เมื่อ Life มาพบกับ Live บนการตลาด 3.0

เมื่อ Life มาพบกับ Live บนการตลาด 3.0

หลายคนคงได้เริ่มสัมผัสกับรูปแบบการเผยแพร่ข้อมูลแบบ Live ของเจ้าพ่อ Social Media อย่าง Facebook กันบ้างแล้ว

หลังจากที่เคยออกแอพ Mentions มาช่วงนึง ก็มีการพัฒนาออกเจ้า Live ซึ่งเป็นเทรนด์ใหม่ล่าสุด ซึ่ง Live ของ Facebook ยังเป็นรูปแบบการถ่ายทอดสด ที่อาจจะยังให้ใช้ในวงแคบๆ กับกลุ่มคนที่เรียกว่าเซเลบ (ซึ่งคาดเดาได้ไม่ยากว่าอีกสักพัก ถ้าไม่มีผลกระทบเชิงลบ ก็คงขยายวงกว้างให้ทุกคนได้ใช้กัน)

ส่วนตัวแล้ว ผมรู้สึกว่าเหมือนได้ของเล่นใหม่ เมื่อนำมาพลิกมุมมองไปมาก็คิดว่า Life หรือชีวิตของเราคงได้แง่มุมใหม่ๆในการนำเสนออีกมากมาย และเมื่อนำไปผนวกกับอาชีพการงาน ก็คิดว่าได้ประตูหรือช่องทางในการสื่อสารเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งช่องทางและที่เด็ดดวงก็ตรงที่มัน Live หรือเอาภาษาง่ายๆก็คือ Real time หรือถ่ายทอดสดนั่นเอง ความสดมันก็มีเสน่ห์ของมันอยู่แล้ว ซึ่งนักการตลาดคงเข้าใจความสำคัญในเรื่องนี้ดี ว่าความเร้าใจ ตื่นเต้น และน่าติดตาม ของความ Live นี่ล่ะครับ สามารถตอบสนองแฟนพันธุ์แท้ที่ชอบประเภทอยากรู้ก่อน อยากเห็นก่อน และอยากเป็นคนแรกๆที่ได้สัมผัส 

อันนี้ต้องบอกเลยว่า Live คือกุญแจสำคัญที่ไขไปหากลุ่มเป้าหมายที่เกาะติด และหากได้มีโอกาสสัมผัสกับ Live ที่มีคอนเทนต์ดีๆแล้วล่ะก็บอกเลยว่าคุณแทบจะ Subscribe รอ Live ของเขาเลยทีเดียว การตลาดแบบนี้ต้องถือว่าคิดและทำกันแบบวินาทีต่อวินาที 

ถึงแม้ว่าการทำการตลาดแบบนี้จะวางกลยุทธ์หรือแผนการตลาดมาเป็นอย่างดี แต่ก็ยังมีจุดที่เรียกว่าสดหรือก็ตรงตามชื่อนั่นล่ะครับ ว่า Live ที่มักจะมีปัญหาเกิดขึ้นหน้างานได้ตลอดเวลา ซึ่งส่วนนี้หลายๆคนที่กำลังคิดจะใช้งานและเริ่มใช้งาน จะต้องให้ความสำคัญว่าเรามีโอกาสทำมันเพียงครั้งเดียว ซึ่งรูปแบบนี้ในวงการเรานั้นมีถึง 3 ส. ที่เราต้องระวังมากๆ คือ เสียว เสี่ยง และเสี่ยว (เป็นคำเปรียบเปรยในวงการ) และแน่นอนครับ 

เสียวแรก มาจากการที่จะทำแบบนี้ จะต้องมีความแม่นทั้งบุคลากร เวลา และสิ่งที่ควบคุมไม่ได้เลยคือ สถานการณ์ ต้องตรงมาก และเป๊ะมาก หรือใกล้เคียงมากๆ 

ส่วน ส. ที่สอง คือ เสี่ยง ซึ่งซ้อนเหลื่อมไปถึงข้อแรกด้วยว่าจะเกิดการ Live ได้ไหม และเมื่อ Live แล้วจะออกมาดีเหมือนที่คิดไหม หรือออกมาแล้ว ถ้าเป็นผลไม่ดีจะทำอย่างไร อันนี้คนเคยทำรายการสด โดยเฉพาะคนที่ทำโทรทัศน์น่าจะทราบดี

