เทคนิครวย (1)

คำตอบของผมก็คือ การให้ ครับ

‘ให้’ ในงาน ‘ให้’ ในธุรกิจ ‘ให้’ กับลูกค้า

ฟังดูอาจจะสวนทางกับคนอื่นๆ อยู่บ้าง แต่ผมก็พิสูจน์ความจริงข้อนี้มาแล้ว

ตอนผมเริ่มทำธุรกิจใหม่ๆ นักธุรกิจไต้หวันซึ่งผมไปรับงานเขาสอนผมว่า มีหลักง่ายๆ ให้ยึด 2 ข้อ และถ้าทำได้ ก็ประสบความสำเร็จแน่นอน

ข้อแรก ลูกน้องเจ็บป่วย ต้องดูแลรักษา ดึกดื่นค่อนคืนอย่างไร ต้องพาไปหาหมอทันที ห้ามพูดว่ารอพรุ่งนี้เช้า

ข้อสอง ถึงเวลาจ่ายเงินไม่ว่าจะกลางเดือน ปลายเดือน ต้องจ่ายให้ตรงเวลา

เขาบอกว่า ทำสองเรื่องนี้ได้ ประสบความสำเร็จแน่นอน ในการเป็นเถ้าแก่บริษัทเล็กๆ หรือใหญ่ๆ

แต่จะทำเรื่องนี้ให้ได้อย่างไรนั้น เราต้องไปหาวิธีการเอง

ตอนนั้นผมยังเป็นมือใหม่ เขาว่าอย่างไรก็ต้องฟัง เชื่อตามนั้น และยึดถือเป็นคำมั่นสัญญา 

แล้วก็พบว่า คำแนะนำพื้นๆ นี่แหละ มันเป็นพื้นฐานที่ดี เป็นสิ่งที่ถูกต้อง

แล้วมันก็กลายเป็นคำปฏิญาณตน เป็นสิ่งที่ผมยึดมั่นมาตลอดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2528 จนถึงปัจจุบัน

เรื่องจ่ายเงินตรงเวลาสำคัญเพราะ..ถ้าเงินไม่มี ลูกน้อง ก็เดือดร้อน หรือครอบครัวเขา ลูกเมียเขาก็เดือดร้อน

ดึกๆ ดื่นๆ เที่ยงคืน ก็ต้องพาลูกน้องไปหาหมอ หมายความว่าต้องดูแลลูกน้อง ดูแลทุกข์สุขพนักงานให้ดี

ผลจากการที่เราเป็นฝ่ายให้กับลูกน้อง ดูแลลูกน้องดี ลูกน้องจึงติดสอยห้อยตามกันมาตลอด บริษัทจึงมีคนทำงานสนับสนุนตลอด 

เรียกว่า การยึดหลักนี้ ทำให้เราประสบความสำเร็จเรื่อยมา

แต่แนวคิดนี้ก็ทำให้เครียดเหมือนกัน เพราะใกล้สิ้นเดือนที ก็ต้องวิ่งสู้ฟัด หาเงินมาจ่ายลูกน้องให้ได้

อีกตัวอย่างหนึ่งของการให้ในงาน ซึ่งผมมาค้นพบในตอนหลังว่าช่วยให้รวยได้ คือ เมื่อมือใหม่อย่างผมได้งานรับเหมาทำสะพานที่สนามบินดอนเมือง

ตอนนั้นเราก็คิดหาเทคนิคการก่อสร้าง เพื่อให้งานออกมาดี ปราณีต เพราะถือว่า ที่นี่เป็นหน้าตาของบ้านเมือง

ผลลัพธ์..เราขาดทุนกับงานชิ้นนั้น เพราะราคาที่เราเสนอไปก็ไม่สูง และงานก็มีดี ประทับใจเจ้าของงาน

แต่สุดท้ายด้วยความที่เราตั้งใจทำงาน ทางโครงการเลยให้งานชิ้นอื่นต่อ ก็ได้กำไรมาช่วยๆ กันไป

ด้วยความรับผิดชอบนี่แหละ ทำให้ผู้รับเหมารายใหญ่หลายราย ชักชวนเราไปรับงานต่อ ทั้งอิตาเลียนไทย ช. การช่าง โตคิว

มันก็เป็นเหตุ เป็นปัจจัยกันนะครับ การยึดโยงสิ่งที่ถูกต้อง การให้ในงานที่ทำเต็มที่ ก็เป็นเหตุให้เจริญก้าวหน้า

ตอนต่อไปจะว่าด้วยเรื่องการให้ในงานแล้วรวยต่อนะครับ.