ปริศนาเยอรมนีสมัยใหม่

ปริศนาเยอรมนีสมัยใหม่

เยอรมนีเป็นมหาอำนาจและเป็นชนชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของยุโรปได้ ไม่ใช่เพราะว่ามีดวงเมืองเสริม แต่เป็นเพราะว่า

มีพื้นฐานที่ดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวินัย ความคิดที่เป็นแบบแผนที่มีเหตุมีผล ความอุตสาหะ ความมัธยัสถ์ วินัยการออม ยังมีความเป็นชาตินิยมสูง รักศิลปะ ทำอะไรตรงไปตรงมา มีระบบการศึกษาที่ดีเยี่ยม มีความเจริญของระบบเทคโนโลยีและอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งแล้วเมื่อพูดถึงพื้นฐานของวิศวกรรมแล้ว ทุกคนยอมรับว่าเป็นเลิศ ไม่มีประเทศใดเทียบได้ นักคิด นักเขียน (Goethe, Schiller) นักปรัชญา (Leibniz, Hegel, Marx, Nietsche) นักแต่งเพลง (Bach, Beethoven, Brahms) นักประดิษฐ์ และนักวิทยาศาสตร์ที่สำคัญของโลก (Johannes Gutenberg, Johannes Kepler, Albert Eistein, Karl Benz)

แม้ว่าจะพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 แต่เยอรมนียังสามารถพลิกฟื้นประเทศด้วยความอุตสาหะ การพัฒนาเทคโนโลยีและอุตสาหกรรม และการออมจนกลับมาเป็นมหาอำนาจของยุโรปได้ โดยนางแองเกล่า แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีกลายเป็นผู้นำที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในยุโรปในเวลานี้

แต่เมื่อไล่เรียงเหตุการณ์มาถึงปัจจุบัน จะเห็นได้ว่าเยอรมันดำเนินนโยบายสำคัญหลายอย่างเป็นปริศนา หรือมีความขัดแย้งกันเอง ซึ่งไม่เป็นประโยชน์กับเยอรมันในระยะยาว ถ้าหากว่าถอยกลับมาตั้งหลักไม่ทันการณ์ เยอรมนีอาจจะต้องเจอกับโศกนาฏกรรมที่เลวร้ายอีกครั้ง ซึ่งพอจะสรุปปริศนาของนโยบายหลักของนางแมร์เคิล ได้ดังนี้

1) เยอรมนีดำเนินนโยบายที่เป็นปฏิปักษ์กับรัสเซีย หรือหมีขาววลาดิเมียร์ ปูติน อย่างเปิดเผย แมร์เคิลมีบทบาทมากในการเข้าไปสร้างวิกฤติในยูเครน เพื่อดึงเอายูเครนออกจากอ้อมอกของรัสเซีย อียู นาโต้และสหรัฐร่วมมือกันก่อวิกฤติยูเครนทำให้รัสเซียต้องยึดไครเมีย หลังจากนั้นยุโรปและสหรัฐมีการคว่ำบาตรรัสเซีย เยอรมันมีการค้าขายสูงมากกับรัสเซีย และต้องพึ่งพาก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียผลกระทบในการเป็นปฏิปักษ์กับรัสเซียทำให้บริษัทเยอรมันเสียหายมาก แต่รัฐบาลเยอรมันกลับเดินหน้าในการร่วมมือกับนาโต้ในการปิดล้อมรัสเซีย ท่าทีล่าสุดของเยอรมันจะไม่หยุดการขยายกองทัพนาโต้เข้าประชิดชายแดนรัสเซีย ทั้งๆ ที่มีข้อตกลงระหว่างโซเวียตและสหรัฐในช่วงก่อนการล่มสลายของจักรวรรดิโซเวียตว่า สหรัฐและนาโต้จะไม่ขยายอิทธิพลมายังยุโรปตะวันออกเพื่อคุกคามความมั่นคงของรัสเซีย

