวคิดที่เปิดรับอะไรใหม่ๆ เลี้ยงลูกแบบสบายๆ ให้อิสระกับลูกในการคิดเองทำเองไม่เครียดไม่เป๊ะมาก

2.เปิดรับแนวคิดใหม่ๆไม่ติดกรอบเดิมๆ

ทัศนคติอีกอย่างที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน คือความคิดที่เปิดกว้าง เน้นความเข้าใจลูกและยอมรับในสิ่งที่ลูกเป็น โดยเฉพาะเรื่องในกระแสนิยมใหม่ๆ เช่น ความเท่าเทียมในสังคม ความแตกต่างของคน หรือแม้กระทั่งเรื่องเพศ ซึ่งถือเป็นแนวคิดและมุมมองที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย ที่แม่ยุคเดิมๆมักจะไม่เข้าใจและบังคับลูกให้มีความคิดเหมือนตนแม้จะอยู่คนละยุคสมัยก็ตาม

3.เสิร์ช-เม้นต์-แชร์ ข้อได้เปรียบของชีวิตแม่มิลเลนเนียล

ด้วยความกดดันหลายๆอย่างที่รายล้อมประกอบกับการปรับตัวกับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป แม่ยุคมิลเลนเนียลต้องกังวลทั้งเรื่องของการงาน การเงิน ความปลอดภัย วิธีการเลี้ยงดูลูก เรียกได้ว่าในความสุขของความเป็นแม่นั้นก็มีความเครียดและกังวลซ่อนตัวอยู่เสมอ

ด้วยเหตุนี้สังคมออนไลน์และโซเชียลมีเดียจึงมีบทบาทสำคัญไม่ว่าจะเป็นเพื่อนช่วยคลายกังวลผ่านการแชร์ประสบการณ์ชีวิตจริงของแม่ เพื่อนช้อปแนะนำข้อมูลการหาสินค้าบริการที่ถูกต้องโดนใจ ทำให้ชีวิตแม่มิลเลนเนียลไม่รู้สึกเคว้งคว้างและว้าเหว่ ซึ่งถือเป็นอินไซต์ของคนที่เริ่มเป็นแม่ที่เริ่มรู้สึกตัดขาดจากไลฟ์สไตล์เดิม

4.โชว์ให้ลูกเห็นเป็นตัวอย่างมากกว่าเอาแต่สั่ง

ด้วยความก้าวล้ำทันสมัย แม่ยุคมิลเลนเนียลไม่เน้นการสั่งลูกตามอำเภอใจ แต่ถ้าอยากให้ลูกซึมซับแนวคิดอะไร มักจะทำเป็นตัวอย่างให้ลูกเห็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการสอนเรื่องความมีน้ำใจ ความเคารพซึ่งบุคคลอื่น ความยอมรับในความแตกต่างไม่เหมือนกัน เป็นต้น

5.แบรนด์ที่โดนใจคือแบรนด์ที่ทำตัวให้มีประโยชน์

แม่ยุคมิลเลนเนียลมักจะให้คะแนนแบรนด์ที่เข้าใจอินไซต์ของแม่ยุคนี้ เข้าใจสิ่งที่แม่ต้องการ เข้าใจความต้องการของลูกในแต่ละช่วงวัย เข้าใจเทคโนโลยีที่แม่ใช้และทำทุกอย่างเพื่อตอบโจทย์และเป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตของแม่

ในมุมมองการสื่อสารการตลาดแล้ว การเข้าถึงแม่ยุคมิลเลนเนียลถือเป็นโจทย์สำคัญสำหรับนักการตลาดที่จะต้องเข้าใจอินไซต์ที่เปลี่ยนไปของแม่ให้ทันกับยุคกับสมัย ให้ทั้งอินไซต์ เรื่องราว เนื้อหา บริบท สื่อ นั้นตอบโจทย์ และที่สำคัญคือมีพื้นที่ที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิตของแม่ยุคมิลเลนเนียล