'ทักษิณ' เล่นเกมถนัด

'ทักษิณ' เล่นเกมถนัด

เป็นความบังเอิญสุดที่จะกล่าว..อีกแล้ว

กรณีทักษิณ ชินวัตร เกิดเนื้อหอมขึ้นมาอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ และก็ใช่ว่า เรื่องบังเอิญแบบนี้จะไม่เคยเกิดขึ้น หรือที่รู้จักกันในสำนวนการเมืองไทยหลัง “ทักษิณ” หลบหนีไปอยู่ต่างประเทศว่า “โลกล้อมประเทศไทย

ทั้งนี้เว็บไซต์ worldpolicy.org ลงข่าวการเชิญ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการบรรยายเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก ในวันพุธที่ 9 มีนาคมนี้ โดยมีการระบุว่า เนื้อหาที่จะมีการพูดถึงเป็นข้อมูลเชิงลึกของเศรษฐกิจภูมิภาคและระดับโลก ตลอดจนความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของไทยที่มีต่อระบอบประชาธิปไตย

นอกจากนี้เว็บไซต์ของสถาบันนโยบายโลก หรือ World Policy Institute ยังให้ข้อมูลภูมิหลัง “ทักษิณ” ด้วย โดยเฉพาะด้านบวกตั้งแต่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี จนถูกรัฐประหาร รวมถึงช่วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

“ในการบรรยายวงปิดซึ่งเข้าฟังได้เฉพาะสมาชิกของสถาบันครั้งนี้ ดร.ทักษิณ จะนำเสนอมุมมองอันเฉียบคมในเรื่องเศรษฐกิจ และปัญหาอันซับซ้อนของประชาธิปไตยไทยที่ส่งผลต่อภูมิภาคและต่อโลก” ข้อความตอนหนึ่งระบุ (ไทยอีนิวส์ 28 ก.พ.59)

แน่นอน ถ้ามองแค่เป็นการให้ข้อมูลในเชิงยกย่องแขกรับเชิญที่จะมาบรรยาย ของสถาบันนโยบายโลก ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ดูเหมือนจะมีแต่ข้อดี เพื่อให้ผู้เข้าฟังสนใจ แต่การให้ข้อมูลในลักษณะนี้ถือว่า เป็นการพูดความจริงเพียงครึ่งเดียว และละเว้นที่จะไม่พูดถึงปัญหา

ปัญหาที่ว่านั้น ถูกนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมภายหลังสองพี่น้อง “ทักษิณ” และ “ยิ่งลักษณ์” ถูกยึดอำนาจ โดยเฉพาะ “ทักษิณ” ถูกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ตรวจสอบหลายคดี และหลายคดีก็ถูกฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หนึ่งในนั้นคือคดีที่ดินรัชดาฯ ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินจำคุก “ทักษิณ”2ปี จนเป็นเหตุให้ต้องหลบหนีอยู่จนทุกวันนี้ ส่วน “ยิ่งลักษณ์” กำลังถูกดำเนินคดีอันเนื่องมาจากโครงการรับจำนำข้าว ทั้งทางอาญาและแพ่ง

กลับมาที่การได้รับเชิญไปบรรยาย ประเด็นที่น่าวิเคราะห์ตามมาก็คือ แม้ว่าจะเป็น “วงปิด” แต่ทุกครั้งสิ่งที่ “ทักษิณ” บรรยาย ก็จะไม่เป็นความลับสำหรับประเทศไทย

ยิ่งกว่านั้น ยังไม่อาจคาดเดาได้ว่า “ทักษิณ” จะหลีกเลี่ยงการพูดถึงปัญหาการรัฐประหารสองครั้งในประเทศไทย ที่เป็นเหตุให้เขาและ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว มีชะตากรรมไม่แตกต่างกัน นั่นคือ การถูกดำเนินคดีหลังถูกยึดอำนาจได้อย่างไร และหลีกเลี่ยงที่จะนำเอาการรัฐประหารมาเป็นสาเหตุของปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำอยู่ในเวลานี้ได้หรือไม่ ซึ่งถ้าเป็นการพูดความจริงเพียงครึ่งเดียว อย่างที่มักเกิดขึ้นแทบทุกครั้ง ก็ถือว่าไม่เป็นธรรมกับคนไทย เจ้าของเรื่องราวที่ถูกนำไปพูดถึง

ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ “ทักษิณ” จะกล้าพูด หรือ กล้ายอมรับความจริงทั้งหมดได้หรือไม่ ว่าเขาเองก็มีส่วนทำให้เกิดปัญหาทางการเมือง ทั้งสมัยเป็นนายกรัฐมนตรี และการอยู่เบื้องหลังรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เพราะถ้าไม่กล้าพูดความจริง หรือไม่ยอมรับความจริงก็ยิ่งสร้างความแตกแยกในประเทศไทยมากขึ้น และทำให้ข้อมูลที่ไปบรรยายกลายเป็นให้ร้ายแต่ฝ่ายเดียวหรือไม่

ที่สำคัญการได้รับเชิญครั้งนี้ยังถือว่าไม่ธรรมดา และเป็นความต่อเนื่องอย่างยิ่ง กับการให้สัมภาษณ์สื่อระดับโลกอย่างวอลล์สตรีทเจอร์นัล ไฟแนนเชียลไทม์ส รอยเตอร์ส และอัลจาซีรา ในการวิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับ มีชัย ฤชุพันธุ์ อย่างรุนแรงอย่างที่รับรู้กัน รวมทั้งการยื่นข้อเสนอพร้อม “เจรจา” กับ “คสช.” ด้วย

นั่นอาจทำให้โลกเห็นว่า ปัญหาของประเทศไทยที่เป็นอยู่ คือ ปัญหาแย่งชิงอำนาจจาก “ทักษิณ” และไล่บี้ฝ่าย “ทักษิณ” จึงแม้แต่ร่างรัฐธรรมนูญ ก็เป็นการปิดกั้นการได้อำนาจของฝ่าย “ทักษิณ” แม้ไม่เป็นประชาธิปไตยตามแบบสากลก็ยอม มิใช่เป็นปัญหาจากการบริหารประเทศ ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน อย่างที่ฝ่าย “ทักษิณ” เคยออกมาพูด ดังนั้นข้อเสนอ “เจรจา” ถ้ามองมุมนี้ จึงแหลมคมในเกมต่อสู้ยิ่งนัก

คอยดูว่า “ทักษิณ” จะบรรยายในมุมมองที่สร้างสรรค์ สรุปบทเรียนและเสนอทางออก บนข้อมูลที่เป็นจริงอย่างครบถ้วนรอบด้าน เกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองไทยหรือไม่ ถ้าทำได้จึงจะมีบทสรุปไปในทางอื่นที่ไม่ใช่เกมถนัดอย่างที่ผ่านมา