หัวอก 'นกแก้วนกขุนทอง'

หัวอก 'นกแก้วนกขุนทอง'

ลีลาโวหารของนักโต้วาทีอย่าง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กรณีจะขออนุญาต คสช. แถลงข่าวสถานการณ์นกกรงหัวจุกในประเทศไทย

 กลายเป็น “สงครามปาก” สองฟากฝ่ายอีกจนได้

“ณัฐวุฒิ” พยายามอธิบายเพิ่มเติมว่า เหตุที่ต้องเป็น “นกกรงหัวจุก” เพราะมนุษย์ผู้มีกำลังและอำนาจ เอานกส่วนหนึ่งไปชุบเลี้ยงแล้วสอนให้ขัน จัดแข่งชิงรางวัลโดยสร้างกติกาให้นกของฝ่ายตัวชนะให้ได้ ไม่อย่างนั้น ก็หาเรื่องจัดการนกที่เป็นคู่แข่งให้สิ้นซากแล้วค่อยเริ่มประกวด

พูดง่ายๆ อดีตนักโต้วาทีจอแก้ว ก็หาเรื่องแขวะ “นักแต่งตั้ง” หรือ “อดีต ส.ส.” จำนวนหนึ่งที่ทำงานสนอง คสช.

ถ้าเปรียบเทียบนกกรงหัวจุกในทำนองนี้ อาจเปรียบได้กับ “นักเลือกตั้ง” ที่ถูก “ทุนใหญ่” กวาดต้อนมาเลี้ยงไว้ในกรงใหญ่ แล้วก็สอนให้ขันไปตามที่ “นายทุนพรรค” ต้องการ ซึ่งนกกรงหัวจุกตัวไหนขันไม่ถูกใจเจ้าของ ก็ถูกไล่ออกจากพรรค

ณัฐวุฒิรู้อยู่แก่ใจดี และเข้าใจในชะตากรรม นกเลี้ยงไม่ว่าจะอยู่ใน กรงเงินกรงทองหรือ กรงสีเขียว

สิ่งที่เราปฏิเสธกันไม่ได้คือ ระบอบอุปถัมภ์ยังฝังลึกในสังคมไทย ไม่ว่า “นักแต่งตั้ง” หรือ “นักเลือกตั้ง” ต่างก็เป็นนกกรงหัวจุกได้เหมือนกัน

ว่ากันว่า สภาแต่งตั้ง พ.ศ.นี้ มันไม่ได้มีแค่ “นกกรงหัวจุก” ทั้งสภา สนช. และสภา สปช. ต่างก็มี “นกแก้วนกขุนทอง” อยู่ในสภา

นกแก้วนกขุนทองสายพันธุ์ที่มาจากการแต่งตั้ง กำลังเคลื่อนไหวอย่างหนักในชั่วโมงนี้

พวกหนึ่ง เสนอให้สมาชิก สปช.คว่ำร่างรัฐธรรมนูญ เพราะเห็นว่าสถานการณ์ยังไม่พร้อมต่อการเลือกตั้ง และยังไม่เกิดบรรยากาศปรองดอง

คำว่า ไม่พร้อม และ ไม่เกิดบรรยากาศปรองดอง นั้น หมายถึงความขัดแย้งเรื่อง “ขั้วสี” ยังดำรงอยู่ และเลือกตั้งเสร็จ มีรัฐบาลมาจากขั้วสีหนึ่ง อีกขั้วสีหนึ่งก็จะมาประท้วง รบราฆ่าฟันกันอีก

อันที่จริง มีเหตุผลลึกๆ ที่พวกนกแก้วนกขุนทอง ไม่ยอมบอกชาวบ้านคือ คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ไม่ยอมแก้ไขให้ ส.ว.มาจากการสรรหาสถานเดียว หรือให้มี ส.ว.สรรหากับ ส.ว.เลือกตั้ง ก็ได้แต่ต้องเขียนไว้ในบทเฉพาะกาลว่า 4 ปีแรก ต้องให้มี ส.ว.สรรหาสภาเดียวไปก่อน

นกแก้วนกขุนทองเคยเป็น ส.ว.สรรหา ตามรัฐธรรมนูญ 2550 และไม่ปรารถนาที่จะอยู่ร่วมโลกกับ “ส.ว.เลือกตั้ง” เนื่องจากพวกนี้เป็นสายพันธุ์ทุนสามานย์

ตรงกันข้าม หากคว่ำรัฐธรรมนูญสำเร็จ นกแก้วนกขุนทองที่เป็น สนช. ก็ยังอยู่ในตำแหน่งต่อไป ส่วนนกแก้วนกขุนทองใน สปช. ก็เตรียมแต่งตัวเป็นสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ หรือ สปช.ใหม่อีกรอบ

ลึกๆแล้ว พวกเขาคุยกันในวงลับ เชื่อว่าหลังเลือกตั้งทั่วไป เครือข่าย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็ชนะเลือกตั้งเหมือนเดิม ฉะนั้น ก็ไม่ควรเร่งรีบเลือกตั้งให้เข้าทางฝ่ายตรงข้าม

นกแก้วนกขุนทองอีกพวกหนึ่ง เสนอตั้งคำถามทำประชามติ “ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง” โดยให้ คสช.ปฏิรูปประเทศต่อไปอีก 2 ปี จึงจัดให้มีการเลือกตั้ง

การตั้งคำถามทำประชามติ “ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง” นั้นเป็นการทำตามความเรียกร้องของประชาชนที่มีความต้องการเช่นนั้น ซึ่งอาจหมายถึง “มวลมหาประชาชน” ที่เคยเปล่งคำขวัญปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

นกแก้วนกขุนทองพยายามอ้างเรื่องปฏิรูปประเทศ แต่พฤติกรรมที่ปรากฏ ก็ไม่ต่างไปจาก “นักเลือกตั้ง” ที่เล่นพรรคเล่นพวก และแสวงหาผลประโยชน์

อย่างที่เคยเขียนไว้ในคอลัมน์นี้ “นักเลือกตั้ง” หรือ “นักแต่งตั้ง” ต่างก็เป็นปุถุชนคนเดินดิน ไม่ใช่เทวดา ที่จะไม่แปดเปื้อนราคีคาว 

การเมืองเรื่องนก ก็มาจบที่ นกจำพวกหนึ่ง ซึ่งเป็นนกสายพันธุ์พิเศษที่มักได้ดิบได้ดีในสถานการณ์พิเศษ จึงไม่แปลกที่วันนี้ พวกเขาส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวราวกับว่าจะสูญเสียของรักของหวง