Thailand 4.0 ถ้าเราจะชนะ

Thailand 4.0 ถ้าเราจะชนะ

ประเทศในโลกมีการแข่งขันกันในหลากหลายมิติ เราเองต่อให้ไม่ได้อยากไปแข่งขันกับใคร ก็มีหน่วยงานต่างๆ จับเราลงไปเปรียบเทียบอยู่ดี

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความน่าสนใจในการลงทุน อัตราในการคอรัปชันของแต่ละประเทศ ประเทศที่น่าท่องเที่ยว ประเทศน่าลงทุน ความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และอะไรต่ออะไร อีกมากมาย 

ประเทศไทยเราเองวุ่นวายกับปัญหาในประเทศมายาวนาน และก็ยังไม่จบเสียที แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะหยุดนิ่งอยู่กับที่เหมือนที่หลายคนคิด เพราะขณะที่การเมืองมีปัญหา แต่ภาคอื่นก็ขับเคลื่อนไปข้างหน้า ถึงแม้จะไม่เร็ว แต่ก็ยังก้าวไปเรื่อยๆ ไม่ได้หยุดนิ่ง 

แต่ที่น่าสนใจกว่านั้น คือ การกำหนดยุทธศาสตร์ของประเทศว่า เราจะไปทิศทางไหนในอนาคต และวางแผนทุกอย่างให้เป็นแนวทางเดียวกัน 

ประเทศไทยที่ผ่านมา การเติบโตเราเริ่มช้าลง เป็นเพราะเราไม่มีวิธีการใหม่ๆ เรายังคงย่ำอยู่กับที่ ไม่ได้สร้างมิติอะไรใหม่ เพื่อเพิ่มให้ศักยประเทศให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันที่ดีขึ้น 

ขณะที่ประเทศอื่นๆ เพิ่มศักยภาพต่างๆ เพิ่มขึ้น อย่างประเทศในภูมิภาคนี้ CLMV เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดว่าได้เพิ่มศักยภาพประเทศ อย่างน้อยจากเรื่องพื้นฐาน สาธารณูปโภคต่างๆ ที่เร่งสร้าง เราอาจจะได้เปรียบ เพราะประเทศไทยทำเรื่องนี้มายาวนานแล้ว 

วันนี้รัฐบาลชุดนี้กำลังวางแนวยุทธศาสตร์ประเทศ เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้ประเทศไทย และขยับประเทศไทยออกจากจุดเดิม ถ้ามองแบบนักการตลาด คือ มองว่าประเทศไทย คือ สินค้าที่ขายดีมาอย่างต่อเนื่อง แต่ตอนนี้ยอดขายตกลงมาเรื่อยๆ บางปี ติดลบ บางปีโตขึ้นน้อยลง ถึงเวลาต้องมาปรับปรุงสินค้าใหม่ อาจจะเพิ่มความหลากหลายของสินค้าให้มากขึ้น เหมือน เลย์ ก็เพิ่มรสชาติ หรืออาจจะมีการปรับปรุงสูตรใหม่ให้สินค้าเดิมที่มีอยู่เข้มข้นขึ้น 

ขณะเดียวกัน ควรปรับปรุงความสามารถในการแข่งขันด้วยการยกเครื่ององค์กร ปรับปรุงไลน์การผลิตใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ เป็นการลดต้นทุนต่างๆ

วันนี้ที่เราประมูล 4G นี่ก็เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของการสื่อสารของประเทศ ทำให้เราแข่งขันได้ดีขึ้น วันนี้อินเทอร์เน็ตเราก็ไม่แพ้ชาติใดในโลก การที่เรากำลังจะสร้างจุดผ่านแดน กับประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มขึ้น รวมทั้งสร้างการขนส่งระบบรางเพิ่มขึ้น เพื่อเชื่อมการขนส่งในภูมิภาคนี้เข้าด้วยกัน จากเมียนมาไปเวียดนาม จากลาวลงไปสิงค์โปร์ การสนับสนุนท่าเรือน้ำลึกทวาย เพื่อเชื่อมการขนส่งจากมหาสมุทรอินเดียไปสู่แปซิฟิก หรือการขยายสนามบินสุวรรณภูมิ ปรับปรุงสนามบินดอนเมือง และขยายสนามบินในส่วนภูมิภาค อย่างภูเก็ต เชียงใหม่ อุดรธานี ขอนแก่น แม้กระทั่งอู่ตะเภา ซึ่งทยอยเสร็จกันไปเรื่อยๆ แล้ว รวมทั้งการเชื่อมสนามบินดอนเมืองกับสุวรรณภูมิด้วยรถไฟฟ้า เหล่านี้จะช่วยให้ไทยโดดเด่นในฐานะประเทศที่เป็นศูนย์กลางของอาเซียนอย่างแท้จริง

แต่ไม่ได้หมายความทำแค่นี้แล้ว จะทำให้เราดีขึ้น เพราะเราต้องมาดูจุดอ่อนของเราด้วยครับ ว่าเราจะแก้ปัญหาเหล่านั้นอย่างไร เช่น ภาคการเกษตรของเราวันนี้ ยังพึ่งฟ้าพึ่งฝนกันอยู่เลย ระบบการเพาะปลูกยังเดิมๆอยู่ มีแค่เครื่องจักรมาใช้

แต่สิ่งที่เราต้องทำอย่างเร่งด่วน และต้องลงทุนให้มากที่สุด คือ คน คนไทยครับ วันนี้ต้องยอมรับว่าความสามารถของเด็กไทยนั้นมีความแตกต่างกันอย่างมาก เพราะคุณภาพการศึกษาของเราที่ไม่เท่าเทียมกัน เริ่มจากต้องยอมรับว่าอาชีพครูบ้านเราไม่ใช่อาชีพ First class ครับ ประเทศอื่น อาชีพครูต้องได้คนที่เรียนเก่ง เพื่อมาเป็นต้นแบบที่ดี เริ่มจากเงินเดือนสูงกว่าอาชีพอื่นๆ มีการสอบเข้าตั้งแต่ระดับมหาวิทยาลัยในระดับคะแนนที่สูง และยากกว่าคณะอื่นๆ เพื่อคัดเลือกคนที่เก่งจริงๆ ทุกโรงเรียนถ้ารับครู ต้องเป็นครูที่ต้องผ่านการสอบจากคณะกรรมการคัดเลือก ทำแบบประเทศอังกฤษ และอเมริกาทำกัน ไม่ใช่ที่เราเป็นอยู่ในปัจจุบัน และอาจารย์จะต้องได้เงินเดือนสูงขึ้น 

นี่ก็จะเป็นแรงจูงใจให้คนเก่งเข้ามาเป็นอาจารย์มากยิ่งขึ้น ถึงเวลาแล้วครับที่เราต้องวางกลยุทธ์ประเทศแบบ 10 ปี 20 ปี แล้ววางทิศทางให้ชัดเจน 

ผมเชื่อครับว่าประเทศไทยยังมีศักยประเทศที่สามารถไปได้อีกไกลครับ