“Baidu” เซิร์ช เอ็นจิ้น แห่งแดนมังกร
ผมได้ฟังสัมภาษณ์ Robin Li ผู้ก่อตั้ง Baidu Search engine อันดับหนึ่งของจีน ทาง CNN ได้รับรู้ถึงความเก่งกาจของผู้ชายคนนี้
จากนักศึกษาจีนธรรมดา ได้ไปเรียนต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ทางด้านคอมพิวเตอร์ แล้วกลับมาเปิดบริษัทที่ประเทศอันเป็นบ้านเกิด สร้าง Baidu จนเป็นผู้นำ เหนือ Google search engine อันดับ 1 ของโลก
จนปัจจุบัน Robin Li มีทรัพยสิน กว่า 44,000 ล้านบาท แถมยังเก่งขนาดที่ Mark Zuckerberg เจ้าพ่อ Facebook เดินทางไป เยี่ยมชมกิจการของ Baidu ที่ประเทศจีนด้วยตัวเองเลยทีเดียว
ปัจจุบันประเทศจีนเป็นประเทศที่มีผู้ใช้บริการออนไลน์มากที่สุดในโลก โดยที่จำนวนประชากรออนไลน์ของจีนเหล่านี้มีการออนไลน์ผ่านอุปกรณ์พกพาทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมากกว่า 2 เท่าตัว
จากข้อมูลเมื่อสิ้นสุดไตรมาส 2 ที่ผ่านมาพบว่า จีนมีประชากรออนไลน์ถึง 540 ล้านคน เพิ่มขึ้น 11% จากปีที่แล้ว โดยจำนวนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตบนอุปกรณ์พกพานั้นเพิ่มขึ้น 22% เป็น 390 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนถึง 70% เมื่อเทียบกับจำนวนพลเมืองออนไลน์แดนมังกรทั้งหมด ซึ่งทำให้ผู้นำ search engine อย่าง Baidu มีส่วนแบ่งตลาด search engine ราว 79% (ข้อมูลไตรมาส 2 /2016) ขณะที่ Google ซึ่งครองอัน 2 ที่ส่วนแบ่งอยู่ที่ 16% ต้องปรับตัว สร้าง Mobile browser ของตัวเองขึ้นมา
Baidu ได้เปิดตัวโปรแกรมเปิดเว็บไซต์บนอุปกรณ์มือถือหรือ mobile browser อย่างเป็นทางการ เบื้องต้นให้บริการผ่านเบราว์เซอร์สามารถทำงานได้บนอุปกรณ์ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) เวอร์ชัน 2.2 ขึ้นไป รวมถึงอุปกรณ์วินโดวส์โฟน 7 (Windows Phone 7) และซิมเบียน (Symbian) ตัวโปรแกรมสามารถรองรับเทคโนโลยี HTML5 รวมถึง WebGL, WebSocket, Web Worker บนเดสก์ท็อปราว 1 แสนแอปพลิเคชันได้บนอุปกรณ์พกพานและได้ลงทุนสร้างศูนย์คลาวด์คอมพิวติ้งเพื่อรองรับความต้องการของชาวออนไลน์แดนมังกร ซึ่งมีแนวโน้มใช้งานอินเทอร์เน็ตบนอุปกรณ์พกพามากขึ้นต่อเนื่อง
จุดเด่นของ Baidu คือระบบค้นหาด้วยเสียงภาษาจีนเพื่อตอบสนองการใช้ชีวิต นอกบ้านของชาวจีน และ เพิ่มความสะดวก และ ความปลอดภัย ในการใช้งานระหว่างเดินทาง ไม่ต้องเสียเวลาไปพิมพ์
สำหรับผู้ที่ทำการค้ากับจีน นอกเหนือจาก Alibaba แล้ว ถ้าคุณจะเข้าถึงคนจีนจริง คุณคงต้องเรียนรู้ว่า จะทำอย่างไรให้ คนจีนที่ใช้ Baidu เป็น search engine ที่มี Market share เกือบ 80 % ค้นหา บริการ หรือ สินค้าของคุณได้ เพราะว่าลูกค้าของคุณ ไม่ได้ใช้แค่ Google อีกต่อไป เพราะฉะนั้น ทั้งภาคธุรกิจและเอกชนบ้านเราเองก็ควรจะตระหนักถึงเรื่องเหล่านี้นะครับ เพราะอย่างที่เราทราบกันดี มีลูกค้าชาวจีนที่อยากเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยจำนวนมากขึ้นทุกๆ ปี
เราจึงจำเป็นต้องคำนึงถึงทั้งเรื่องวิธีการหรือช่องทางการสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ครับ เพื่อให้งบประมาณที่เราต้องสูญเสียไปเพื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์นั้นคุ้มค่า และเกิดประสิทธิภาพสูงสุดนั่นเองครับ
