มีเงินล้าน..วางยังไง?

มีเงินล้าน..วางยังไง?

คนที่ได้เปรียบอย่างยิ่งในยุค 'ดอกเบี้ยต่ำ' คือ มนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้ค่อนข้างสูงเพราะพวกเขามีแรงจูงใจที่จะนำเงินออมมาลงทุน

คำถามซุปเปอร์คลาสสิกที่อยู่ในหัวใจของคนไทยจำนวนมาก ในยุคดอกเบี้ยต่ำเตี้ยเรี่ยพื้น คือ...

'มีเงินสด 1 ล้าน จะเอาไปลงทุนอะไรดีครับค่ะ' คำถามแนวนี้ในพันทิปดอทคอมมีเยอะมาก ดูเหมือนจะถามกันมานาน และยิ่งถามกันหนักมากในปีนี้ ปีที่คนไทยจำนวนมากตกใจกับดอกเบี้ยเงินฝากเข้าใกล้ '0%' เข้าไปเรื่อยๆ

ลองหลับตานึกถึงคนสมัยก่อน รุ่นพ่อรุ่นแม่
• ยุคนั้นดอกเบี้ยเงินฝาก แบบสิ้นคิด คือ 12% !!!
• ยุคนี้ดอกเบี้ยเงินฝาก แบบคิดดีแล้ว ฝาก 12 เดือน คือ 0.75-1.2% !!!

โอ้โห...ดอกเบี้ยเงินฝากต่างกันเกิน 10 เท่าตัว !!!สมัยก่อน มีเงินสด 1 ล้านบาท ฝากแล้วนั่งๆนอนๆ ได้ดอกเบี้ย แสนสี่ …แต่สมัยนี้ ฝากแล้วนั่งๆนอนๆ ได้ดอกแค่ หมื่นเดียว

มิน่าเล่า คนรุ่นก่อน เวลาไปอัพเดทสมุดบัญชีถึงมีความสุขกันนัก อัพบุ๊คปีใหม่ทีนอกจากได้เห็นดอกเบี้ยเป็นกอบเป็นกำพิมพ์ลงบนสมุดบัญชี ผู้จัดการธนาคารยังเอาของขวัญมาให้เยอะแยะ ขอบคุณที่มาฝากเงินกับธนาคารเรา ทั้งที่ดอกเบี้ยเยอะขนาดที่คนฝากเงินรำพึงว่าแหม...แหม...เงินไม่รู้มันมาจากไหนแต่มายุคนี้ ไปอัพเดทสมุดบัญชีช่วงปีใหม่ นอกจากดอกเบี้ยจะน้อยใจหายแล้ว ตะโกนขอปฏิทิน บางแบงค์ยังไม่อยากจะให้เลยครับ

เอาหล่ะ สมมติว่าเราจะเลิกบ่น แล้วมองไปข้างหน้า ยอมรับชะตาว่า ดอกเบี้ยเงินฝากต้องต่ำเตี้ยติดดินไปอีกนาน... จนถึงขั้นดอกเบี้ยอาจจะติดลบได้แบบบางประเทศ

แล้วมนุษย์เดินดินอย่างเรา จะเอาเงินไปวางตรงไหนให้พอมีดอกผลขออย่างน้อยเอาชนะดอก 1% ของธนาคารให้ได้ลองมานั่งคิดดูแล้ว ก็น่าจะมีวิธีประมาณนี้ ที่พอเป็นไปได้

1.ฝากประจำพิเศษ ยังมีบางโปรแกรมเงินฝาก ของบางธนาคารที่น่าสนใจ ให้ดอกเบี้ยสูง แต่ก็ต้องดูดีๆ เพราะดอกเบี้ยสูงที่ว่ามักจะเป็นแบบขั้นบันได เช่นฝากเงิน 15 เดือน มีอัตราดอกเบี้ยเป็นขั้นบันไดจากต่ำไปสูง ช่วงแรกดอกเบี้ยน้อย แต่ดอกเบี้ยจะมากเอา3 เดือนสุดท้ายที่เป็นขั้นสุดท้าย ดอกเบี้ยถัวเฉลี่ยรวมๆไม่ถึง 2% ก็มี อันนี้ต้องดูเป็นรายกรณี

