Culture เปลี่ยนได้ที่ Mindset

Culture เปลี่ยนได้ที่ Mindset

มีเรื่องเล่าเรื่องหนึ่งที่ผมชอบมาก เรื่องมีอยู่ว่านักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งทดลองศึกษาพฤติกรรมของลิง

 โดยนำลิง 5 ตัว มาเลี้ยงรวมกันไว้ในกรงที่มีบันไดวางไว้ตรงกลาง ด้านบนของกรงมีผลไม้แขวนเอาไว้ เมื่อมีลิงตัวใดปีนบันไดขึ้นไปเก็บผลไม้ น้ำเย็นจัดจะถูกฉีดจากท่อลงมาถูกลิงที่เหลือในกรง สร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ต่อมาเมื่อมีลิงตัวใดพยายามปีนบันไดขึ้นไปเก็บผลไม้อีก ลิงที่เหลือจะขัดขวางและรุมทำร้าย ทำให้ไม่มีลิงตัวไหนกล้าปีนบันไดขึ้นไปอีกเลย

นักวิทยาศาสตร์ทดลองต่อไปโดยเอาลิงหมายเลข 1 ออกมาและนำลิงหมายเลข 6 เข้าไปแทน สิ่งแรกที่ลิงตัวใหม่ทำคือ ปีนบันไดขึ้นไปเก็บผลไม้แต่ยังไม่ทันได้ปีนก็ถูกลิงที่อยู่มาก่อนขัดขวางและรุมทำร้าย หลังจากนั้นไม่นานลิงหมายเลข 6 ก็ไม่กล้าปีนบันไดขึ้นไปเก็บผลไม้อีก โดยที่ยังไม่ทราบถึงสาเหตุเลยว่าเป็นเพราะอะไร ต่อมาลิงหมายเลข 2 ถูกเอาออกมาแล้วนำลิงหมายเลข 7 เข้าไปแทน เมื่อลิงหมายเลข 6 เห็นลิงที่ใหม่กว่าตัวเข้ามาและพยายามปีนบันไดขึ้นไปเก็บผลไม้ก็ร่วมมือกับลิงที่เหลือขัดขวางและรุมทำร้ายลิงหมายเลข 7 จนกระทั่งลิงใหม่หมายเลข 7 ล้มเลิกความพยายามที่จะปีนบันไดขึ้นไปเก็บผลไม้อีกต่อไป

การทดลองดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งลิงหมายเลข 5 ถูกเปลี่ยนออกไป ตอนนี้ในกรงมีลิงหมายเลข 6, 7, 8, 9 และ 10 ซึ่งไม่เคยมีประสบการณ์ถูกน้ำเย็นฉีดใส่มาก่อนเลย แต่ก็ยังคงสืบทอดการขัดขวางและรุมทำร้ายลิงตัวอื่นที่พยายามปีนบันไดขึ้นไปเก็บผลไม้ต่อไป โดยไม่รู้สักนิดเลยว่าการที่ต้องทำเช่นนั้นมีจุดเริ่มต้นมาอย่างไร ลองคิดเล่นๆ ดูนะครับว่าถ้าเราเป็นลิงตัวใหม่ที่เข้าไปอยู่ในกรงนั้น เราคงอยากจะถามว่า “ฉันจะปีนบันไดขึ้นไปเก็บผลไม้พวกเธอมาทำร้ายฉันทำไม” คำตอบที่ได้คงจะเป็นว่า "ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ใครๆ เขาก็ทำกันแบบนี้ทั้งนั้น มันเป็นแบบนี้มานานแล้ว ตอนฉันเข้ามาใหม่ๆ ฉันก็โดนเหมือนเธอนี่แหละคุ้นๆ ไหมครับกับคำตอบแบบนี้

