ช้อปหุ้นแบบมุ่งเน้น

ช้อปหุ้นแบบมุ่งเน้น

หากหุ้นหมายเลขหนึ่งลงมากกว่าหุ้นหมายเลขสอง และลงไปถึงระดับที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยๆ แล้วละก็ ผมมักจะ 'ซัด' ไปเต็มๆ

เมื่อครั้งที่แล้ว ผมเพิ่งเล่าถึงความผันผวนของหุ้นไทยนับตั้งแต่ต้นเดือน ก.ย . และแนะนำให้ท่านเตรียมพร้อมสำหรับโอกาสที่อาจจะเกิดขึ้นอีก

ไม่ทันไร ย่างเข้าสัปดาห์ที่สองของเดือน ต.ค. ตลาดก็ปรับลดลงอย่างหนักอีกครั้ง โดยเฉพาะในวันที่ 12 ต.ค. ดัชนีลดลงต่ำสุดถึง 99 จุด ซึ่งทำให้หลายคนถึงกับขวัญหนีดีฝ่อ ผมจึงอยากให้คำแนะนำเพิ่มเติมสักเล็กน้อย เผื่อว่าในอนาคตจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย

ภาวะที่เจอบ่อยมากในวันที่หุ้นตกเยอะๆ ก็คือ หุ้นที่เราชอบที่สุดอาจปรับตัวลงไม่มากนัก แต่หุ้นที่ชอบรองๆ ลงมากลับร่วงลงเยอะกว่า

เมื่อเจอสถานการณ์ทำนองนี้ สิ่งที่เราต้องตัดสินใจก็คือ 'จะซื้อตัวไหน และแค่ไหนดี' 

โดยปกติแล้ว ผมจะชั่งน้ำหนักกัน เช่น สมมุติว่าหุ้นที่หนึ่งในดวงใจ ลง 4% แต่หุ้นที่ชอบเป็นอันดับสอง ลงถึง 7-8% ผมก็จะซื้อมันอย่างละครึ่งของเงินที่เตรียมไว้ ประมาณว่า ถ้าเตรียมไว้ 100 บาท อาจจะซื้อตัวละ 50 บาท

แต่หากหุ้นหมายเลขหนึ่งลงมากกว่าหุ้นหมายเลขสอง และลงไปถึงระดับที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยๆ แล้วละก็ ผมมักจะ 'ซัด' ไปเต็มๆ คือมี 100 บาท ก็ซื้อไปทั้ง 100 หรืออาจจะซื้อสัก 90 โดยเผื่อเงินไว้ซื้อหุ้นตัวที่สองเพียง 10 บาท เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม หุ้นทุกตัวที่เข้าซื้อ ต้อง 'ถูก' จริงๆ นะครับ ไม่ใช่แค่ราคาปรับลดลงมาตามตลาด แต่เมื่อเทียบกับมูลค่าแล้วยังแพงอยู่ โดยไม่มี 'ส่วนต่างแห่งความปลอดภัย'​ แบบนั้นไม่ว่าจะอย่างไรผมก็ยังไม่ซื้อ

นอกจากนี้ อีกกับดักหนึ่งซึ่งหลายคนพลาดอยู่เสมอก็คือ เราอาจเล็งหุ้นไว้หลายตัว เช่น 6-7 ตัว ครั้นมันลงมาพร้อมๆ กัน ก็เลยซื้อไปซะทุกตัว นี่ถือว่าไม่ใช่การกระทำที่ดี เพราะสุดท้ายแล้วคุณจะได้หุ้นอย่างละนิดละหน่อย เป็น “เบี้ยหัวแตก” พอตลาดกลับขึ้นมา ผลตอบแทนที่ได้รับก็จะไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย

ดังนั้น ผมแนะนำว่า ให้เตรียม wish list เอาไว้สองชุด ชุดแรกคือ 'Top of My Mind' ไม่เกินสามตัว และชุดที่สอง คือหุ้นที่ชอบรองลงไปอีกไม่เกินสามตัว พอถึงวันหุ้นตกวินาศสันตะโร ก็ให้เน้นซื้อหุ้นในชุดแรก แต่หากหุ้นชุดแรกราคาลงไม่มากนัก จึงค่อยไปเลือกหุ้นในชุดที่สองมาทดแทน

จงจำไว้ว่า วีไอที่ดีต้องรู้จัก “Focus” จึงจะประสบความสำเร็จ อย่าถือหุ้นสะเปะสะปะหลายสิบตัว แม้การ 'ช้อปหุ้น' วัน 'บิ๊กเซล' ก็ต้องมุ่งเน้นด้วยเช่นกัน

เพื่อที่ว่าเมื่อฝุ่นควันจางหายไปแล้ว เราจะตอบตัวเองได้ว่า เราได้อะไรติดไม้ติดมือกลับมาบ้าง นั่นเองครับ