2.กองทุนตลาดเงิน Money Market Fund เมื่อก่อนจัดเป็นที่พักเงินที่ดีกว่าฝากออมทรัพย์ ให้ผลตอบแทนสูงกว่า แต่ตอนนี้ชักไม่แน่ใจว่า ว่ายังมีผลตอบแทนชนะดอกเบี้ยเงินฝากหรือเปล่า เพราะช่วงหลังๆมานี้ ผลตอบแทนเริ่มน้อยลงมามากตามดอกเบี้ยแบงค์เลย

3. กองทุนตราสารหนี้ ตัวนี้เมื่อก่อนดีนะครับ กองทุนจะนำเงินไปซื้อตราสารหนี้ภาครัฐและเอกชนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ย และมีเวลาครบอายุที่ลดหลั่นกันไป ในแง่ความเสี่ยงก็ย่อมมากกว่าการฝากเงิน เพื่อแลกกับผลตอบแทนที่สูงกว่า สมัยก่อนให้ผลตอบแทน 3-5% อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนตราสารหนี้ในช่วงที่ผ่านมาก็ลดลงมาเยอะเช่นกัน

4. สลากออมสิน สลากธกส. วิธีนี้ผลตอบแทนปกติไม่ได้มีอะไรครับ แต่คนซื้อสลากต้องมีดวงนิดนึง ถ้าถูกรางวัลสลากบ่อยๆ ผลตอบแทนจะดีขึ้นมากวิธีฝากเงินกับสลากฯนี่อย่าดูถูกไปนะครับ คนซื้อสลากฯที่ถูกรางวัลบ่อยๆก็มีเช่นกัน ประเภทคนเหนือดวง

5. ประกันชีวิต อันที่จริง ประกันชีวิตไม่ได้เกิดมาเพื่อความมั่งคั่ง แต่เกิดมาเพื่อตอบโจทย์ในแง่ความมั่นคงครับเพราะหากมองในแง่ผลตอบแทนอย่างเดียวคือ ไม่สูง หน้าที่หลักคือคุ้มครองความเสี่ยงและประกันชีวิตต้องสะสมเงินนาน ว่ากันเป็น 10 ปีขึ้นไป ... แต่ข้อดีก็มีมาก เช่น คุ้มครองความเสี่ยงดูแลคนที่เรารัก อีกทั้งเงินสะสมในประกันชีวิตสามารถใช้หักภาษีได้ 100,000 บาทต่อปี ได้ประโยชน์คู่เลย คือ ทั้งได้ลดภาษี ทั้งได้ความมั่นคง ใครจ่ายฐานภาษีสูงจะยิ่งคุ้ม

6. กองทุนหุ้น ลองเน้นพวก Passive Fund กองทุนหุ้น SET50, SET100 ครับ ในระยะยาวหุ้นใหญ่เหล่านี้จะ perform ดีกว่าตลาด และผลตอบแทนเอาชนะอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก1% ได้ไม่ยากเลย แต่ผู้ลงทุนต้องรับความผันผวนให้ได้ ...ยิ่งถ้าเป็นกองทุนประหยัดภาษีLTF RMF จะยอดมากเพราะได้ประหยัดภาษีด้วย

หลังจากคิดสะระตะแล้ว ผมมีความเชื่อว่า คนที่ได้เปรียบอย่างยิ่งในยุคดอกเบี้ยต่ำนี้ คือ มนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้ค่อนข้างสูงเพราะพวกเขามีแรงจูงใจที่จะนำเงินออม มาลงทุนในกองทุน LTF RMF แบบเต็มเหนี่ยวเพื่อผลประโยชน์ภาษี และสามารถลงทุนได้มากถึง 30% ของรายได้ทั้งปีที่สำคัญ ไส้ในกองทุน LTF RMF มันคือหุ้น และบังคับให้ต้องถือระยะยาว เป็นการตอบโจทย์ทั้งออม ลงทุน และประหยัดภาษีคนลงทุนได้เปรียบมากๆ อย่าพลาดโอกาสเด็ดขาด

ทั้งหมดที่พอนึกออกก็ประมาณนี้ครับ ใครมีวิธีฝากเงิน บริหารเงินได้ผลตอบแทนสูงๆ ก็เอามาชี้เป้า เล่าให้นักลงทุนฟังกันบ้าง เราจะได้ฝ่าฟันยุคดอกเบี้ยต่ำไปด้วยกัน