ภัยอากาศแปรปรวน แล้งหนัก-หนาวจัด

ภัยอากาศแปรปรวน แล้งหนัก-หนาวจัด

“ภาวะภัยแล้ง” ที่ผู้เชี่ยวชาญหลายสำนักประเมินว่า จะ “แล้ง” หนักกว่าทุกปี

 ไม่เพียงทำให้ผลผลิตทางการเกษตร “ลดลง” ส่งผลให้ เงินในกระเป๋าเกษตรกร ซึ่งยังเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ ลดน้อยลงเท่านั้น 

แต่ยังกลายเป็น โมเมนตัม ทำให้ผู้คนที่เกี่ยวเนื่องได้รับผลกระทบทุกหย่อมหญ้า อาทิ ธุรกิจร้านจำหน่ายอุปกรณ์การเกษตร รถเพื่อการเกษตร ดีลเลอร์รถจักรยานยนต์ บริการรถไถที่แทบไม่มีผู้เข้ามาใช้บริการ เพราะพวกเขา “ผูกโยง” รายได้ไว้กับรายได้ของเกษตรกร ที่เป็นลูกค้าหลัก 

ผลกระทบภัยแล้ง เกิดขึ้นแล้วในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ ภาคกลาง อู่ข้าวอู่น้ำของคนไทย

จากการสอบถามผู้ประกอบการร้านจำหน่ายอุปกรณ์การเกษตร เคมีที่ใช้ในการเกษตร ระบุตรงกันว่า “ยอดขาย” หายไปกว่า 50% เช่นเดียวกับ ดีลเลอร์รถจักรยานยนต์ ที่แน่นอนยอดขายรถใหม่ปรับตัวลดลง

“วันชัย ลี้วัฒนา” อายุ 35 ปี กรรมการผู้จัดการบริษัทคูโบต้า อยุธยา (ฮั้วเฮงหลี) ผู้จัดจำหน่ายรถเพื่อการเกษตร บอกว่า ยอดขายชะลอชัดเจนและมองว่าแล้งจะยาวนาน จึงจัดโปรโมชั่นเพิ่มขึ้นและส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย ให้ความรู้กับชาวบ้านที่ทำการเกษตรในช่วงภัยแล้งในเรื่องการใช้น้ำ

โดยหวังว่า..หากเกษตรกรมีความรู้ ก็จะขายรถเพื่อการเกษตรได้เพิ่มขึ้น 

ขณะที่ “วีณา ตะโนรี” อายุ 54 ปี เจ้าของร้านตะโนรี ขายรถจักรยานยนต์ บอกว่า ขณะนี้ประสบปัญหาหลายด้านจากภัยแล้ง เพราะลูกค้าบางส่วนไม่จ่ายค่างวดรถ บางครั้งต้องยอมขาดทุน เธอรับสภาพ

“เราอยู่ได้เพราะลูกค้า ถามว่าตอนนี้ลูกค้าลดลงไหม ลดลง และถูกโกงด้วย เช่น มาดาวน์รถออกไปแล้วก็ไม่ส่งค่างวด ช่วงนี้ต้องหาอย่างอื่นมาเสริมรายได้ จะขายรถอย่างเดียวอยู่ไม่ได้”

ภัยแล้ง จึงเป็นใช่ปัญหาของเกษตรกรเพียงอย่างเดียว แต่เป็น ปัญหาระดับชาติ

เช่นเดียวกับความเห็นของ ธุรกิจขนาดใหญ่ ที่ต่างกังวลว่า ภัยแล้ง จะอีกหนึ่ง “ตัวแปรหลัก” ที่ส่งผลกระทบต่อยอดขายสินค้า ทำให้ต้องรัดเข็มขัดการใช้จ่ายเงินในองค์กร หาแนวทางการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงเร่ง “สำรองน้ำ” ให้เพียงพอกับกระบวนการผลิตสินค้า แม้ว่ากรมชลประทานจะออกมาบอกว่า น้ำในเขื่อนหลัก 4 แห่ง เหลืออยู่กว่า 3,500 ล้านลูกบาศก์เมตร เพียงพอที่จะใช้ได้จนถึงเดือน ก.ค. หรือในอีก “200 วันข้างหน้า”

สอดรับกันพอดี กับสิ่งที่่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลีย ระบุว่า ปรากฎการณ์เอลนีโญ (น้ำน้อย-แล้ง) ในมหาสมุทรแปซิฟิก จะถึงจุดสิ้นสุดราวกลางเดือนพ.ค. หลังจากนั้นสภาพอากาศจะเข้าสู่ภาวะ ลานีญา ทำให้มีปริมาณน้ำ “มากกว่าปกติ” ในพื้นที่แถบทะเลจีนใต้ รวมถึงประเทศไทย

มองอีกด้าน นี่คือภาวะ แปรปรวน ของสภาวะอากาศ

อากาศหนาวฉับพลันที่เกิดขึ้นกับ “ประเทศไทย”  ระหว่าง 24-26 ม.ค. 59 โดยกรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศว่าเกิดจากมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีน แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้อุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็ว 6-10 องศาเซลเซียล ขณะที่อีกหลายประเทศทั่วโลก กำลังเผชิญภัยหนาว อาทิ พายุถล่มที่สหรัฐ และอากาศหนาวเหน็บที่จีน

ถามว่า “เราจะปรับมือความแปรปรวน” อย่างไร

เป็นเรื่องที่ตอบยาก

ในเมื่อพวกเราเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา

“Climate Change” กำลังจะเปลี่ยนโลก ..!!