ส่วนอันสุดท้าย คือ เสี่ยว นี่เป็นคำที่ขออธิบายว่าในความหมายจริงๆ เสี่ยว แปลว่า เพื่อน เพื่อนสนิท แต่ในบางกลุ่มมักจะเปรียบเปรยให้เข้าใจว่า คงจะมีแต่เพื่อนสนิทเท่านั้นกระมังที่รับงานคุณภาพประมาณนี้ได้ ซึ่งอันนี้พวกเราก็กลัวกัน เพราะใน Social Network แล้ว ถ้ามี Gossip ประเภทนี้เมื่อมีการคอมเมนต์ลงไป กระแสหรืออะไรต่างๆ ก็สามารถไปได้ไวกว่าการลงหน้าหนึ่งเลยทีเดียว

แต่ถึงแม้องค์ประกอบเหล่านี้จะดูน่ากังวัล แต่สำหรับนักการตลาดแล้วเป็นเรื่องท้าทายที่จะทดลองและเข้าไปชิมลางในกระบวนการเหล่านี้ หลายครั้งพบว่าการทำ Live นั้น น่าสนใจ และตื่นเต้น โดยเฉพาะเรื่องของกีฬา 

ไม่ว่าจะเป็นฟอร์มูล่าวัน (Formula 1) บาสเก็ตบอล หรือเบสบอล เรียกว่า ทำได้ดีและบอกเลยว่ามันดีมากพอๆ กับการได้ไปชมในสนาม และแน่นอนว่าในบางครั้งอาจจะมากกว่าที่คุณได้ไปชมที่สนามจริงๆด้วยซ้ำไป ความหลากหลายที่ได้เจาะลึกลงไปในเนื้อหา ได้ความรู้สึกและได้ข้อคิดของบุคคลคนนั้นๆ ว่าเขากำลังคิดอะไรในช่วงวินาทีนั้นๆ ได้เห็นบรรยากาศรอบๆตัว จนบางครั้งเหมือนเราได้รู้สึกและรับรู้ถึงความกดดันที่เขาได้รับกันเลยทีเดียว นั่นถือเป็นอีกสัมผัสที่ผู้รับสื่อแทบจะไม่มีโอกาสที่จะได้รับประสบการณ์นั้นๆ 

ด้วยเหตุนี้การทำการตลาดแบบเจาะลึกและต่อเนื่อง จะได้รับผลประโยชน์อย่างแท้จริง ซึ่งคล้ายคลึงกับการทำรายการเรียลลิตี้แต่อาจจะแตกต่างออกไปอีกนิด ด้วยเหตุผลของการเลือกที่จะถ่ายทอดในสิ่งที่คิดว่าน่าสนใจ มุมมองและแง่คิด อีกนัยหนึ่งอาจเป็นเบื้องหลังหรือความเป็นมาที่แน่นอน ความเป็นเซเลบย่อมมีสิ่งเหล่านี้ที่ถือว่ามี Value สำหรับแฟนคลับ และแฟนคลับก็ถือว่า 

นี่คือ Value ที่คนทั่วไปไม่มีโอกาสได้เห็น เนื้อหาที่บ่งบอกถึงความเป็นมาและแนวคิดอีกหลากหลาย สามารถสอดแทรกเนื้อหาและข้อมูลอย่างไม่มีขีดจำกัด ยิ่งถ้าเป็นการทำ Live กับศิลปินที่ทำงานเพลงหรือภาพยนตร์ มันยิ่งกว่าการได้เห็น Teaser หรือการได้ลองฟัง บางท่อนบางช่วงหรือเพลงที่เขากำลังจะแต่ง 

สิ่งเหล่านี้ต้องถือว่าท้าทาย และกลุ่มที่รับสื่อส่วนใหญ่นั้นถือว่าตรงกลุ่มอย่างแท้จริง เราคงต้องใช้เวลาและจับตาดูกระแสนี้อีกนิดในการใช้ Liveในการทำการตลาด และเชื่อมั่นว่านี่จะเป็นอีกสื่อที่จะสร้างความแตกต่าง และเป็น Space ที่เราจะใช้ในการนำเสนอเรื่องราวที่น่าติดตามและสร้างสรรค์กันต่อไป