2) ท่าทีทางการเมืองระหว่างประเทศของเยอรมันในการเป็นปฏิปักษ์กับรัสเซีย ทำให้รัสเซียมองเยอรมันเป็นศัตรูเบอร์หนึ่งในยุโรป และกลายเป็นเป้าหลักของการถูกทำลาย เพราะว่าเยอรมนีเป็นที่ตั้งฐานทัพที่ใหญ่ที่สุดของนาโต้ในยุโรป มีขีปนาวุธและนิวเคลียร์ที่จ่อคอหอยมอสโควอยู่เพียบ ขณะนี้รัสเซียได้เปลี่ยนหลักนิยมทางทหาร โดยมองว่าสมาชิกประเทศนาโต้ทั้งหมดเป็นภัยคุกรามรัสเซีย และรัสเซียสามารถป้องกันตัวเองด้วยการยิงขีปนาวุธนิวเคลียร์ใส่ก่อน เพื่อป้องกันตัวเองได้ เยอรมันจึงเป็นเป้าหลักของแสนยานุภาพทางทหารของรัสเซียที่สหรัฐต้องคิดหนักเหมือนกัน ถ้าเยอรมันมีอันต้องเป็นไปเมื่อต้องซัดกับรัสเซีย กองทัพของนาโต้ในยุโรปจะล่มสลายลงไปด้วย

3) นางวิคตอเรีย นูแลนด์ รมช.ต่างประเทศสหรัฐ บอกว่าใช้เงิน 5 พันล้านดอลลาร์กับปฏิวัติในยูเครน และมีนโยบายหลายอย่างที่ขัดแย้งกับอียู แต่นางบอกว่า “Fuck the EU” หรือพูดง่ายๆ ว่า นางไม่เห็นอียูหรือเยอรมันในสายตา ยุโรปภายใต้การนำของแมร์เคิลยังคงดำเนินนโยบายเดินตามก้นอเมริกันอย่างซื่อสัตย์ โดยหาไม่รู้ว่าวิกฤติรออยู่ข้างหน้า แมร์เคิลบินไปรายงานปธน.บารัค โอบามา ถึงทำเนียบขาว หลังจากเจรจาหลายฝ่ายเพื่อสงบศึกในยูเครนเมื่อเกือบ 2 ปีมาแล้ว แต่ยูเครนที่เปรียบเหมือนเมืองหน้าด่านของรัสเซีย ทำให้ไม่มีวันที่รัสเซียจะปล่อยให้ยูเครนตกไปเป็นของมหาอำนาจตะวันตก

4) อังกฤษต้องการ BREXIT แต่สหรัฐพยายามกินรวบยุโรปผ่านเขตการค้าเสรีระหว่างสหรัฐและยุโรปภายใต้กรอบ TTIP เมษายนที่ผ่านมา โอบามาเดินทางไปเยือนเยอรมนีเพื่อเจรจากับแมร์เคิล ปรากฏว่าแมร์เคิลตอบตกลงที่จะผลักดัน TTIP ในยุโรป ทั้งๆ ที่มีการประท้วงไม่เห็นด้วยกับเขตการค้านี้ที่จะให้ประโยชน์กับบริษัทและธนาคารอเมริกันมากกว่า โดยที่ TTIP จะไม่มีรัสเซียเข้าร่วม

5) เยอรมนีมีระบบการทำงานแนวอนุรักษ์นิยม แต่ปล่อยให้ Deutsche Bank เล่นตราสารอนุพันธ์จนมีข่าวก่อนหน้านี้ว่าฐานะการเงินง่อนแง่น เข้าขั้นล้มละลาย หากว่าทางการไม่เข้าไปอุ้ม

6) หลังจากยุค Weimar Republic ที่เกิดเงินเฟ้อ ทำให้คนเยอรมันขยาดกับเงินเฟ้อ เพราะว่าในช่วงนั้นจะตัดผมที หรือซื้อขนมปังหนึ่งก้อนต้องใช้เงินเป็นเข่ง ต่อมาเยอรมนีมีการปฏิรูปธนาคารกลาง (Bundesbank) เข้มแข็งที่สุดในโลก มีการบริหารนโยบายการเงินที่อนุรักษ์นิยม ดูแลเสถียรภาพของราคาเป็นเป้าหมายหลัก เงินเฟ้อได้รับการควบคุมก่อนที่จะสร้างปัญหา จากพื้นฐานทางการเงินที่ดีนี้เองทำให้เยอรมนีสามารถพัฒนาอุตสาหกรรม มีการลงทุนและสร้างเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งที่สุดในยุโรปหรือในโลก

แต่ตอนนี้เยอรมันได้ยกอำนาจอธิปไตยของการบริหารนโยบายการเงินให้ธนาคารกลางยุโรป หรืออีซีบี ทำให้ต้องเดินตามอีซีบี ล่าสุดมีการโต้เถียงกันอย่างหนัก เพราะเยอรมันไม่เห็นด้วยกับนโยบายดอกเบี้ยติดลบและทำคิวอีของอีซีบี ทำให้ฐานการออมพังโดยเฉพาะธุรกิจประกันภัย รวมทั้งกองทุนต่างๆ ที่พึ่งพารายได้จากดอกเบี้ย นาย Wolfgang Schauble รมว.คลังของเยอรมัน กล่าวโจมตีอีซีบีว่าทำให้ระบบการเงินของเยอรมันเสียหาย แต่ผู้ว่าการธนาคารกลางเยอรมัน นายJens Weidmannกลับบอกว่านโยบายของอีซีบีเหมาะสมแล้ว ทั้งๆ ที่นโยบายดอกเบี้ยติดลบแบบนี้จะเพิ่มแรงกดดันของภาวะเงินฝืดให้เลวร้ายลงไปอีก ก่อนที่คนจะหมดความมั่นใจในยูโร

7) นางแมร์เคิลผลักดันให้ยุโรปเปิดประเทศเพื่อรับเอาผู้อพยพชาวมุสลิมจากแอฟริกาเหนือและตะวันออกกลาง ปีที่แล้วเยอรมันรับผู้อพยพมุสลิมเข้าไป 1ล้านคน ก่อให้เกิดปัญหาสังคมต่างๆ มากมาย รวมทั้งทำให้เกิดขบวนการทางการเมืองขวาจัดที่ไม่เอามุสลิม ปรากฏว่าหลังจากที่ผู้อพยพมุสลิมเข้าเยอรมันแล้ว มีหลายแสนคนที่หลบหนีไปไม่ยอมเข้ารายงานตัว เชื่อกันว่ามีนักรบไอซิสแฝงตัวเข้าไปในเยอรมันเป็นจำนวนมาก และอาจจะเดินทางไปประเทศอื่นๆ ในยุโรปอีกต่อ ที่อาจจะนำไปสู่สถานการณ์ให้ยุโรปและรัสเซียเผชิญหน้ากันอีกครั้ง

สรุป เยอรมันสมัยใหม่อาจจะประสบความสำเร็จในการฟื้นประเทศผ่านพื้นฐานที่แกร่งของเศรษฐกิจ คนเยอรมันส่วนมากมีงานทำ มีการกินดีอยู่ดีกว่าชาวยุโรปอื่นๆ แต่ผู้นำเยอรมันสมัยใหม่ยังคงดำเนินนโยบายที่แปลกประหลาดเป็นปริศนา ที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง อาจจะเป็นเพราะว่ามีวาระทางการเมืองที่แอบแฝงซ่อนเร้นอยู่ หรือมีแรงกดดันอะไรบางอย่างที่ทำให้เยอรมันต้องเดินเส้นทางที่อันตราย แต่ถ้าหากว่ายังคงเดินหน้าอย่างนี้ต่อไป เยอรมันก็อาจจะเผชิญกับภาวะย่ำแย่กว่าสงครามโลกครั้งที่ 2