Thailand 4.0 - NGO

เพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนนเสียง ไม่ได้มองไปที่การแก้ไขปัญหาระยะยาวของประเทศมากนัก 

ประเทศไทยจึงยังขาด “วิสัยทัศน์” (Vision) ของประเทศว่า ตกลงเราจะเดินไปทางไหน 

นอกจากนั้น ไทยยังเต็มไปด้วย NGO และนักวิชาการที่มักจะค้านโปรเจคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างโรงไฟฟ้า โรงเผาขยะ หรือจะเป็นสนามบิน ก็ถูกประท้วงหมด 

ที่สำคัญคือไม่ได้ค้านคนเดียว NGO บางส่วนยังไปชักจูงให้ชาวบ้านออกมาค้าน

อย่างวันนี้เราต้องการขยายสนามบินภูเก็ต โดยสร้างลานบินเพื่อรองรับจำนวนเครื่องบินที่เพิ่มขึ้น รองรับเครื่องบินที่ขนาดใหญ่ขึ้น เพราะภูเก็ตวันนี้มีสายการบินที่บินตรงจากประเทศอื่นๆโดยไม่ต้องมาต่อเครื่องที่กรุงเทพฯ ซึ่งจะเป็นการแบ่งเบาภาระสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมืองที่คับแคบลงทุกทีด้วยจำนวนผู้โดยสารจากทั่วโลกที่สูงขึ้น

รันเวย์ของสนามบินภูเก็ตที่มีข้อจำกัด จึงต้องถมทะเลออกไปเพื่อให้มีทางวิ่งที่ยาวออกไปในทะเล ก็มีสารพัด NGO ค้าน 

ไปดูประเทศอื่นกันว่า เขาถมทะเลทำอะไรกันบ้างและขนาดที่เขาทำกันมันใหญ่ขนาดไหน อย่างเพื่อนบ้านเราสิงคโปร์ถมที่สร้างแลนมาร์คประเทศกันเลยทั้งมารีน่า เบย์ แซนด์ส (Marina Bay Sands) หรือจะเป็นการ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ (Gardens by the Bay) ล้วนแต่ถมที่ลงไปในทะเลทั้งสิ้นด้วยจำนวนพื้นที่ 656.5 ไร่ 

ดูไบก็เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นโครงการหมู่เกาะต้นปาล์ม (The PalmIslands) และโครงการเดอะเวิลด์ (The World) ก็ล้วนเกิดจากการถมทะเล 

เหรียญมี 2 ด้านเสมอ สิ่งที่กระทบกับสิ่งแวดล้อมมีครับ แต่คงไม่เท่ากับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เราจะได้รับจากการทำรันเวย์ลงไปในทะเล ทำไมประเทศอื่นๆเขาทำยิ่งกว่าเรามากมายยังทำกันได้

นี่เรื่องเดียวนะครับซึ่งเรื่องนี้ยังไม่ใหญ่เท่ากับกับเรื่องไฟฟ้า บ้านเราทำเขื่อนก็ไม่ได้ สร้างโรงผลิตไฟฟ้าก็ไม่ได้ บ้านอื่นเขาสร้างมาก เวียดนามก็ทำโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ลาวทำเขื่อนผลิตไฟฟ้า เมียนมาสร้างโรงผลิตไฟฟ้า และสร้างเขื่อน 

บ้านเราหยุดทำทุกอย่างเพราะ NGO บอกว่า ทำลายสิ่งแวดล้อม ทุกอย่างที่ได้มา มันคงต้องแลกกับบางอย่างครับ 

ต่อให้ใช้พลังลมก็แลกมาด้วยมลภาวะทางเสียง ถ้าใช้น้ำก็ต้องแลกมาด้วยการสร้างเขื่อนก็คงต้องมีป่าที่หายไปบ้างแต่เราได้ไฟฟ้าที่สะอาดสุดๆ ใช้ขยะมาผลิตไฟฟ้าก็คงต้องมีควันที่เกิดจากเผาขยะบ้างแต่เราได้ไฟฟ้าและลดขยะไปด้วยในตัว 

ใช้ Solar cell ก็ต้องแลกมาด้วยพื้นที่เกษตรที่จะหายไปและความร้อนที่จะเพิ่มขึ้นจากการสะสมบน Solar cell จากเดิมที่เป็นพื้นดินรวมทั้งมลภาวะที่จะเกิดขึ้นจากแบตเตอรี่เก่าจำนวนมากก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องคิด 

เราต้องมองมุมที่มากกว่าแค่สิ่งแวดล้อม ถึงจะเป็นการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหิน น้ำมัน หรือก๊าซ ด้วยเทคโนโลยีทุกวันนี้มันก็ไม่ได้เลวร้าย ในต่างประเทศก็ใช้กันแม้กระทั่งเตาเผาขยะที่ประเทศเดนมาร์กก็ตั้งอยู่กลางใจเมืองเลยนำขยะจากในเมืองมาเผาเพื่อสร้างไฟฟ้าที่ใช้อยู่ในเมืองถามว่ามันมีมลภาวะไหม มันก็คงต้องมีควัน มีฝุ่นบ้าง แต่ได้กลับมาซึ่งพลังงานไฟฟ้าและกำจัดขยะไปในตัวด้วย 

ถามว่าโรงฟ้าแบบนี้เราสร้างขึ้นเองหรือเปล่า คำตอบก็บอกว่าเปล่า เราเลือกใช้เทคโนโลยีที่เป็นที่ยอมรับของประเทศเจริญแล้วมาใช้ ทำไมเราไม่มองมุมกว้างๆมองจากหลายๆมุมไม่มีอะไรเสียไปหมดประเทศเรากำลังมาถึงทางตัน ในการพัฒนามาขึ้นทุกทีแล้วครับ 

ไฟฟ้าสำรองสำหรับอนาคตของประเทศกำลังจะหมดไป เพราะเราไม่ได้สร้างอะไรเลยในรอบหลายปี 

เวลาดูอะไรไม่ใช่แค่ดูแค่ตัวเราเอง แต่ต้องดูโลกด้วยว่าเขาทำอะไรอยู่และโลกกำลังจะไปทิศทางใด