ธุรกิจที่เป็นมิตรกับเด็ก

ธุรกิจที่เป็นมิตรกับเด็ก

สถาบันไทยพัฒน์ ร่วมมือกับองค์การยูนิเซฟ รณรงค์ให้บริษัทในประเทศไทย ตระหนักถึงการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับเด็ก

องค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) องค์การช่วยเหลือเด็ก (Save the Children) และข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact) ได้ร่วมกันจัดทำและประกาศหลักการ “สิทธิเด็กและหลักปฏิบัติทางธุรกิจ” (Children’s Rights and Business Principles - CRBP) เมื่อปี พ.ศ.2555 เป็นเวลาสองปีนับจากความริเริ่มนี้เกิดขึ้นในปี พ.ศ.2553

ในปีนี้ สถาบันไทยพัฒน์ ได้มีความร่วมมือกับองค์การยูนิเซฟ เพื่อรณรงค์ ให้บริษัทที่มีถิ่นฐานการดำเนินงานในประเทศไทย ตระหนักถึงการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับเด็ก ทั้งในสถานประกอบการ (Workplace) บทบาทในตลาด (Marketplace) และบทบาทในชุมชนและสิ่งแวดล้อม (Community and Environment) โดยอ้างอิงหลักการ CRBP ซึ่งประกอบด้วย 10 หลักการสำคัญ ได้แก่

    หลักการที่ 1 เคารพสิทธิเด็กและให้คำมั่นที่จะสนับสนุนสิทธิเด็ก                                                                    
    หลักการที่ 2 สนับสนุนการขจัดปัญหาแรงงานเด็กในการดำเนินงานและการติดต่อทางธุรกิจ
    หลักการที่ 3 จัดหางานที่มีคุณค่าให้แก่คนงานที่เป็นเยาวชน ตลอดจนพ่อแม่ และผู้ดูแลเด็ก
    หลักการที่ 4 คำนึงถึงความคุ้มครองและความปลอดภัยของเด็กในสถานประกอบการและการดำเนินธุรกิจ
    หลักการที่ 5 ทำให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์และบริการมีความปลอดภัยและมีการส่งเสริมความตระหนักเกี่ยวกับสิทธิเด็กผ่านผลิตภัณฑ์และบริการ
    หลักการที่ 6 ใช้สื่อโฆษณาและการตลาดในทางที่เคารพและส่งเสริมสิทธิเด็ก
    หลักการที่ 7 เคารพและส่งเสริมสิทธิเด็ก เมื่อดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม การถือครองและการใช้ประโยชน์จากที่ดิน หลักการที่ 8 คำนึงถึงสิทธิเด็ก ในการสร้างระบบรักษาความปลอดภัยต่างๆ
    หลักการที่ 9 ช่วยคุ้มครองเด็กที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ฉุกเฉินหรือภัยพิบัติต่างๆ
    หลักการที่ 10 หนุนเสริมบทบาทของรัฐและชุมชนในการคุ้มครองและเติมเต็มสิทธิเด็ก

เป้าประสงค์ของสถาบันไทยพัฒน์และองค์การยูนิเซฟภายใต้ความริเริ่มนี้ เพื่อต้องการยกระดับกิจกรรมความช่วยเหลือที่องค์กรธุรกิจดำเนินการแก่เด็กและเยาวชน จากแนวคิดบนฐานของการทำการกุศล (Charity-based) สู่การทำงานโดยใช้แนวคิดฐานสิทธิ (Rights-based) ที่ขับเคลื่อนด้วยกระบวนงานหลักทางธุรกิจ (Core Business) แทนการจัดกิจกรรมเฉพาะกิจเป็นรายครั้ง (Event) โดยแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่

ระยะที่หนึ่ง: กิจกรรมสำหรับผู้บริหาร ในรูปแบบ Sharing and Discussion เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเรื่องที่เกี่ยวกับสิทธิเด็กและหลักปฏิบัติทางธุรกิจ ซึ่งประกอบด้วย 10 หลักการสำคัญข้างต้น การหารือเพื่อพิจารณาแนวทางในการส่งเสริมการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับเด็ก และวิธีการที่องค์กรธุรกิจจะสามารถนำสิทธิเด็กไปกำหนดไว้ในนโยบายและจรรยาบรรณทางธุรกิจ

ระยะที่สอง: กิจกรรมสำหรับผู้ดูแลงานด้าน CSR และผู้ปฏิบัติงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเด็ก ในรูปแบบ Training and Workshop เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการประเมินผลการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับเด็ก รวมทั้งการค้นหาโอกาสในการสนับสนุนสิทธิเด็กตามหลักปฏิบัติทางธุรกิจ ตลอดจนขอบเขตการปฏิบัติงานที่บริษัทสามารถนำสิทธิเด็กไปผสมผสานเข้ากับนโยบายทางธุรกิจและกระบวนการบริหารจัดการองค์กร

ระยะที่สาม: กิจกรรมสำหรับผู้จัดทำข้อมูลและการรายงาน ในรูปแบบ Coaching and Exercise เพื่อชี้แนะแนวทางในการรวบรวมและเรียบเรียงข้อมูลการดำเนินงานที่เกี่ยวกับเด็ก บูรณาการเข้าไว้ในการรายงานแห่งความยั่งยืน ตามกรอบสากลของ GRI โดยครอบคลุมมากกว่าการใช้แรงงานเด็กและการให้ความช่วยเหลือในชุมชน

โดยวิสาหกิจที่เข้าร่วมโครงการ จะได้รับหนังสือ “เด็กเป็นเรื่องของทุกคน” Workbook ฉบับ 2.0 การอบรมให้ความรู้ (Training) เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับเด็ก และการอบรมแนะนำ (Coaching) เกี่ยวกับกระบวนการเขียนรายงานตามกรอบมาตรฐาน GRI (Global Reporting Initiative) ในส่วนของรายละเอียดข้อมูลการดำเนินงานที่เกี่ยวกับเด็ก ณ สถานประกอบการ

ทั้งนี้ วิสาหกิจที่ผ่านการเข้าร่วมกิจกรรมทั้ง 3 ระยะ จะได้รับประกาศนียบัตรจากสถาบันไทยพัฒน์ โดยการสนับสนุนขององค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) ด้วย

องค์กรธุรกิจที่สนใจ สามารถติดต่อเพื่อเข้าร่วมโครงการ หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมทางเว็บไซต์ http://www.thaipat.org ได้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป