หยุดประชานิยม แบบไม่รับผิดชอบ

หยุดประชานิยม แบบไม่รับผิดชอบ

เหลือเชื่อว่า ขนาดโครงการรับจำนำข้าว

 สร้างความเสียหายมากมายมหาศาล เห็นกันอยู่ทั้งประเทศ แต่พอจะมีกลไกขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหา กลับยังมีนักเลือกตั้งบางพวกไม่เห็นความสำคัญเรื่องนี้

อย่าลืมว่า เพราะนโยบายประชานิยมอย่างไม่จำกัด ทำให้ “อดีตนายกฯปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง ฐานปล่อยปละละเลยไม่ระงับยับยั้ง จนก่อให้เกิดความเสียหาย และถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี

ขณะนี้ ยังถูกฟ้องความผิดฐานเดียวกัน ในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และถูกคำสั่งทางปกครองเอาผิดทางแพ่ง เรียกค่าชดเชยความเสียหาย “ยิ่งลักษณ์” 286,639 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีความเสียหายจากโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐของบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ กับพวก ที่ถูกเรียกค่าเสียหายอีก 18,743 ล้านบาท

เนื่องจากมีนโยบาย เอาใจชาวนา ซึ่งเป็นฐานใหญ่ทางการเมือง แม้รู้ทั้งรู้ว่าจะต้องใช้งบประมาณจำนวนมหาศาล และขาดทุนมากมายในแต่ละปี เพราะรับจำนำทุกเม็ด และเป็นการรับจำนำราคาสูงกว่าท้องตลาดอย่างมาก ตัวอย่าง ราคาตลาดประมาณ 8,000 บาท รับจำนำถึง 15,000 บาท เป็นต้น

อะไรไม่สำคัญเท่ากับพักหลัง พรรคการเมืองส่วนใหญ่พยายามเอาอย่างกัน หันมาออกแบบนโยบายประชานิยมแบบไม่รับผิดชอบ เลียนแบบกันมากขึ้น ในการต่อสู้ทางการเมือง จนน่ากลัวว่าประเทศจะเอาเงินจากไหนมาใช้จ่าย และหนี้สินของประเทศก็จะถูกกู้มาใช้กับนโยบายประเภทนี้เป็นว่าเล่น

นี่คือ ที่มาของการออกแบบให้ “กกต.”(คณะกรรมการการเลือกตั้ง) จะต้องตรวจสอบพรรคการเมือง

แต่ดูเหมือนที่มาของเรื่องนี้กำลังถูกบิดเบือนหรือไม่

กรณี “ตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ มีความเห็นต่อแนวคิดให้พรรคการเมืองเสนอนโยบายต่อ “กกต.” ผ่านเฟซบุ๊คไลฟ์ ว่า เท่ากับเป็นการล้วงความลับและขัดขวางการพัฒนาชาติ โดย สมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการกกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง ที่อ้างจะนำนโยบายไปประกาศ ให้ประชาชนตรวจสอบเพื่อไม่สร้างความเสียหาย และหายนะทางเศรษฐกิจต่อประเทศในอนาคต ซึ่งไม่ใช่หน้าที่ของ “กกต.” อีกทั้งนโยบายของพรรคต้องนำเสนอต่อสาธารณะอยู่แล้ว แนวคิดของ “สมชัย” ที่อ้างไม่ให้ประชาชนถูกพรรคการเมืองหลอกนั้น เหลวไหล ไร้สติที่สุด...

เชื่อว่าเรื่องนี้มีคนคิดเหมือน “ตู่” จตุพร โดยเฉพาะนักเลือกตั้งที่ได้ประโยชน์เฉพาะหน้า แต่ขณะเดียวกัน ก็มีคนสนับสนุน แนวทางแก้ปัญหานโยบายประชานิยมดังกล่าวข้างต้นอยู่ไม่น้อย

ส่วนความเป็นเหตุเป็นผลที่จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ก็อยู่ที่ทุกคนจะต้องชั่งเอาเอง