เรื่องนี้ทำให้เห็นภาพชัดว่า วัฒนธรรมองค์กร (Corporate Culture) ถูกสร้างขึ้นมาอย่างไร มันเป็นเรื่องของความเชื่อ ทัศนคติ หรือ Mindset ที่หยั่งรากลึกและส่งผลต่อพฤติกรรมร่วมหรือวิถีปฏิบัติที่สืบเนื่องกันมายาวนานของคนในองค์กร การจะเปลี่ยน Culture ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย หากจะทำให้สำเร็จได้เราต้องเปลี่ยน Mindset ของคนในองค์กรให้ได้ก่อน ในวันนี้ที่โลกเราไม่เหมือนเดิมDisruptive Technology ทั้งหลายส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจในทุกอุตสาหกรรม SCB ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน เราจึงต้องเร่งกระบวนการ Transform ตัวเองให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ โจทย์ใหญ่คือเราจะทำอย่างไรให้คนของเราในทุกระดับทำงานอย่างมีเอกภาพ มี Mindset ใหม่ เปิดใจให้พร้อมที่จะขับเคลื่อนองค์กรไปในทิศทางเดียวกันด้วยพลังงานและทัศนคติที่เป็นบวก

เพื่อตอบโจทย์นี้เราได้ริเริ่มจัดตั้งโครงการ CAD (Ctrl Alt Delete: Reboot Your Life, Rebuild Your Future) ขึ้น โดยร่วมมือกับสถาบันความคิดสร้างสรรค์เชิงธุรกิจ (Academy of Business Creativity) มหาวิทยาลัยศรีปทุม เราคัดเลือกพนักงานตั้งแต่ระดับ Officer จนถึงระดับ Chief Level เข้าโครงการเพื่อให้ห้องเรียน CAD เป็นเสมือน People Laboratory ของ SCB ส่วนกิจกรรมการเรียนรู้ในห้องเรียนนั้นก็เป็นสิ่งใหม่ที่พนักงานเราไม่เคยประสบมาก่อน เราเน้นให้ฟังเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจจากบุคคลดลใจที่เป็นมืออาชีพจากหลากหลายวงการ มี Action Learning เช่น CAD Talk กิจกรรม Rally การถ่ายทำ Music Video ที่พนักงานต้องคิดโครงเรื่อง ทำ story board เขียนบท กำกับและแสดงเอง และยังมี Project จบที่โจทย์คือ Proud to be SCB ที่ทุกคนต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ร่วมกันคิดและทำพร้อมนำผลงานมานำเสนอต่อ CEO อีกด้วย

ตลอดระยะเวลา 7 เดือนของโครงการ เราเห็นปรากฏการณ์ใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน คือพนักงานทุกระดับทำงานร่วมกันได้โดยไม่มีข้อจำกัดใดๆ ทั้งสิ้น เรารับรู้ได้ถึงความคิดสร้างสรรค์ พลังงานดีๆ และทัศนคติบวกจากคนกลุ่มนี้ผ่านโครงการริเริ่มต่างๆ เช่น SCB Car Pool, Proud2bSCB Facebook page ที่ทำให้เห็นว่าคน SCB มีความรักความภาคภูมิใจและพร้อมจะสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้องค์กรมากแค่ไหน และเมื่อเห็นแต่ละคนมาเล่าถึงสิ่งที่ตนได้รับจากการเข้าโครงการนี้ให้ CEO ฟัง ผมบอกได้เลยว่าเหนือความคาดหมายและน่าประทับใจมาก ผู้เข้าโครงการเล่าว่าโครงการนี้ช่วยเปลี่ยน Mindset และวิธีคิดไปโดยสิ้นเชิง เมื่อ Mindset เปลี่ยนพฤติกรรมก็เปลี่ยนตามไปด้วย พวกเขาพร้อมที่จะตั้งคำถามและท้าทายวิธีคิดและวิถีปฏิบัติแบบเดิมๆ เพื่อหาทางเลือกใหม่ที่ดีกว่าให้กับองค์กร

ตอนนี้เราได้สร้างกองทัพเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยคนที่มีพลังและทัศนคติที่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง คนกลุ่มนี้จะเป็น Change Agent ที่เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อน SCB ให้เกิดวัฒนธรรมใหม่ที่จะทำให้เราอยู่รอดในการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันและอนาคตได้ ไม่เหมือนลิงในเรื่องที่ผมได้เล่าไว้ในตอนต้นที่ยอมปล่อยให้ผลกระทบจากลิง 5 ตัวแรกดำเนินต่อไปจากรุ่นสู่รุ่นโดยไม่กล้าแม้แต่จะลองคิดหาวิธีการใหม่ๆ เพื่อเก็บผลไม้ที่อยู่เหนือกรงมากินได้ สวัสดีครับ